ผลสำรวจประเด็นระดับโลกพบช่องว่างระหว่างความวิตกกังวลของผู้บริโภคและภาคองค์กรธุรกิจ
นิวยอร์ก–(บิสิเนส ไวร์)–4 ธ.ค. 2549
ผลสำรวจของเบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์พบ วิธีที่ภาคธุรกิจต่างๆจัดการกับประเด็นพื้นฐานที่ประชาชนทั่วไปวิตกสามารถทำให้เกิดการจัดกลุ่มแผนริเริ่มทางธุรกิจได้
ผลการสำรวจระดับโลกฉบับใหม่ที่เผยแพร่ออกมาในวันนี้พบช่องว่างที่น่าประหลาดใจระหว่างความวิตกที่แท้จริงของผู้บริโภคและสิ่งที่ภาคธุรกิจต่างๆเชื่อว่าเป็นเรื่องที่สร้างความกดดันมากที่สุดในปัจจุบัน โดยผลสำรวจดัชนีประเด็นระดับโลกเบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ (Burson-Marsteller Global Issues Index) ที่มีการจัดทำขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นดัชนีสำรวจความสำคัญของประเด็นต่างๆกว่า 100 เรื่องในระดับทั่วโลกพบว่า ขณะที่ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่รู้สึกวิตกมากที่สุดต่อเรื่องที่มีผลกระทบในทางส่วนตัวต่อพวกเขาและครอบครัว เช่น อาหาร ความปลอดภัย และสุขภาพ แต่ธุรกิจส่วนใหญ่กลับรู้สึกกังวลมากกว่าต่อสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่มาประยุกต์ใช้กับรูปแบบธุรกิจของพวกเขา
“แม้มีความสนใจอย่างมากในการเมืองโลกและตลาดโลก แต่ผลสำรวจครั้งนี้ก็พบว่า เรื่องที่มีความสำคัญมากที่สุดคือเรื่องพื้นฐาน ซึ่งได้แก่ ราคาอาหาร การเข้าถึงการดูแลสุขภาพ และภัยคุกคามมากขึ้นต่อความเป็นส่วนตัว” นายมาร์ค เพนน์ ประธานและซีอีโอของเบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ เวิลด์ไวด์กล่าว “สัญญาณที่นี่อาจจะเป็นผู้คนรู้สึกกังวลต่อสิ่งๆต่างที่มีผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขาในทางตรงมากกว่าสิ่งต่างๆที่มีผลกระทบต่อสังคมโดยรวม”
“แม้ผู้นำธุรกิจและประชาชนทั่วไปมีความวิตกเหมือนกันอยู่บ้าง แต่เรื่องที่สร้างความกังวลมากที่สุดของประชาชนทั่วไปโดยเฉลี่ยได้แก่ ต้นทุนการดูแลสุขภาพ (77%), อาหาร (75%) และพลังงาน (75%) และขโมยข้อมูลส่วนบุคคล (76%) ส่วนผู้นำธุรกิจรู้สึกวิตกมากที่สุดต่อต้นทุนเทคโนโลยี (55%), ความสามารถในการจัดหาเทคโนโลยีเพื่อทำให้พวกเขาสามารถเป็นผู้นำในการแข่งขันได้ (53%), ความสามารถของแฮคเกอร์ที่จะเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท (53%) และต้นทุนพลังงานและผลกระทบต่อกำไร (53%)
“ขณะที่เราพิจารณาดูเรื่องต่างๆเหล่านี้ เราก็คิดว่า มีโอกาสที่บริษัทต่างๆจะเพิ่มและจัดการกับเรื่องพื้นฐานบางเรื่อง อันได้แก่ ความหิวโหยของโลก การดูแลสุขภาพที่สามารถเข้าถึงได้ การปกป้องความเป็นส่วนตัวส่วนบุคคล และความปลอดภัย” ขณะเดียวกัน ก็ทำให้บรรลุวัตถุประสงค์หลักของธุรกิจด้วย” นายอาเม แวดเลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของเบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์กล่าว
