หลังจากสำนักงานใหญ่ ณ กรุงปารีสของจ้าวตลาดความงามระดับโลก หรือ ลอรีอัล ได้ออกมาแถลงผลประกอบการเมื่อเร็วๆนี้ ด้วยการเติบโต 8.7% ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา มร. ฌอง-ฟิลิปป์ ชาริเย่ร์ กรรมการผู้จัดการของบริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย จำกัด จึงแถลงผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรก ด้วยอัตราการเติบโต 12% พร้อมแสดงความมั่นใจปิดปีด้วยการเติบโตสองหลักเช่นกัน
“สถานการณ์ช่วงต้นปีสร้างความกังวลให้เราอยู่ไม่น้อย การที่เราโตได้ถึง 12% นั้นนับเป็นความสำเร็จก้าวแรกของเราในปีนี้ ซึ่งในช่วงต้นปีที่ตลาดไม่ค่อยคึกคักนัก เราเห็นได้ชัดเจนว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคในตลาดมวลชนจะโดดเด่นขึ้นมาก ทำให้ผลประกอบการของแผนกอุปโภคบริโภคซึ่งเป็นแผนกที่ใหญ่ที่สุดของเรา ดูแลทั้งลอรีอัล ปารีส การ์นิเย่ และเมย์เบลลีน ออกมาดีเกินความคาดหมาย.”
คุณฌอง-ฟิลิปป์ กล่าวว่าปัจจัยเบื้องหลังอัตราการเติบโตสองหลักนี้ คือ การที่ลอรีอัลมีผลิตภัณฑ์ที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในสามตลาดหลัก ได้แก่ ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ตลาดผลิตภัณฑ์ผู้ชาย(และน้ำหอมผู้ชาย) และตลาดสีผม นอกจากนั้น การทำวิจัยที่หนักหน่วงขึ้น และการมีคนไทยเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ
ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
ความตื่นตัวของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันผลการประกอบการของลอรีอัลในช่วงครึ่งปีแรก ด้วยตลาดนี้มีอัตราการเติบโตถึง 11% ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสองแบรนด์หลักของลอรีอัลในตลาดนี้ ได้แก่ ลอรีอัล เดอร์โม เอ็กซเพอร์ทิส และ การ์นิเย่ สกิน แนชเชอรัล สามารถเติบโตในอัตราที่สูงกว่า โดย ลอรีอัล เดอร์โม เอ็กซเพอร์ทิส เติบโตถึง 16% (จากการแนะนำสองนวัตกรรมหลักในช่วงต้นปี ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย “คอลลาเจน ฟิลเลอร์” และผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยพร้อมปรับผิวกระจ่างใส “รีไวทัลลิฟท์ ไวท์”) ในขณะที่ การ์นิเย่ สกิน แนชเชอรัล เติบโตสูงถึง 34% (จากความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของกลุ่มผลิตภัณฑ์ปรับผิวกระจ่างใส “ไลท์” และกลุ่มผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย “วริงเคิ้ล ลิฟท์” ซึ่งเพิ่งเปิดตัวใหม่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้)
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษและมีช่องทางการจำหน่ายเฉพาะเจาะจง เช่น ลาโรช โพเซย์ ซึ่งวางจำหน่ายเฉพาะในโรงพยาบาลผ่านการแนะนำของแพทย์ผิวหนังนั้น ก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน ด้วยอัตราการเติบโตที่สูงกว่าปีที่แล้วถึง 26%
ตลาดผลิตภัณฑ์ผู้ชาย(และน้ำหอมผู้ชาย)
ตลาดผลิตภัณฑ์ผู้ชายขยายตัวเป็นสองเท่าในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ด้วยอัตราการเติบโตที่สูงถึง 113% และมีแนวโน้มสดใส โดยลอรีอัล ประเทศไทย ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้ชาย “ลอรีอัล เม็น เอ็กซเพิร์ท” ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับสองในตลาดมวลชนแล้ว ส่วนในห้างสรรพสินค้านั้น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้ชายของบริษัทอีกแบรนด์หนึ่ง คือ “ไบโอเธิร์ม อ็อม” ก็ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามด้วยอัตราการเติบโต 30%
นอกจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแล้ว ลอรีอัล ประเทศไทย ยังประสบความสำเร็จในตลาดน้ำหอมผู้ชายอีกด้วย โดยปัจจุบัน ลอรีอัล ประเทศไทย เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดนี้ ด้วยอัตราการเติบโตสูงถึง 33% ในตลาดที่ โตเพียง 7% เท่านั้น โดยในปีนี้ บริษัทได้เปิดตัวน้ำหอมสำหรับผู้ชายอีกสองคอลเลคชั่นใหม่ คือ ”โปโล แบล็ก” จาก ราฟ ลอเรน และ “ซิตี้ แกลม” จาก จิออร์จิโอ อาร์มานี่
ตลาดผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม
ตลาดผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมในประเทศไทยไม่ได้มีการเติบโตตลอดสองปีแล้ว และในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ ก็มีอัตราการเติบโตการเพียง 2% เท่านั้น อย่างไรก็ดี ลอรีอัล ประเทศไทย ยังคงเป็นผู้นำของตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในตลาดผลิตภัณฑ์มวลชนและในตลาดร้านเสริมสวย โดยผลิตภัณฑ์”ลอรีอัล เอ็กซเซลเล็นซ์” ซึ่งเป็นผู้นำตลาดมวลชนนั้น มีอัตราการเติบโต 13% และผลิตภัณฑ์”ลอรีอัล โปรเฟสชันแนล” ซึ่งเป็นผู้นำใน ตลาดเสริมสวย มีอัตราการเติบโต 26%
การใช้พรีเซ็นเตอร์คนไทย
มร. ฌอง- ฟิลิปป์ กล่าวเสริมว่า “ การใช้พรีเซ็นเตอร์คนไทยก็เป็นแนวทางที่ลอรีอัลหันมาให้ความสนใจมากขึ้น และเป็นปัจจัยหนึ่งซึ่งความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ ลอรีอัลได้หันมาใช้พรีเซ็นเตอร์คนไทยอย่างจริงๆจังๆพร้อมกับการเซ็นสัญญากับ ป๊อป อารียา ในปี 2543 ซึ่งเธอได้เป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ ลอรีอัล ปารีส หลายชนิด และมีกิจกรรมกับเราอย่างต่อเนื่องทุกปี ในวันนี้ เธอก็มีแคมเปญโฆษณาผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าขาวใส “ไวท์ เพอร์เฟคท์ พีล“ ซึ่งกำลังออกอากาศอยู่ นอกจากนั้น เมื่อปีที่แล้ว ลอรีอัลได้เซ็นสัญญากับสินจัย เปล่งพานิช ซึ่งได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม “เอ็กซเซลเลนซ์ “ และผลิตภัณฑ์ชะลอ ริ้วรอยแห่งวัยพร้อมปรับผิวกระจ่างใส “รีไวทัลลิฟท์ ไวท์“ และล่าสุด เราได้เซ็นสัญญากับลีซอ ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ชายรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัยและฉลาดในการเลือก เพื่อเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับชุดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว “ลอรีอัล เม็น เอ็กซเพิร์ท” สำหรับผู้ชายที่กังวลเรื่องผิวหน้ามัน”
แนวทางการบริหาร
“กลยุทธ์ของเราคือ การเพิ่มน้ำหนักการวิจัย การมุ่งเน้นเฉพาะนวตกรรมหลัก และความต่อเนื่องของการบริหารและการวางแผน โดยเราให้ความสำคัญกับการทำวิจัยอย่างต่อเนื่องและสูงขึ้นทุกปี โดยเราทำวิจัยกับผู้บริโภคชาวไทย กว่า 11,400 คนในหนึ่งปี การเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอย่างถ่องแท้ เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้การเปิดตัวนวตกรรมใหม่ของเราประสบความสำเร็จอย่างดี นอกจากนั้น เราจะคัดสรรนำเข้าเพียงนวตกรรมที่ยิ่งใหญ่และแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเท่านั้น และให้การสนับสนุนแต่ละชนิดอย่างเต็มที่ ที่สำคัญเราต้องดูแลการวางแผนการบริหารและการตลาดให้ต่อเนื่องและไปในทิศทางเดียวกับที่ใช้ในปัจจุบัน ด้วยเรามั่นใจว่า แนวทางนี้จะทำให้เราปิดปีนี้ได้ด้วยอัตราการเติบโตสองหลักได้อย่างแน่นอน” มร. ฌอง ฟิลิปป์ กล่าวอย่างมั่นใจ
นอกจากลอรีอัล ประเทศไทย จะมีแผนการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว บริษัทยังมีความตั้งใจที่จะเสริมบทบาทการเป็นผู้ร่วมสร้างสรรสังคมให้มากขึ้นอีกด้วย นอกจากโครงการเพื่อสังคมหลักๆขององค์กร อาทิ การมอบทุนวิจัย การมอบทุนการศึกษา การสนับสนุนโครงการกรุงเทพฯเมืองแฟชั่นอย่างต่อเนื่องทั้งในและนอกประเทศในฐานะพันธมิตรด้านความงาม การสนับสนุนความหลากหลายทางวัฒนธรรมผ่านเทศกาลวัฒนธรรมฝรั่งเศสแล้ว ในปีนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์สึนามิอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนอีกหลายล้านบาทด้วย



