สายการบินเจ็ทสตาร์ในเครือของแควนตัส กรุ๊ป ประกาศแผนเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศใหม่ด้วยเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ – เมลเบิร์น และภูเก็ต – ซิดนีย์ ซึ่งจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2549 นี้เป็นต้นไปในอัตราค่าโดยสารราคาประหยัด
ทั้งนี้ เจ็ทสตาร์เตรียมเปิดให้บริการในเส้นทางบินระหว่างประเทศสู่จุดหมายปลายทาง 6 แห่ง รวมทั้งกรุงเทพฯ และภูเก็ต เริ่มด้วยเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากเมลเบิร์นสู่กรุงเทพฯ ที่จะเริ่มให้บริการในวันที่ 23 พฤศจิกายน ศกนี้ โดยกำหนดการดังกล่าวขึ้นอยู่กับการพิจารณาอนุมัติตามระเบียบข้อบังคับทางการบิน หลังจากนั้น ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2549 เจ็ทสตาร์จะเปิดให้บริการเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากซิดนีย์สู่ภูเก็ต สำหรับเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ และภูเก็ตจะเปิดให้บริการ 3 เที่ยวในแต่ละสัปดาห์เช่นเดียวกับเที่ยวบินตรงจากเมลเบิร์นและซิดนีย์
ในระยะแรก บริการดังกล่าวจะใช้เครื่องบินแอร์บัส เอ330-200 (ขนาด 303 ที่นั่ง) มีชั้นโดยสาร 2 ชั้น ประกอบด้วยชั้นสตาร์คลาส ซึ่งเป็นห้องโดยสารระดับพรีเมี่ยม และชั้นประหยัด ในอนาคต เจ็ทสตาร์จะปรับเปลี่ยนไปใช้ฝูงบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์รุ่นใหม่ เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 เป็นต้นไป
เพื่อต้อนรับการเปิดบริการเที่ยวบินดังกล่าว เจ็ทสตาร์เปิดรับจองที่นั่งโดยสารในเที่ยวบินภูเก็ต – ซิดนีย์ผ่านเว็บ Jetstar.com ในราคาพิเศษสุดเริ่มต้นที่ 910 บาทต่อเที่ยว* และเที่ยวบินกรุงเทพฯ – เมลเบิร์นในราคาเริ่มต้น 1,000 บาทต่อเที่ยว ราคาค่าโดยสารดังกล่าวไม่รวมค่าเชื้อเพลิง ค่าธรรมเนียม และค่าภาษีสนามบิน กำหนดการรับจองจะสิ้นสุดในวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2549 หรือก่อนหน้านั้นในกรณีที่ที่นั่งถูกจองหมด อัตราค่าโดยสารดังกล่าวจะต้องใช้เดินทางระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน 2549 และวันที่ 30 มิถุนายน 2550 รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ Jetstar.com
เมื่อเร็วๆ นี้ มร.จีออฟฟ์ ดิกซัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด สายการบินแควนตัส และ มร. อลัน จอยซ์ ประธานผู้บริหารสูงสุด สายการบินเจ็ทสตาร์ ได้แนะนำอัตราค่าโดยสารราคาพิเศษของสายการบินเจ็ทสตาร์ รวมทั้งความถี่ของการให้บริการเที่ยวบิน และแคมเปญส่งเสริมการตลาดใหม่ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศออสเตรเลีย
และในวันนี้ มร. เดวิด ค็อกสการ์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายราคาค่าโดยสารและช่องทางจำหน่ายปกติ สายการบินเจ็ทสตาร์บินตรงสู่ประเทศไทยเพื่อแนะนำรายละเอียดดังกล่าวให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทย ร่วมกับนายธงชัย วิบูลย์ศักดิ์สกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย การท่องเที่ยวออสเตรเลีย และมิส ชอง พิท เหลียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเจ็ทสตาร์เอเชีย
“ด้วยเครื่องบินขนาดลำตัวกว้าง 12 ลำ ทำให้เจ็ทสตาร์สามารถขยายเครือข่ายเส้นทางบินสู่จุดหมายต่างๆ ในประเทศออสเตรเลียและประเทศอื่นๆ ได้อย่างแพร่หลาย” มร. ค็อกสการ์ กล่าวและเสริมว่า “การเปิดตัวบริการดังกล่าว ถือเป็นก้าวสำคัญของเจ็ทสตาร์ในการสร้างลู่ทางใหม่ๆ ด้วยเส้นทางบินระยะไกลที่สร้างความคุ้มค่าสูงสุดให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยและนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการเดินทางสู่ออสเตรเลีย”
