ตลาดพีซีดันต่อไม่ไหว! ‘เอเซอร์’ ปั้นแบรนด์ใหม่ ‘Acerpure’ เร่งเครื่องลุยตลาด ‘เครื่องใช้ในบ้าน’ เต็มตัว

หากพูดถึงตลาดพีซี คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก ตามความจริงตลาดเริ่มนิ่งตั้งแต่ปี 2012 จนมาช่วงปี 2018 ที่มีเทรนด์ เกมมิ่ง เข้ามาช่วยสร้างความคึกคักให้ตลาดได้เติบโตบ้าง และมาเติบโตสุด ๆ อีกครั้งในช่วงปี 2020-2021 ที่โควิดระบาด ทำให้คนทำงานหรือเรียนที่บ้าน หลังจากนั้นตลาดก็หดตัวมาโดยตลอด ซึ่ง เอเซอร์ (Acer) ก็มองแล้วว่าถ้าพึ่งพาเฉพาะการขายคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กนั้นไม่ยั่งยืนอีกต่อไป

มุ่งสู่กลยุทธ์ มัลติเพิล บิสซิเนส เอ็นจิน

ถ้าพูดกันตามจริง เอเซอร์ ได้เริ่มขยับออกจากตลาดพีซีทีละน้อยมาตั้งแต่ปี 2021 แล้ว ซึ่งหลายคนน่าจะเคยผ่านหูผ่านกับผลิตภัณฑ์หลาย ๆ อย่าง อาทิ แบรนด์ Pawbo ผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ หรืออย่าง Xplova ดีไวซ์สำหรับใช้กับจักรยาน และสินค้าสมาร์ทแกดเจ็ตต่าง ๆ เช่น Acer Halo smart speaker ลำโพงอัจฉริยะ หรือแม้แต่เครื่องดื่มชูกำลังอย่าง Predator Shot ที่เอาไว้เจาะกลุ่มเกมเมอร์โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ ในกลุ่ม เครื่องใช้ในบ้าน เอเซอร์ก็มีแบรนด์ Acerpure ที่ 2 ปีก่อนเคยเปิดตัวสินค้าไฮไลต์อย่าง เครื่องฟอกอากาศ ซึ่งมาในช่วงที่ไทยกำลังเจอทั้งวิกฤตโควิด และฝุ่น PM 2.5 ล่าสุด เอเซอร์ก็ได้เปิดตัว เครื่องกรองน้ำ ภายใต้แบรนด์ Acerpure และเอเซอร์ก็มีแผนจะแยกบริษัท Acerpure เพื่อทำตลาดเครื่องใช้ในบ้านเต็มตัว

นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ยอมรับว่า ตลาดพีซีทรงตัวที่ประมาณ 2.4 ล้านเครื่อง มาตั้งแต่ปี 2012 ยกเว้นโควิดที่ดันให้ตลาดเติบโต ดังนั้น เอเซอร์ต้องหาเอ็นจิน อื่น ๆ เพื่อสร้างการเติบโต ซึ่งสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ในบ้านเอเซอร์ก็ลองทำตลาดมาประมาณ 2 ปี และกำลังจะ แยกออกเป็นบริษัทใหม่

“ไทยถือเป็นประเทศแรก ๆ ที่เอเซอร์จะแยก Acerpure ออกมาเป็นบริษัทใหม่ ตอนนี้กลยุทธ์ของบริษัทคือ ธุรกิจใหม่ที่ไม่ใช่พีซีจะแยกออกมาหมด เช่น บริษัท ไฮพอยท์ เซอร์วิส เน็ตเวิร์ค ที่ให้บริการซ่อมแซมคอมพิวเตอร์, บริษัท อัลทอส คอมพิวติ้ง ให้บริการด้านโซลูชั่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเซอร์วิสสำหรับองค์กร และ บริษัท เอเซอร์ ไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ อิงค์ ให้บริการด้านโซลูชั่นความปลอดภัยทางไซเบอร์”

นายสุพงศ์ ตั้งตรงเบญจศีล รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก และ นายพุทธณะ อึ้งใจธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ ฝ่ายธุรกิจค้าปลีก บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด

มั่นใจชื่อเอเซอร์ขายได้

นิธิพัทธ์ อธิบายว่า ที่เอเซอร์ต้องแยก Acerpure ออกมาเป็นบริษัทใหม่ เพราะต้องแยกทีมงานออกมาเพื่อดูโดยเฉพาะ เนื่องจากที่ผ่านมาเอเซอร์ทำตลาดแต่สินค้าไอทีมาโดยตลอด ซึ่งวิธีคิดและวิธีการทำตลาดนั้น แตกต่างกับตลาดเครื่องใช้ในบ้านอย่างสิ้นเชิง

“เหตุผลที่เราต้องแยกบริษัทเพราะสินค้ามันมีความต่างมาก เราไม่ได้มีความชำนาญการทำตลาดสินค้าเครื่องใช้ในบ้าน อย่างสินค้าไอทีเขาเลือกจากสเปก ราคา แต่สินค้าแบบนี้เป็นเรื่องอารมณ์มากกว่าสเปกกับราคา ดีไซน์จึงเป็นเรื่องสำคัญ และสินค้าบางตัวมีความซีซันนอล”

