– ผู้ใช้บริการรายใหม่ของทรูมูฟเพิ่มขึ้นถึง 1.4 ล้านราย
– บริการบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไป ลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น และรายได้ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว
– ยูบีซีมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า
– ยุทธศาสตร์การเป็นผู้นำชีวิต Convergence Lifestyle ช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้า
– แนวโน้มปีหน้าปรับตัวดีขึ้น
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) วันนี้ ได้ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 3 โดยยอดผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโตเป็นประวัติการณ์ หลังทรูมูฟฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการแข่งขันด้านราคาในไตรมาสที่ 2 ทำให้รายได้จากการบริการของ ทรูมูฟเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.7 EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.2 จากไตรมาส 2 ซึ่งทำให้ผลประกอบการโดยรวมของกลุ่มทรูปรับตัวดีขึ้น
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหารกล่าวว่า ในไตรมาสนี้ ทรูมูฟมียอดผู้ใช้บริการรายใหม่เพิ่มขึ้นสุทธิจำนวน 1.4 ล้านราย ทำให้มียอดผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 6.8 ล้านราย และมีส่วนแบ่งตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 18.8
“การเติบโตของทรูมูฟอย่างมากในไตรมาสนี้ เป็นผลจากกลยุทธ์การนำเสนอบริการที่คุ้มค่าคุ้มราคา รวมทั้งเป็นผลจากโปรโมชั่นภายใต้ยุทธศาสตร์การเป็นผู้นำชีวิต Convergence Lifestyle อาทิ ยูบีซีเอเอฟ 3 ตลอดจน ทรูมูฟได้บริหารช่องทางการจัดจำหน่ายที่สำคัญเช่น เซเว่น-อีเลฟเว่น อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โปรโมชั่นต่างๆ ตามยุทธศาสตร์การเป็นผู้นำชีวิต Convergence Lifestyle ยังทำให้ลูกค้ารายใหม่ของธุรกิจบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไปและยูบีซีเติบโตรวดเร็วขึ้นในไตรมาสนี้”
สำหรับไตรมาสนี้ ทรูมีรายได้จากบริการโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 จากไตรมาสก่อนหน้า เป็น 12.6 พันล้านบาทโดยกำไรจากการดำเนินงาน ก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายตัดจ่าย หรือ EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 เป็น 4.2 พันล้านบาท สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2549 ทรูมีรายได้จากการให้บริการโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.8 เป็น 37.6 พันล้านบาท โดย EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 เป็น 13.0 พันล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลจากการที่ทรูรับรู้ผลการดำเนินงานของยูบีซีอย่างเต็มที่ตั้งแต่ต้นปี 2549 ในขณะที่อัตราการทำกำไร ณ ระดับ EBITDA (EBITDA margin) ในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนเป็นร้อยละ 32.5
ทรูรายงานผลขาดทุนสุทธิสำหรับไตรมาสนี้จำนวน 745 ล้านบาท (ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการควบรวมกิจการยูบีซี) ซึ่งนับเป็นการขาดทุนลดลง 161 ล้านบาทเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
ทรูมูฟฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการแข่งขันด้านราคาในไตรมาส 2 โดยรายได้จากการบริการเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ในอัตราร้อยละ 16.7 เป็น 5.7 พันล้านบาท และ EBITDA เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 37.2 เป็น 1.3 พันล้านบาท ทั้งนี้ทรูมูฟสามารถครองตลาดผู้ใช้บริการรายใหม่ในไตรมาสนี้ ได้ราวร้อยละ 52 ส่งผลให้ขณะนี้ทรูมูฟมีส่วนแบ่งตลาดผู้ใช้บริการรายใหม่สำหรับระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2549 ในอัตราร้อยละ 35.9 โดยทรูมูฟมีส่วนแบ่งตลาดผู้ใช้บริการรายใหม่ได้ในอัตราส่วนราว 1 ใน 3 ทุกปีนับตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา
“ถึงแม้ว่าการแข่งขันด้านราคาในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในเดือนตุลาคม แต่คาดว่าน่าจะเป็นไปเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ” นายศุภชัยกล่าว
“คณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติกำลังวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนจากทรู เกี่ยวกับการใช้กลยุทธ์ด้านราคาของผู้ให้บริการรายใหญ่ นอกจากนั้น ทรูเชื่อมั่นว่า การประกาศใช้ค่าเชื่อมต่อโครงข่ายซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในต้นปี 2550 จะทำให้ตลาดมีการแข่งขันอย่างสมเหตุสมผลยิ่งขึ้น”