นอกจากนี้ มร. ค็อกสการ์ ยังกล่าวถึงอัตราค่าโดยสารพิเศษที่เจ็ทสตาร์มอบให้แก่ลูกค้าชาวไทยเนื่องในโอกาสการเปิดตัวบริการใหม่ดังกล่าวว่า “เจ็ทสตาร์เป็นผู้นำในตลาดสายการบินที่ให้บริการด้วยค่าโดยสารประหยัดในออสเตรเลีย และคาดว่า เป็นสายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินสู่ประเทศไทยด้วยค่าโดยสารต่ำสุด เพื่อสนับสนุนผู้บริโภคให้เดินทางโดยเครื่องบินบ่อยครั้งขึ้น
“กรุงเทพฯ และภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของภูมิภาคเอเชียที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวออสเตรเลีย และด้วยการได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายจากผู้บริโภคชาวออสเตรเลีย ในฐานะที่เป็นสายการบินที่มีค่าโดยสารประหยัด ทำให้เจ็ทสตาร์เชื่อมั่นว่า จะมีนักเดินทางประจำและรายใหม่เดินทางไปยังกรุงเทพฯ และภูเก็ตมากขึ้น” มร. ค็อกสการ์ กล่าวเสริม
นอกจากนี้ การออกแบบห้องโดยสารเป็น 2 ชั้นโดยสาร ซึ่งประกอบด้วยชั้นโดยสารสตาร์คลาส และชั้นประหยัด เป็นการมอบทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้โดยสารที่ต้องการความพิถีพิถันของบริการบนเครื่อง รวมทั้งความสะดวกสบายและเพลิดเพลินระหว่างการเดินทางในราคาที่คุ้มค่าสูงสุด
“เจ็ทสตาร์มีบริการบนเครื่องหลากหลายประเภทในทุกเส้นทางบินระหว่างประเทศ เพื่อให้ผู้โดยสารเลือกใช้ได้ตามความต้องการตลอดการเดินทาง ทั้งยังสามารถได้รับความคุ้มค่าจากค่าโดยสารราคาประหยัดในทุกเส้นทางและทุกวัน” มร. ค็อกสการ์ กล่าว
“ในชั้นโดยสารสตาร์คลาส จะติดตั้งเก้าอี้โดยสารในรูปแบบเดียวกับชั้นนักธุรกิจบนเที่ยวบินในประเทศของสายการบินแควนตัส รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อย่างครบครัน ได้แก่ การติดตั้งปลั๊กไฟในที่นั่ง การได้รับสิทธิเช็ค-อินและขึ้นเครื่องเป็นอันดับแรก และรับน้ำหนักสัมภาระบรรทุกไปกับเครื่องเพิ่มขึ้น การได้รับอาหารและเครื่องดื่มและบริการวิดีโอ ออน ดีมานด์ สำหรับเมนูอาหารจะมีทั้งเมนูอาหารเอเชียและตะวันตก โดยได้รับเกียรติจากมร. นีล เพอร์รี่ เชฟระดับแนวหน้าของออสเตรเลียเป็นผู้คิดค้นและจัดทำขึ้น” มร. ค็อกสการ์ กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด สามารถเลือกซื้ออาหารและของว่างในช่วงจองซื้อบัตรโดยสาร หรือบนเครื่อง
สิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ผู้โดยสารจะได้รับจากเส้นทางบินระหว่างประเทศระยะไกลสู่ประเทศออสเตรเลียของเจ็ทสตาร์ ได้แก่ บริการเช็ค-อินตรงของผู้โดยสารพร้อมสัมภาระที่ต้องการต่อเครื่องของเจ็ทสตาร์หรือแควนตัสในเส้นทางบินระหว่างประเทศสู่จุดหมายอื่นๆ และบริการเลือกที่นั่งโดยสาร บริการอาหาร และบริการเพื่อความบันเทิงบนเครื่องสำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัดก่อนเครื่องบินขึ้น และด้วยคุณลักษณะพิเศษเหล่านี้ ทำให้เจ็ทสตาร์ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ชั้นนำในเครือแควนตัส กรุ๊ป
ธุรกิจการบินของเจ็ทสตาร์ คาดว่า จะมีการเติบโตเชิงรุกในอีก 3 ปีข้างหน้า และช่วยเสริมสร้างเครือข่ายการบินระหว่างประเทศของแควนตัสให้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ เจ็ทสตาร์ เอเชีย และเจ็ทสตาร์ แอร์เวย์สยังมีการผนวกรวมเป็นแบรนด์เดียว ภายหลังการผนวกรวมเว็บไซด์ของเจ็ทสตาร์ เอเชีย และเจ็ทสตาร์ แอร์เวย์สเข้าไว้ด้วยกันเป็นเว็บไซด์เดียวคือ Jetstar.com เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
