ซีเอ (CA) ส่ง “ยูนิเซ็นเตอร์ เน็ตเวิร์ค แอนด์ ซิสเต็มส์ เมเนจเม้นท์ (Unicenter Network and Systems Management) หรือ ยูนิเซ็นเตอร์ เอ็นเอสเอ็ม (Unicenter NSM) เวอร์ชั่นล่าสุดออกสู่ตลาด ชูคุณสมบัติเด่นเป็นฐานข้อมูลการจัดการ (management database: MDB) ที่พัฒนาบนไมโครซอฟท์ เอสคิวแอล เซิร์ฟเวอร์ และช่วยผสานการทำงานร่วมกับโซลูชันต่างๆ ของซีเอและผู้พัฒนารายอื่นให้สามารถทำได้สะดวกคล่องตัวยิ่งขึ้น ทั้งช่วยให้ลูกค้าสามารถพัฒนาขีดความสามารถในการให้บริการ (service availability) ได้เต็มศักยภาพ ขณะเดียวกันช่วยปกป้องระบบ ไอทีที่มีอยู่ในปัจจุบันได้อย่างดีอีกด้วย
ยูนิเซ็นเตอร์ เน็ตเวิร์ค แอนด์ ซิสเต็มส์ เมเนจเม้นท์ ช่วยปกป้องกระบวนการที่เป็นหัวใจสำคัญทางธุรกิจทุกขั้นตอนให้ปลอดภัย ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากซับซ้อนในการบริหารจัดการด้านไอที ยูนิเซ็นเตอร์ เน็ตเวิร์ค แอนด์ ซิสเต็มส์ เมเนจเม้นท์ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีขององค์กร ซึ่งประกอบด้วยระบบงานที่แตกต่างและหลากหลาย มีประสิทธิภาพและพร้อมให้บริการอยู่ตลอดเวลา โดยยูนิเซ็นเตอร์ เอ็นเอสเอ็ม จะเฝ้าติดตามตรวจสอบและบริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์ ส่วนประกอบของเครือข่าย อุปกรณ์เก็บบันทึกข้อมูล แอพพลิเคชั่นต่างๆ และส่วนประกอบของเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานโดยอัตโนมัติ
แพทริค แมนเนียน รองประธานฝ่าย Enterprise Monitoring Tools ของ Société Générale Corporate & Investment Banking กล่าวว่า “ธนาคารของเรามีเป้าหมายที่จะพัฒนาให้โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีมีความแม่นยำน่าเชื่อถือ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจมีความโปร่งใส เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เราจึงต้องการเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถมองเห็นจุดที่เป็นปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบ หรือบนเครือข่าย หรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เรามีอยู่ รวมไปถึงฐานข้อมูล ได้อย่างทะลุ ปรุโปร่ง และสามารถเห็นภาพความสัมพันธ์ระหว่างกลยุทธ์และยุทธวิธีที่จะบริหารจัดการกับโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวได้ง่ายขึ้น ซึ่งยูนิเซ็นเตอร์ เอ็นเอสเอ็ม อาร์ 11.1 มีคุณสมบัติครบถ้วนอย่างที่เราต้องการ”
ด้วยวิสัยทัศน์ของซีเอที่มุ่งทำให้การบริหารจัดการด้านไอทีให้มีเอกภาพทำได้ง่ายมากขึ้นและคล่องตัวมากขึ้น ยูนิเซ็นเตอร์ เอ็นเอสเอ็ม อาร์ 11.1 สามารถผสานการทำงานกับโซลูชันอื่นๆ ของซีเอที่ใช้ฐานข้อมูลการจัดการ (MDB) รวมถึงโซลูชันต่างๆ อีกมากมายของซีเอในกลุ่ม Service Management, IT Asset Management และ Desktop and Server Management ของซีเอได้แบบไม่สะดุด ทั้งนี้ ฐานข้อมูล MDB มีคลังข้อมูลกลาง (common repository) สำหรับเก็บข้อมูลการบริหารของทั่วทั้งองค์กร ช่วยเร่งกระบวนการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจให้สามารถทำได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบปฏิบัติงานด้านไอทีที่เป็นหัวใจสำคัญอีกด้วย
ยูนิเซ็นเตอร์ เอ็นเอสเอ็ม อาร์ 11.1 ช่วยให้ผู้ใช้รู้ถึงความเคลื่อนไหวในเครือข่ายไอทีทั้งระบบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยให้มั่นใจได้ว่าฐานข้อมูล MDB มีความถูกต้องแม่นยำและหมุนเวียนอย่างเป็นระบบ ตัวอย่างเช่น เมื่อมีการต่อเชื่อมอุปกรณ์ใหม่เข้ามาในระบบ ยูนิเซ็นเตอร์ เอ็นเอสเอ็ม อาร์ 11.1 จะสามารถค้นหาและจัดหมวดหมู่อุปกรณ์ดังกล่าวได้ทันที และระบบสามารถตั้งค่าการใช้งานพื้นฐานให้กับอุปกรณ์นั้นๆ ได้โดยอัตโนมัติ