“การพัฒนายุทธศาสตร์การเป็นผู้นำชีวิต Convergence Lifestyle ให้เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ลูกค้าของกลุ่มทรูหันมาใช้บริการอื่นๆ ภายในกลุ่มทรูเพิ่มมากขึ้น และช่วยเพิ่มความภักดีในตราสินค้าในกลุ่มผู้ใช้บริการของทรูมูฟ”
“นอกจากนี้ทรูยังคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าในการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม โดยอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะพัฒนาไปสู่การแข่งขันที่เป็นธรรมมากขึ้น”
รายได้จากธุรกิจบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไปในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.7 จากไตรมาสก่อน และรายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 65.8 โดยผู้ใช้บริการรายใหม่ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ในอัตราร้อยละ 28.7 เป็น 43,868 ราย โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการนำเสนอบริการไปพร้อมกับบริการอื่นๆ ของ กลุ่มทรู ทำให้มียอดผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 412,742 ราย
การเติบโตของรายได้จากธุรกิจบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไปและธุรกิจโครงข่ายข้อมูล สามารถชดเชยรายได้ที่ลดลงจากธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐาน วีพีซีทีและโทรศัพท์สาธารณะ ได้ส่วนหนึ่ง และทำให้รายได้โดยรวมจากธุรกิจ Wireline เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 จากไตรมาสก่อน
ในไตรมาสนี้ ยูบีซีมีรายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ในอัตราร้อยละ 3.3 ส่วนใหญ่จาก UBCAF3 โดย EBITDA เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 19.7 และ EBITDA margin เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 24.2 เป็นร้อยละ 26.5 เนื่องจาก ยูบีซีมียอดผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากไตรมาสก่อน เป็น 27,986 ราย จากโปรโมชั่นสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับกลางและล่าง ทำให้มียอดผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 529,050 ราย โดยยูบีซีมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ เพิ่มขึ้นจาก 221 ล้านบาทเป็น 262 ล้านบาท ในไตรมาส 3
ยูบีซี ทรูมูฟ ฟรีวิว แพ็คเกจ หนึ่งในโปรโมชั่นสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับกลางและล่างซึ่งได้เปิดตัวในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มียอดผู้ใช้บริการราว 44,000 รายในระยะเวลา 3 เดือนแรกหลังเปิดให้บริการ ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการยูบีซี ทรูมูฟ ฟรีวิว แพ็คเกจได้สนใจเปลี่ยนเป็นสมาชิกยูบีซีแพ็คเกจอื่นๆ (ที่มีอัตราค่าบริการรายเดือนที่สูงขึ้น) คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับอัตราร้อยละ 25
นายวิลเลียม แฮริส หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน กล่าวว่า ทรูยังคงมุ่งมั่นที่จะลดภาระหนี้สินของบริษัท โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ทรูได้ชำระคืนเงินกู้ระยะยาวเป็นจำนวนทั้งสิ้น 7.2 พันล้านบาท ซึ่งรวมทั้งการชำระคืนเงินกู้ 6.8 พันล้านบาทสำหรับธุรกิจ Wireline
หนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ของกลุ่มบริษัทในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาลดลงเป็น 4.5 เท่าเมื่อเทียบกับ 4.8 เท่า ณ สิ้นปี 2548
ในช่วงต้นไตรมาสนี้ ทรูได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.4 พันล้านบาทเพื่อการขยายงานของทรูมูฟ ส่งผลให้ทรูถือหุ้นในทรูมูฟเพิ่มขึ้นเป็นอัตราส่วนร้อยละ 93.4 นอกจากนี้ทรูยังสามารถดำเนินการจัดหาเงินกู้ระยะยาวเพื่อการควบรวมกิจการยูบีซีได้แล้วเสร็จ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่:
ฝ่ายประชาสัมพันธ์, กลุ่มบริษัท ทรู อ้างอิง (180) 15/11/2006 บริษัท พี อาร์ โซลูชั่น จำกัด : โทรศัพท์ 0-2656-8059 www.prsolution.co.th
พิมลพรรณ ศิริวงศ์วานงาม โทร: +66 (0) 2699 2772 คุณประภาส จรสรัมย์ โทร. 0-81827-7354
ศิษฎิ รูเบ็น โทร: +66 (0) 2643 2463 คุณจิตฤทัย ทัดเสรีวิบูลย์ โทร. 0-81613-1865
ณวนุช สรรพบพิตร โทร: +66 (0) 2699 2744 คุณสิทธิกร รัตนะเศรษฐี โทร. 0-89155-5095