ในบรรดาเรื่องสำคัญมากที่สุด 75 เรื่องที่ประชาชนระบุว่าเป็นเรื่องที่สร้างความวิตกมากที่สุดให้แก่พวกเขา น่าแปลกใจที่พบว่าการก่อการร้ายติดอันดับเรื่องที่ 14 เท่านั้น และถูกแสดงออกมาในบริบทของ “ความสามารถของผู้ก่อการร้ายที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อควบคุมสาธารณูปโภคพื้นฐานของเรา เช่นระบบน้ำประปาหรือระบบไฟฟ้า” ส่วนในกลุ่มผู้นำธุรกิจ เรื่องของการก่อการร้ายกลับติดอันดับที่ 13
เรื่องทางสังคมและวัฒนธรรมถูกสะท้อนอยู่ในผลสำรวจทั่วโลกฉบับนี้เช่นกัน โดยประชาชนทั่วไปในภูมิภาคเอเชียรู้สึกกังวลมากที่สุดต่อประชากรสูงอายุ และค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ ความเป็นส่วนตัวส่วนบุคคลก็มีความสำคัญต่อชาวเอเชียเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ผลกระทบของรูปถ่ายหรือวิดีโอส่วนบุคคลที่ปรากฏทางอินเทอร์เน็ตโดยที่พวกเขาไม่รู้ ขณะเดียวกัน มีแต่ประชาชนในสหรัฐที่รู้สึกกังวลต่อประชากรสูงวัย แต่ในบริบทที่แท้จริงว่าชาวอเมริกันจะสนับสนุนผู้สูงวัยอย่างไร และแม้จะมีการเผยแพร่ข่าวเรื่องการก่อการร้าย แต่ก็มีแต่ชาวยุโรปที่รวมเรื่องการก่อการร้ายในเรื่องที่น่าวิตกมากที่สุด 10 อันดับแรก
เรื่องที่ผู้บริโภคทั่วโลกกังวลมากที่สุด 10 อันดับแรก
1. ความสามารถในการจ่ายค่าดูแลสุขภาพให้แก่ตนเองหรือครอบครัว
———————————————————————-
2. การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล
———————————————————————-
3. ราคาอาหาร
———————————————————————-
4. แหล่งเชื้อเพลิงทางเลือกสำหรับบ้านและรถยนต์
———————————————————————-
5. ความสามารถของแฮคเกอร์ในการเจาะเข้าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
———————————————————————-
6. การใช้เทคโนโลยียานยนต์ใหม่เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมันนำเข้าและเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
———————————————————————-
7. ความสามารถของรัฐบาลหรือนายจ้างที่จะจัดหาสวัสดิการดูแลสุขภาพอย่างเพียงพอ
———————————————————————-
8. ความสามารถในการเข้าถึงการดูแลและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า
———————————————————————-
9. ความสามารถของประเทศต่างๆในการจัดหาน้ำสะอาด
———————————————————————-
10. การดำเนินชีวิตแบบมีผลดีต่อสุขภาพ
———————————————————————-
เรื่องที่ผู้นำธุรกิจทั่วโลกกังวลมากที่สุด 10 อันดับแรก
1. ต้นทุนเทคโนโลยี
———————————————————————-
2. ความสามารถในการนำหน้าคู่แข่งโดยใช้เทคโนโลยีล่าสุด
———————————————————————-
3. ความสามารถของแฮคเกอร์ในการเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท
———————————————————————-
4. ต้นทุนพลังงานและผลกระทบต่อกำไร
———————————————————————-
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในลักษณะที่บังเกิดผลดี
———————————————————————-
6. โซลูชั่นที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อสำรองและเก็บข้อมูลของบริษัท
———————————————————————-
7. การใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อทำให้สภาวะแวดล้อมในการทำงานน่าพอใจ/มีประสิทธิผลมากขึ้นสำหรับพนักงาน
———————————————————————-
8. การใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมชื่อเสียงและการคิดค้นนวัตกรรม