ลูโช ทอร์เรส ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ เอสคิวแอล เซิร์ฟเวอร์ ของไมโครซอฟท์ คอร์ป กล่าวว่า “การที่ซีเอใช้ ไมโครซอฟท์ เอสคิวแอล เซิร์ฟเวอร์ 2005 เป็นแพลตฟอร์มในการพัฒนาฐานข้อมูล MDB ดังกล่าว ถือเป็นการช่วยให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าสูงสุดเมื่อเทียบราคากับสมรรถนะ และยังช่วยเพิ่ม Total Cost of Ownership (TCO) สำหรับแพลตฟอร์มสำหรับการบริหารจัดการองค์กรอีกด้วย โครงสร้างฐานข้อมูล MDB ที่มีประสิทธิภาพสูงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อองค์กรไอทีที่ต้องบริหารจัดการระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่และมีความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ”
สืบค้นรากเหง้าของปัญหา
ด้วยคุณสมบัติของศูนย์บัญชาการการบริหารงานจากส่วนกลาง (Management Command Center หรือ MCC) ทำให้ยูนิเซ็นเตอร์ เอ็นเอสเอ็ม อาร์ 11.1 สามารถบริหารจัดการองค์ประกอบต่างๆ ที่อยู่กระจัดกระจายในสภาพแวดล้อมไอทีของเอ็นเตอร์ไพรซ์ได้จากศูนย์กลาง ด้วยคุณสมบัติล้ำยุคด้านการแจ้งเตือนและจัดการความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ ยูนิเซ็นเตอร์ เอ็นเอสเอ็ม อาร์ 11.1 สามารถสืบค้นต้นตอของปัญหาและช่วยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีสามารถจัดการกับปัญหานั้นๆ ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการให้บริการของธุรกิจ
โคดี้ โลว์เดอร์ ผู้จัดการฝ่ายระบบจัดการข้อมูลและเทคโนโลยี ส่วนบริหารงานองค์กร Zions Management Services กล่าวว่า “สิ่งที่ท้าทายที่สุดในการจัดการด้านไอทีของเรา ก็คือ การจัดการกับสถานการณ์ก่อนและหลังเกิดปัญหาอย่างทันท่วงที ยูนิเซ็นเตอร์ เอ็นเอสเอ็ม อาร์ 11.1 มาพร้อมกับทูลที่มีความสามารถเป็นเลิศในการจัดการความสัมพันธ์ของเหตุการณ์และวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา ซึ่งช่วยร่นระยะเวลาในการดูแลรักษาระบบลงได้อย่างมาก ทั้งยังช่วยให้สามารถจัดการเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย”
ประกันขีดความสามารถในการให้บริการทั่วทั้งระบบ
ยูนิเซ็นเตอร์ เอ็นเอสเอ็ม อาร์ 11.1 ทำงานประสานกับโซลูชันอื่นๆ ของซีเอได้อย่างดี เช่น SPECTRUM และ eHealth ซึ่งช่วยให้ผู้ดูแลระบบเห็นภาพอย่างชัดเจนในเชิงลึกว่า สภาพและสมรรถนะของเครือข่ายมีผลอย่างไรต่อระดับประสิทธิภาพและความพร้อมในการให้บริการ นอกจากนี้ ขีดความสามารถด้านการผสานเข้ากับเทคโนโลยีของผู้พัฒนารายอื่น เช่น Microsoft Operations Manager, HP OpenView, HP Insight Manager, Dell OpenManage, CiscoWorks, Citrix Presentation Server, OPnet ITguru, Fluke Networks และ SPLUNK เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นของซีเอในการพัฒนาสถาปัตยกรรมระบบแบบเปิด และช่วยให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าระบบทั่วทั้งองค์กรมีความสมบูรณ์พร้อมใช้งาน
คุณสมบัติอื่นๆ ของยูนิเซ็นเตอร์ เอ็นเอสเอ็ม อาร์ 11.1 ประกอบด้วย:
คุณสมบัติด้านการตั้งค่าระบบให้สอดคล้องกับความต้องการ ซึ่งจะทำการประเมินว่าทรัพยากรส่วนใดของระบบมีความจำเป็นสูงสุดที่จะต้องตรวจสอบในเซิร์ฟเวอร์ตัวใดตัวหนึ่ง และจากนั้นจะทำการกำหนดตัวแปรสำหรับทรัพยากรเหล่านี้โดยอัตโนมัติ
มีระบบจัดการการแจ้งเตือนที่เชื่อมโยงกับ Unicenter Service Desk ซึ่งช่วยให้ trouble-ticket process ทำงานได้อัตโนมัติ ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีได้รับข้อมูลตามที่ต้องการอย่างละเอียดและรวดเร็ว เพื่อสืบค้นหาต้นตอของปัญหาต่างๆ
