นายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสสามปี 2549 ของธนาคารก่อนการสอบทานสิ้นสุด ณ 30 กันยายน 2549 ว่าธนาคารมีกำไรสุทธิ 384 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปี 2548 จำนวน 233 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 65% โดยในไตรมาสที่สามธนาคารได้มีการกันสำรองเพิ่มเติมอีกจำนวน 69 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกที่ได้กันสำรองไว้ที่ 112 ล้านบาทรวมเป็น 181 ล้านบาท และเมื่อรวมผลประกอบการใน 9 เดือนแรก ธนาคารมีกำไรก่อนรายการขาดทุนจากรายได้จากการชดเชยสินทรัพย์ด้อยคุณภาพส่วนที่โอนไปบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ตามมติครม. 988 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากำไรสุทธิของ 9 เดือนแรกปี 2548 จำนวน 432 ล้านบาท และคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 78% ซึ่งถือว่าเป็นผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีกว่าแผนธุรกิจที่ธนาคารได้วางไว้
สำหรับรายการผลขาดทุนจากรายได้จากการชดเชยสินทรัพย์ด้อยคุณภาพส่วนที่โอนไปบสท. ตามมติครม. จำนวน 1,691 ล้านบาท ซึ่งมีผลทำให้เกิดผลขาดทุนสุทธิของ 3 ไตรมาส เท่ากับ 703 ล้านบาท
นายพีรศิลป์กล่าวเพิ่มเติมถึงแผนการดำเนินธุรกิจในไตรมาสหลัง 2549 ว่า ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินในทุกด้าน เพื่อให้รองรับต่อแนวโน้มของตลาดและความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ทั้งลูกค้ารายย่อย ลูกค้าขนาดกลาง จนถึงขนาดใหญ่ รวมถึงลูกค้าสถาบัน เพื่อให้เป็นไปตามแผนงานที่จะก้าวสู่การเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการทางการเงินได้อย่างครบวงจรต่อไป
นายพีรศิลป์กล่าวเสริมว่าขอให้นักลงทุนพึงตระหนักว่าทางกองทุนฟื้นฟูฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการคิดกำไรขาดทุนจากการบริหาร CAP ทั้งหมดกับทางธนาคาร ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาส 3 หรือในไตรมาส 4 ได้