“Jetstar.com เป็นเว็บไซด์และช่องทางการจองตั๋วโดยสารเพียงแห่งเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในการเลือกบริการเที่ยวบินสู่จุดหมายภายในภูมิภาคเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว” มร. ค็อกสการ์ กล่าวทิ้งท้าย
ลูกค้าสามารถเข้าไปที่เว็บไซด์ Jetstar.com เพื่อจองที่นั่งโดยสารในทุกเที่ยวบินของเจ็ทสตาร์ เจ็ทสตาร์ เอเชีย และแวลูแอร์ เว็บไซด์ดังกล่าวได้รับการออกแบบให้ทันสมัยและน่าสนใจด้วยเนื้อหาที่สอดคล้องบริการในแต่ละประเทศ และมีให้บริการในหลากหลายภาษา
สำหรับผู้ต้องการจองที่นั่งโดยสารในเที่ยวบินเจ็ทสตาร์ สามารถเข้าไปที่ www.jetstar.com หรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายของเจ็ทสตาร์ ซึ่งคือ บริษัท ฮอลิเดย์ ทัวร์ แอนด์ ทราเวล ในเครือของแควนตัส กรุ๊ป (แควนตัส กรุ๊ปถือหุ้น 75%) ฮอลิเดย์ ทัวร์ แอนด์ ทราเวล มีศูนย์คอลล์เซ็นเตอร์เพื่อตอบข้อซักถามจากลูกค้าตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30 – 17.30 น. และวันเสาร์ เวลา 8.30 – 12.30 น. สำหรับการจองตั๋วโดยสาร กรุณาติดต่อที่หมายเลข 02 267-5125
*ไม่รวมค่าเชื้อเพลิง ค่าธรรมเนียมและค่าภาษีสนามบิน
**ขึ้นอยู่กับการอนุมัติตามระเบียบข้อบังคับทางการบิน
ตารางการบินของเจ็ทสตาร์ในประเทศไทย
เที่ยวบินเมลเบิร์น-กรุงเทพฯ เริ่มให้บริการ 23 พฤศจิกายน 2549*
(เวลาเดินทางตามที่ปรากฏข้างล่างนี้)
กรุงเทพฯ – เมลเบิร์น
JQ 30 21.00 จันทร์ พฤหัสบดี อาทิตย์
เมลเบิร์น – กรุงเทพฯ
JQ 29 14.10 จันทร์ พฤหัสบดี อาทิตย์
เที่ยวบินภูเก็ต-ซิดนีย์ เริ่มให้บริการ 24 พฤศจิกายน 2549*
(เวลาเดินทางตามที่ปรากฏข้างล่างนี้)
ภูเก็ต – ซิดนีย์
JQ 28 22.20 จันทร์ พุธ ศุกร์
ซิดนีย์ – ภูเก็ต
JQ 27 15.20 จันทร์ พุธ ศุกร์
เกี่ยวกับเจ็ทสตาร์ แอร์เวย์ส (www.jetstar.com)
เจ็ทสตาร์ เป็นสายการบินในเครือแควนตัส กรุ๊ป ที่มีแควนตัส กรุ๊ป เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เริ่มเปิดดำเนินการในเดือนพฤษภาคม 2547 ปัจจุบัน เปิดให้บริการเที่ยวบินมากกว่า 1,000 เที่ยวในแต่ละสัปดาห์ สู่จุดหมาย 21 แห่งในออสเตรเลีย และเที่ยวบินจากเมืองไครส์เชิร์ชสู่เกาะแทสมันซึ่งเปิดดำเนินการในเดือนธันวาคม 2548 เจ็ทสตาร์ เป็นสายการบินที่มุ่งสร้างความคุ้มค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า และนับตั้งแต่เปิดดำเนินการเป็นต้นมา เจ็ทสตาร์มีลูกค้ารวมมากกว่า 11 ล้านคน
ฝูงบินปัจจุบันของเจ็ทสตาร์ประกอบด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ320 23 ลำ ขณะนี้ เจ็ทสตาร์อยู่ในระหว่างการขอใบอนุญาตเป็นผู้บังคับการเครื่องบินขนาดลำตัวกว้างสำหรับใช้ในเส้นทางบินระหว่างประเทศระยะไกล โดยจะนำมาใช้กับเครื่องบินแอร์บัส เอ330-200 ขนาดลำตัวกว้าง จำนวน 6 ลำ ก่อนปรับเปลี่ยนเป็นฝูงบินโบอิ้ง 787 รุ่นใหม่ 12 ลำ เจ็ทสตาร์มีกำหนดรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 787 ลำแรกในเดือนสิงหาคม 2551 และจะเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศระยะไกลจากออสเตรเลียสู่จุดหมายต่างๆ ได้แก่ โอซากา (ญี่ปุ่น) โฮจิมินห์ (เวียดนาม) กรุงเทพฯ และภูเก็ต (ประเทศไทย) บาหลี (อินโดนีเซีย) และโฮโนลูลู (สหรัฐอเมริกา)