———————————————————————-
9. การรับรองความประพฤติที่เหมาะสมของพนักงาน
———————————————————————-
10. การเพิ่มต้นทุนการดูแลสุขภาพซึ่งรัฐบาลหรือนายจ้างต้องผลักภาระต้นทุนในส่วนที่เพิ่มขึ้นไปให้แก่พนัก งาน
———————————————————————-
เกี่ยวกับดัชนีประเด็นระดับโลกเบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ (Burson-Marsteller Global Issues Index)
ดัชนีประเด็นระดับโลกเบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ที่มีการจัดทำเป็นครั้งแรก ได้ทำการสำรวจบุคคลทั่วไป 2,700 คน และผู้บริหารธุรกิจ 1,600 คนในสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย และละตินอเมริกา ดัชนีนี้มีการจัดทำขึ้นในเดือนส.ค. 2549 โดยเบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ด้วยความร่วมมือกับบริษัทเพนน์, โชน, แอนด์ เบอร์แลนด์ แอสโซสิเอทส์
ประเด็นสำคัญๆที่มีการติดตามในดัชนีนี้ได้แก่ประเด็นเฉพาะเกี่ยวกับพลังงาน สิ่งแวดล้อม การดูแลสุขภาพ และเทคโนโลยี โดยเราสำรวจมุมมองต่างๆจากประชาชนและผู้นำธุรกิจจาก 9 ประเทศทั่วโลก
ในฐานะผู้ในในการจัดการประเด็นและการวางแผนเชิงกลยุทธ์ เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ต้องการช่วยให้ผู้นำภาคธุรกิจเป็นผู้นำในเรื่องต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงการเชื่อมต่อกับธุรกิจต่างๆกับเรื่องที่ประชาชนที่เป็นลูกค้าของพวกเขาวิตกอยู่ เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์จะเผยแพร่รายชื่อเรื่อง “10 อันดับแรก” และจะมีการเผยแพร่สรุปข้อมูลแบบพิเศษ รายชื่อทั้งหมด และข้อมูลทางประชากรศาสตร์ และการวิเคราะห์ประเด็นทางกลยุทธ์ให้แก่ลูกค้าของบริษัทในระบบสมาชิก กรุณาเข้าไปดูที่เว็บไซท์ www.burson-marsteller.com เพื่อเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับดัชนีประเด็นระดับโลกเบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ หรือมีส่วนร่วมในการสำรวจติดตามประเด็นประจำเดือนของเรา ซึ่งจะสำรวจความสำคัญตามการรับรู้ของประเด็นที่กำลังเกิดขึ้นแบบรายเดือน
เกี่ยวกับเบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ (www.burson-marsteller.com) ซึ่งก่อตั้งในพ.ศ. 2496 เป็นบริษัทประชาสัมพันธ์และกิจการสาธารณะชั้นนำระดับโลก โดยให้บริการลูกค้าด้านการคิดอย่างมีกลยุทธ์และการดำเนินการโครงการผ่านทางบริการประชาสัมพันธ์ กิจการสาธารณะ โฆษณา และบริการที่เกี่ยวข้องกับเว็บ เครือข่ายที่ไร้ขอบเขตทั่วโลกของบริษัทประกอบด้วยสำนักงานของบริษัท 57 แห่ง และสำนักงานสาขา 45 แห่ง ซึ่งเปิดดำเนินงานใน 59 ประเทศทั่วทั้ง 6 ทวีป เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์เป็นส่วนหนึ่งของยัง แอนด์ รูบิแคม แบรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของดับเบิลยูพีพี กรุ๊ป มหาชน (NASDQ: WPPGY) หนึ่งในเครือข่ายบริการด้านการสื่อสารชั้นนำระดับโลก
ติดต่อ: เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
เจนนิเฟอร์ นอร์ตัน, 212-614-5243
[email protected]