อย่างไรก็ตาม เอเซอร์มั่นใจว่าตลาดเครื่องใช้ในบ้านถือเป็นโอกาสสำหรับเอเซอร์ เพราะบริษัทมีความพร้อมในด้านเทคโนโลยี และชื่อของเอเซอร์ก็เป็นที่รู้จักของคนไทย อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 ปีแรกบริษัทจะเน้นไปที่การสร้างการรับรู้ว่าเอเซอร์มีสินค้านอกเหนือจากพีซี

จับกลุ่มกลาง-บน ชูดีไซน์ บริการหลังการขาย

นิธิพัทธ์ ยอมรับว่า เอเซอร์ยังมี จุดอ่อน คือเป็นผู้เล่นใหม่ ในขณะที่ตลาดก็มีผู้เล่นมากกว่าตลาดพีซี เพราะมีทั้งผู้เล่นในและนอกประเทศ แต่เอเซอร์ก็มั่นใจใน จุดแข็ง คือ บริการหลังการขาย เพราะมีศูนย์บริการกว่าร้อยสาขาของเอเซอร์ และการให้บริการใช้มาตรฐานเดียวกับคอมพิวเตอร์ มีบริการออนไซต์ ซึ่งไทยถือเป็นฮับของภูมิภาคอินโดไชน่า มีอะไหล่พร้อมบริการยาว 5 ปี

“ตลาด Grey market หรือแบรนด์ที่ไม่ได้นำเข้ามาอย่างถูกต้องไม่มีเรื่องบริการ ดังนั้น บริการถือเป็นจุดแข็งของเรา”

สำหรับสินค้าของ Acerpure ในเฟสแรกจะเน้นไปที่กลุ่ม กลาง-บน มีดีไซน์ที่สวยงาม แต่ในเฟส 2 จะเริ่มนำสินค้าในกลุ่มที่มีราคาถูกลงเข้ามาทำตลาด เพราะของเครื่องใช้ในบ้านมีอายุการใช้งานที่ยาวกว่าสินค้าไอที ดังนั้น ผู้บริโภคไม่ได้เปลี่ยนบ่อย และในปีหน้าเอเซอร์จะนำเข้าสินค้าเพิ่มมาอีก 2 กลุ่ม จากปัจจุบันมี 4 กลุ่มสินค้า

“บริษัทแม่เราในไต้หวันมีสินค้าเยอะมาก เช่น ทีวี แต่เราไม่ได้เอาเข้ามา เพราะเราจะเลือกจากสินค้าที่คิดว่าตลาดมีความพร้อมก่อน ซึ่งเรามั่นใจว่าสินค้าที่เราเลือกมากตอบโจทย์วิถีชีวิตคนไทยจริง ๆ เช่น เครื่องกรองน้ำของเราก็ไม่ต้องติดตั้ง แค่ซื้อไปตั้งใช้ได้เลย สามารถเปลี่ยนเครื่องกรองได้เอง เพราะพฤติกรรมคนเดี๋ยวนี้ไม่อยากให้คนเข้าออกบ้าน”

ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ 15% ของบริษัท

เบื้องต้น เอเซอร์ตั้งเป้าให้รายได้ของ Acerpure มีสัดส่วนเป็น 15% ของรายได้รวมบริษัท โดยปัจจุบันสัดส่วนยังน้อยมากเพราะเพิ่งเริ่มได้ 2 ปี ปัจจุบันสินค้า Acerpure มีจำหน่ายบนอีคอมเมิร์ซ, โฮมโปร และดีลเลอร์บางรายที่นำไปจำหน่าย นอกจากนี้ บริษัทกำลังเจาะเข้าตลาดองค์กร (B2B) โดยเน้นที่ภาครัฐ, ภาคการศึกษา และสถานพยาบาล

“เรามองว่าสินค้าเครื่องใช้ในบ้านกว่า 50% ของตลาดขายผ่านออนไลน์ ดังนั้น เราไม่ได้ห่วงเรื่องการขยายช่องทางจัดจำหน่าย แต่ในอนาคตจะขยายเพิ่มอีก”

สำหรับสินค้าเรือธงของ Acerpure คือ เครื่องฟอกอากาศ Acerpure P2 ราคา 6,990 บาท และในส่วนของเครื่องกรองน้ำ Acerpure Aqua WP1 ที่เปิดตัวล่าสุดจำหน่ายในราคา 29,990 บาท รับประกัน 2 ปี โดย Acerpure Aqua WP1 มีจุดเด่นที่ไม่ต้องติดตั้ง เพียงเสียบปลั๊ก ก็พร้อมใช้งานได้ทันที และสามารถเปลี่ยนไส้กรองได้ง่าย ทำได้ด้วยตัวเองไม่ต้องเรียกช่างมาติดตั้ง