มร. เจ. ที.หวาง ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท เอเซอร์ อิงค์ กล่าวแสดงความขอบคุณต่อคู่ค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมที่ให้การสนับสนุนเอเซอร์ด้วยดีมาโดยตลอด ในงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จครบรอบ 30 ปีของเอเซอร์และกล่าวย้ำว่า การดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางการจัดจำหน่าย (Channel Business Model) เป็นกำลังสำคัญในการผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ ตอกย้ำเอเซอร์ยังคงยึดหลักการนี้และมั่นใจว่าจะสามารถก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ขึ้นสู่ผู้นำอันดับ 3 ของโลกในตลาดคอมพิวเตอร์ภายในปี พ.ศ. 2550
มร. หวาง กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ”ในปี 2544 กระแสการขายตรงจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคค่อนข้างรุนแรงจนถูกมองว่าเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจแบบใหม่และเป็นทางออกของอุตสาหกรรมไอที ในทางกลับกันการดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางการจัดจำหน่าย ไม่ได้รับการสนับสนุนและได้รับการตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ ขณะที่อุตสาหกรรมมีการพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง การดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางการจัดจำหน่าย เข้ามามีบทบาทสำคัญและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น มร.หวางกล่าวย้ำว่า “ในหลายๆ ปีที่ผ่านมา เอเซอร์ดำเนินกลยุทธ์และทิศทางในการทำธุรกิจที่เหมาะสมและที่ถูกต้อง นั่นคือ ผ่านช่องทางการจัดจำหน่าย และยังคงใช้กลยุทธ์นี้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเสริมสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมตลอดเวลา”
มร. หวาง กล่าวสรุปว่า “รูปแบบการทำธุรกิจของเอเซอร์ผ่านช่องทางการจัดจำหน่าย นับเป็นการทำธุรกิจที่ยั่งยืน อย่างต่อเนื่อง และยาวนาน ในขณะที่อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์มีการพัฒนาและบูรณาการ การดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายก็จะมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วย เอเซอร์ยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางการจัดจำหน่าย 100 เปอร์เซ็นต์ และจะเสริมสร้างความพร้อมในการแข่งขัน รวมถึงจะรายงานผลการเติบโตและผลประโยชน์ให้กับคู่ค้าอย่างสม่ำเสมอ”
มร. จิอานฟรังโก แลนซี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซอร์ อิงค์ กล่าวว่า “จากการที่เอเซอร์ได้ปรับโครงสร้างของบริษัทในปี พ.ศ. 2543 ทำให้เอเซอร์สามารถสร้างศักยภาพได้เป็นอย่างสูงในการสร้างการรับรู้แบรนด์ การปรับเปลี่ยนทำให้ประสบความสำเร็จกับอัตราการเจริญเติบโตภายใน 2-3 ปีที่ผ่านมา และมีอัตราการเจริญเติบโตขึ้นเป็น 2 เท่าในแต่ละประเทศ เป็นการยืนยันได้ว่าวิสัยทัศน์ของเอเซอร์ในการทำตลาดผ่านการดำเนินผ่านช่องทางการจัดจำหน่าย สามารถแข่งขันกับการขายตรงได้อย่างลงตัว”
มร. แลนซี่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เอเซอร์พร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ทั้งนี้การดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นพื้นฐานที่สำคัญของเอเซอร์ และการให้การสนับสนุนคู่ค้าของเรา ทำให้เอเซอร์มั่นใจว่าจะสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 3 ของโลกตลาดคอมพิวเตอร์ภายในปี พ.ศ. 2550”
หลังจากที่เอเซอร์ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2519 เอเซอร์ประสบความสำเร็จจนได้รับการยอมรับระดับโลก พร้อมๆ ไปกับการฝ่าฟันอุปสรรค ความท้าทายและพัฒนาวิสัยทัศน์ได้อย่างสอดคล้องลงตัว โดยเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นความท้าทายและโอกาส เอเซอร์จึงได้จัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จครบรอบ 30 ปีเพื่อแสดงความขอบคุณต่อทุกคนที่ให้การสนับสนุนเอเซอร์ด้วยดีมาโดยตลอด เอเซอร์เชื่อมั่นว่าทุกๆ คนจะทำให้เอเซอร์ก้าวขึ้นสู่ผู้นำตลาดคอมพิวเตอร์อันดับ 3 ของโลกภายในปี พ.ศ. 2550
อนึ่ง สำหรับในประเทศไทย เอเซอร์สามารถครองยอดขายอันดับหนึ่งในตลาดรวมเครื่องตั้งโต๊ะ และโน้ตบุ๊คโดยมีส่วนแบ่งการตลาด 24 เปอร์เซ็นต์ จากรายงานของไอดีซีไตรมาสที่ 2 ปี 2549
ข้อมูลเกี่ยวกับเอเซอร์
เอเซอร์ คือบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ที่ติดอันดับ 4 ของโลก โดยมุ่งเน้นการออกแบบและนำเสนอโซลูชั่นด้านไอทีที่ง่ายและน่าเชื่อถือซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายและเพิ่มศักยภาพของการดำเนินชีวิต ในปี พ.ศ.2543 เอเซอร์ได้แบ่งแยกธุรกิจด้านการผลิต เพื่อโฟกัสด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระดับแบรนด์เนมในตลาดต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเดสก์ทอป โน้ตบุ๊ค เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล จอภาพและเอชดี ทีวี อุปกรณ์ต่อพ่วง และโซลูชั่น e-business สำหรับองค์กรธุรกิจ หน่วยงานราชการ สถานศึกษา และผู้ใช้ตามบ้าน การดำเนินผ่านช่องทางการจัดจำหน่าย เป็นเครื่องมือที่ทำให้เอเซอร์ประสบความสำเร็จ ซึ่งสามารถช่วยสนับสนุนคู่ค้าและซัพพลายเออร์ในการจัดการ supply chain ทำให้เอเซอร์นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ราคาเหมาะสมพร้อมการบริการที่มีคุณภาพสู่ลูกค้า บริษัทฯ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2519 มีพนักงานราว 5,600 คนทั่วโลก ซึ่งให้การสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่ในกว่า 100 ประเทศ พ.ศ. 2548 มีรายได้ 9,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ผลิตภัณฑ์เอเซอร์ เริ่มเข้าสู่ตลาดประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2527 โดยบริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ปัจจุบันบริษัทฯ เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย เคยเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ และได้รับรางวัล Outstanding Brand Performance จาก The Reader’s Digest ถึง 7 ปี เอเซอร์ ยังได้ครองส่วนแบ่งทางการตลาดโน้ตบุ๊คอันดับ 1 กว่า 12 ไตรมาสติดต่อกัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 – ปัจจุบัน รายละเอียดโปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.acer.co.th