คุณสมบัติด้านการจัดทำรายงานที่สะดวกและรวดเร็วขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดระเบียบรายงานต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งยังให้มุมมองของข้อมูลในรูปของกราฟิก เพื่อจะได้รู้สถานะของระบบ รวมถึงสมรรถนะ และแนวโน้มในทุกรายละเอียด
รองรับ SNMP v3 MIBs ช่วยให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนไปใช้โปรโตคอลการจัดการเวอร์ชั่นใหม่ได้ในอนาคต และช่วยยกระดับความปลอดภัยให้กับข้อมูลการจัดการ
ลูอิส เฮอร์นานเดซ ผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ระบบ แห่ง University of Texas Medical Branch ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “คุณสมบัติที่เรียกว่า ‘point-and-click’ ในส่วนของฟังก์ชั่นการจัดทำรายงานบนเว็บเซอร์วิส ช่วยให้เราสามารถสื่อสารและจัดการงานเอกสารเพื่อส่งให้กับผู้บริหารได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ หลังจากติดตั้ง ยูนิเซ็นเตอร์ เอ็นเอสเอ็ม อาร์ 11.1 แล้ว เราสามารถถ่ายโอนข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานในอดีตได้สะดวกขึ้น และจัดทำรายงานผลประสิทธิภาพการทำงานได้ทันทีหลังติดตั้ง และเนื่องจากทั้งหมดเป็น web-based จึงช่วยให้เราสามารถทำงานได้มากขึ้นทุกที่ทุกเวลา ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมอีกด้วย”
ยูนิเซ็นเตอร์ เอ็นเอสเอ็ม อาร์ 11.1 ผสานหลากหลายโซลูชันเข้าไว้ในตัว ซึ่งก่อนหน้านี้เสนอเป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม (add-ons) สำหรับลูกค้า การผสานรวมโซลูชันต่างๆ เข้าไว้ในผลิตภัณฑ์หลักนี้ ช่วยให้สามารถติดตั้งได้ง่ายขึ้นอย่างมาก และเพิ่มช่วงเวลาแห่งความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้รายใหม่ๆ โซลูชันดังกล่าวประกอบด้วย Unicenter NSM Active Directory Management Option, Unicenter NSM Systems Performance Option, Unicenter NSM Monitoring Option for z/OS และ Unicenter Management Portal
ซีเอและพันธมิตรคู่ค้าของซีเอมีบริการทดสอบ ประเมิน ฝึกอบรม และบริการด้านดาต้า ไมเกรชั่น อย่างครบครัน เพื่อเอื้อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกในการอัพเกรดมาใช้ ยูนิเซ็นเตอร์ เอ็นเอสเอ็ม อาร์ 11.1
“ด้วยการที่เป็นคลังข้อมูลระบบเปิดที่รวมทุกคุณสมบัติที่จำเป็นไว้ในหนึ่งเดียว รวมถึงระบบจัดการความสัมพันธ์ของเหตุการณ์และศูนย์สั่งการจัดการ (management command center) ที่ก้าวล้ำ ยูนิเซ็นเตอร์ เอ็นเอสเอ็ม อาร์ 11.1 มาพร้อมกับสมรรถนะอันทรงพลังเพื่อช่วยให้การจัดการด้านไอทีขององค์กรมีเอกภาพและสะดวกง่ายดายขึ้น นับเป็นโซลูชันสมบูรณ์แบบสำหรับทุกองค์กรที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเทคโนโลยี เพื่อให้ได้ผลการดำเนินงานธุรกิจที่ดีที่สุด” อาเจ โกปาล รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป หน่วยธุรกิจการจัดการระบบไอทีสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ กล่าว
เกี่ยวกับซีเอ
ซีเอ เป็นหนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยเน้นพัฒนาระบบบริหารจัดการไอทีสำหรับองค์กรที่รวมคุณสมบัติครบครันไว้ในหนึ่งเดียวและใช้งานง่าย
ซีเอ ก่อตั้งขึ้นในปี 1976 ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองไอส์แลนเดีย รัฐนิวยอร์กและ มีลูกค้าอยู่ในประเทศต่างๆ กว่า 140 ประเทศ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.ca.com



