โตชิบาประกาศเสร็จสิ้นการซื้อกิจการเวสติ้งเฮาส์

โตเกียว—(บิสิเนสไวร์)

การประกาศเริ่มต้นยุคใหม่ของนิวเคลียร์ เอ็นเนอจี

โตชิบา คอร์ปอเรชัน ประกาศในวันนี้เกี่ยวกับการซื้อกิจการบีเอ็นเอฟแอล ยูเอสเอ กรุ๊ป อิงค์และเวสติ้งเฮาส์ ยูเค ลิมิเต็ด (กลุ่มบริษัทเวสติ้งเฮาส์) หลังเสร็จสิ้นการจัดการขั้นสุดท้ายกับบริติช นิวเคลียร์ ฟูเอลส์ ลิมิเต็ดเมื่อวันที่ 16 ต.ค. ตามเวลามาตรฐานตะวันออกของสหรัฐ โดยในขณะนี้ เวสติ้งเฮาส์ อิเล็คทริค คอมพานี เป็นบริษัทในกลุ่มโตชิบา คอร์ปอเรชัน

การรวมกิจการของเวสติ้งเฮาส์เข้ากับโตชิบา ประกอบกับความเชี่ยวชาญอย่างมากในด้านการผลิตไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์และเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ รวมถึงการดำเนินงานในตลาดทั่วโลกนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมากในแง่ของการพัฒนาธุรกิจระบบพลังงานของโตชิบา กรุ๊ปขึ้นสู่ระดับโลก การผนวกความแข็งแกร่ง, เทคโนโลยีและธุรกิจของโตชิบาและเวสติ้งเฮาส์เข้าด้วยกันนั้น จะทำให้โตชิบาขึ้นแท่นผู้นำกลุ่มพลังงานนิวเคลียร์ชั้นนำของโลก โดยขยายธุรกิจครอบคลุมถึงระบบ BWR(1) และ PWR(2)

โตชิบาได้จัดตั้งบริษัทโฮลดิ้ง 2 แห่งในสหรัฐและอังกฤษ ได้แก่ บริษัทโตชิบา นิวเคลียร์ เอ็นเนอจี โฮลดิ้งส์ (สหรัฐ) และบริษัทโตชิบา นิวเคลียร์ เอ็นเนอจี โฺฮลดิ้งส์ (อังกฤษ) เพื่อทำการซื้อกิจการดังกล่าว โตชิบาลงทุน 4,158 ล้านดอลลาร์สหรัฐผ่านทางบริษัทโฮลดิ้งดังกล่าวเพื่อซื้อหุ้น 77% ของเวสติ้งเฮาส์ ซึ่งทำให้โตชิบามีอำนาจในการควบคุมการบริหารของบริษัท ส่วนหุ้นที่เหลืออยู่ 23% ถือครองโดยบริษัทหุ้นส่วนด้านกลยุทธ์ 2 แห่งได้แก่บริษัทชอว์ กรุ๊ป อิงค์ของสหรัฐซึ่งถือหุ้น 20% มูลค่า 1,080 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่บริษัทอชิคาวาจิมะ-ฮาริมา เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ จำกัด (IHI) ถือหุ้นอยู่ 3% คิดเป็นมูลค่า 162 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โตชิบาได้หารือเกี่ยวกับการร่วมทุนกับบรรดาหุ้นส่วนในแง่ของความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับกลยุทธ์ธุรกิจในระยะยาว วิสัยทัศน์ตลาดร่วมกัน ความสัมพันธ์ และศักยภาพสูงสุดในการดำเนินธุรกิจ โดยโตชิบายังคงหารือกับหุ้นส่วนที่เป็นไปได้หลายราย

หลังการซื้อกิจการ เวสติ้งเฮาส์จะยังคงมีอิสระในการดำเนินงานและยังคงมีสำนักงานใหญ่ในเพนซิลวาเนีย โตชิบาจะหาทางสนับสนุนการขยายธุรกิจของเวสติ้งเฮาส์โดยการสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างการดำเนินงานของเวสติ้งเฮาส์เพื่อเพิ่มศักยภาพสูงสุดร่วมกับโตชิบาและหุ้นาส่วนต่างๆ

(1) BWR:Boiling Water Reactor เป็นเตาปฏิกรณ์แบบน้ำเดือด ซึ่งได้รับการพัฒนาและจำหน่ายโดยบริษัทเจเนอนรัล อิเล็คทริคของสหรัฐ

(2) PWR: Pressurized Water Reactor เป็นเตาปฏิกรณ์แบบความดันน้ำ ซึ่งได้รับการพัฒนาและจำหน่ายโดยเวสติ้งเฮาส์ของสหรัฐ

ความสำคัญของการควบกิจการ
มีความสนใจครั้งใหม่ทั่วโลกในอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ โดยได้รับแรงผลักดันจากความวิตกเกี่ยวกับการหาแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพ, ส่งเสริมการอนุีัรักษ์และพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีการรับรู้ถึงความต้องการขีดความสามารถด้านพลังงานนิวเคลียร์เพิ่มขึ้นในสหรัฐและยุโรป และในประเทศแถบเอเชียที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเี็ร็ว จีนและประเทศอื่นๆที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัวได้วางแผนการลงทุนครั้งใหม่ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า โดยในปัจจุบันมีโรงงานไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์จำนวน 439 แห่งทั่วโลก และคาดว่าความต้องการพลังงานนิวเคลียร์จะเพิ่มขึ้น ขณะที่จะเป็นการส่งเสริมการประหยัดทรัพยากร และสังคมที่เกี่ยวข้องกับการรีไซเิคิลในศตวรรษที่ 21 โดยนับตั้งแต่ปี 2545-2563 นั้น คาดว่า ตลาดพลังงานนิวเคลียร์ทั่วโลกจะขยายตัว 130 กิกะวัตต์ หรือเท่ากับ โรงไฟฟ้าขนาด 1 กิกะวัตต์จำนวน 130 โรง ซึ่งเป็นขนาดโรงงานต้นแบบที่คาดไว้ในอนาคต

โตชิบาเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี BWR โดยมีตลาดสำคัญในญี่ปุ่น ขณะที่เวสติ้งเฮาส์เป็นผู้นำในตลาดโลกในด้านระบบนิวเคลียร์ PWR โดยการควบกิจการโตชิบาและเวสติ้งเฮ้าส์จะพัฒนาขีดความสามารถในการผลิต, จำหน่ายและทำตลาด รวมถึงด้านวิศวกรรม ตลอดจนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) การเป็นหุ้นส่วนกันนั้นจะขยายขอบเขตของสองธุรกิจและตอกย้ำขีดความสามารถในการรุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆซึ่งบริษัทเคยประสบความยากลำบากในการดำเนินการโดยลำพังในอดีต

โตชิบาคาดว่า การรวมกิจการเวสติ้งเฮาส์และการส่งเสริมศักยภาพด้านการดำเนินงานและด้านเทคโนโลยีนั้น จะทำให้ยอดขายในธุรกิจพลังงานนิวเคลียร์ เพิ่มขึ้นเป็น 7 แสนล้านเยนภายในปี 2558 และ 9 แสนล้านเยนภายในปี 2563 เมื่อเทียบกับ 2 แสนล้านเยนในปัจจุบัน

โครงสร้างการดำเนินงานหลังการซื้อกิจการ
นโยบายของโตชิบาต่อการดำเนินงานของเวสติ้งเฮาส์ได้แก่ 1. โตชิบาถือหุ้นส่วนใหญ่ 2. เพิ่มศักยภาพสูงสุดร่วมกับบรรดาหุ้นส่วน และ 3. รักษาและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของเวสติ้งเฮาส์ โดยโครงสร้างการดำเนินงานอธิบายไว้ดังนี้;

1. โตชิบาถือหุ้นส่วนใหญ่ของเวสติ้งเฮาส์ โดยมีสิทธิในการลงมติตามสัดส่วนของอัตราการลงทุนผ่านทางบริษัทโฮลดิ้งในสหรัฐและอังกฤษ นายมาซาโอะ นิวาโน เจ้าหน้าที่บริหาร, รองประธานบริหารอาวุโสและกรรมการของบริษัทโตชิบา คอร์ปอเรชัน ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการของบริษัทโฮลดิ้งทั้งสองแห่ง

2. บริษัทโฮลดิ้งจะประกอบด้วยกรรมการตัวแทนของหุ้นส่วน 3 ราย โดยองค์กรนี้จะเป็นองค์กรที่ปรึกษาให้กับบริษัทโฮลดิ้ง โดยมีบทบาทในการประสานมุมมองระหว่างหุ้นส่วนและให้คำแนะนำต่อคณะกรรมการของบริษัทโฮลดิ้ง โดยนายนิวาโนจะเป็นประธานคณะกรรมการดังกล่าว

3. เวสติ้งเฮาส์ อิเล็คทริค คอมพานีซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเวสติ้งเฮาส์จะยังคงดำเนินงานจากสำนักงานใหญ่ในเพนซิลวาเนียต่อไป โดยนายสตีฟ ทริทช์ จะยังคงเป็นซีอีโอของเวสติ้งเฮาส์

4. คณะกรรมการของเวสติ้งเฮาส์ อิเล็คทริค คอมพานีจะมีสมาชิก 7 คน โดย 3 คนมาจากเวสติ้งเฮาส์ อิเล็คทริค คอมพานี และ 4 คนมาจากโิตชิบา (2 คนเป็นกรรมการชั่วคราว)

5. เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านศักยภาพนั้น โตชิบาจะจัดตั้งสำนักงานประสานงานในเวสติ้งเฮาส์ อิเล็คทริค คอมพานี โดยบุคลากรจะได้รับการมอบหมายจากโตชิบาและบริษัทหุ้นส่วน และหัวหน้าเจ้าหน้าที่ประสานงาน (CCO) จะได้รับการแต่งตั้งโดยโตชิบาด้วย

6. ในบริษัทพาวเวอร์ ซิสเตมส์ คอมพานีของโตชิบานั้น แผนกนิวเคลียร์ เอ็นเนอจี ซิสเตมส์ แอนด์ เซอร์วิเซส ดิวิชันนั้น จะยังคงรับผิดชอบในการส่งเสริมธุรกิจ BWR ส่วนแผนกประสานงาน WEC จะได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อประสานงานกับสำนักงานความร่วมมือที่เวสติ้งเฮาส์ อิเล็คทริค คอมพานี

ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเวสติ้งเฮาส์ อิเล็คทริค คอมพานี
ก่อตั้ง: ปี 2429
ประธานและซีอีโอ: สตีฟ ทริทช์
ยอดขาย: ประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (3)
พนักงาน: ประมาณ 9,000 คน (3)
สำนักงานใหญ่: เมืองมอนโรวิล รัฐเพนซิลวาเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

(3) ยอดขายและพนักงานของเวสติ้งเฮาส์ รวมถึงเวสติ้งเฮาส์ อิเล็คทริค คอมพานี

ติดต่อ: โตชิบา คอร์ปอเรชัน
Keisuke Ohmori, +81-3-3457-2105
http://www.toshiba.co.jp/contact/media.htm