เอทิฮัดสยายปีกแห่งความสำเร็จเข้าสู่ปี 2550

บรรยายใต้ภาพ:นั่งโดยสารชั้นเพิร์ลโซน ของสายการบินเอทิฮัด

ไม่ว่าจะด้วยฝูงบิน, การเปิดตัว 16 เส้นทางบินใหม่, การปฏิรูปโปรแกรมสะสมไมล์ในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงการได้รับรางวัลผู้นำสายการบินใหม่ติดต่อกันเป็นปีที่สาม สิ่งเหล่านี้ล้วนถือเป็นการยืนยันความสำเร็จของสายการบินเอทิฮัดในปี 2549 ที่ผ่านมา

สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจและมีอัตราเติบโตต่อเนื่องต่อไปในปี 2550

มร. เจมส์ โฮเกน ซีอีโอของสายการบินเอทิฮัดกล่าวว่า “ในช่วงเวลา 12 เดือนที่ผ่านมาเอทิฮัดได้ก้าวผ่านการปฏิรูปธุรกิจในหลากหลายแง่มุม ซึ่งทำให้เราสามารถขึ้นไปยืนอยู่ในแถวหน้าของอุตสาหกรรมการบินได้อย่างเต็มภาคภูมิ”

มร. เจมส์ โฮเกน กล่าวเสริมว่า “จากรางวัลแห่งความสำเร็จของที่นั่งโดยสารในชั้นเพิร์ลโซน (ชั้นธุรกิจ) ไปจนถึงการขยายจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว รวมถึงการเพิ่มจำนวนเส้นทางบินต่างๆ เอทิฮัดได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการให้บริการด้านการบิน ซึ่งได้กลายเป็นแนวทางให้กับธุรกิจการบินอื่นๆ ตลอดปี 2549 และเรามั่นใจว่า จะเดินหน้าตามที่ได้ตั้งใจไว้อย่างต่อเนื่องในปี 2550 และต่อๆไป”

ในเดือนสิงหาคม ทางสายการบินฯได้คิดค้นโปรแกรมสำหรับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติที่ใช้บริการของสายการบินเอทิฮัดอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวโปรแกรม “เอทิฮัด เกสท์” ซึ่งได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแก่ลูกค้าสายการบินที่นับวันจะให้ความสำคัญในการใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสมาชิกจะได้รับความสะดวกและสิทฺธิพิเศษต่างๆ รวมถึงทางเลือกในการชำระเงิน ทำให้โปรแกรมนี้ได้รับคำชมเชยจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการบิน และยังได้รับการตอบรับในการเป็นสมาชิกจากอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติมากถึง 70,000 ราย จาก 136 ประเทศทั่วโลก

สายการบินเอทิฮัดตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้งกับการคว้ารางวัลจากงาน World Travel Awards (WTA) ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยสายการบินเอทิฮัดไม่เพียงแต่ได้รับรางวัลในสาขาผู้นำในกลุ่มสายการบินใหม่ของโลก (The World’s Leading New Airline) ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 เท่านั้น แต่ยังได้รับรางวัลผู้นำสำหรับที่นั่งโดยสารชนิดปรับนอนราบที่ดีที่สุดของโลก (The World’s Leading Flat-bed Seat) อีกด้วย

ในปี 2549 สายการบินเอทิฮัดเปิดตัวจุดหมายปลายทางใหม่ทั่วโลกทั้งหมด 16 แห่ง ประกอบด้วยคาซาบลังกา จาการ์ตา คาร์ทูม นิวยอร์ก ปารีส ดักกา โดฮา อิสลามาบัด เจดดาห์ คูเวต ลาฮอร์ แมนเชสเตอร์ มะนิลา มัสกัต เพชาวา และเตหะรานได้อีกด้วย

ในปี 2550 นี้ สายการบินเอทิฮัดได้ตั้งเป้าว่าจะมีจำนวนอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติมาใช้บริการทั้งสิ้น 4 ล้านคน ภายหลังจากที่มีการเปิดให้บริการใน 37 เส้นทางการบินใหม่ ซึ่งได้เปิดให้บริการแล้วในช่วงระยะเวลา 37 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงการเริ่มเปิดให้บริการในเส้นทางสู่นิวยอร์กเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และสำหรับเส้นทางที่จะให้บริการเป็นเส้นทางต่อไปคือ กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งจะเริ่มต้นให้บริการในวันที่ 16 มกราคม 2550 นี้

ปัจจุบัน 80% ของสัดส่วนเครื่องบินในฝูงบินของสายการบินเอทิฮัดล้วนเป็นเครื่องบินลำใหม่ ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนักในวงการธุรกิจการบิน จึงถือได้ว่า เป็นหนึ่งในฝูงบินที่ใหม่ที่สุดในโลก โดยเครื่องบินลำที่ 23 ของฝูงบิน ซึ่งเป็นเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A340-500 ภายในประกอบด้วยที่นั่ง 3 โซน ก็เพิ่งเดินทางมาถึงอาบูดาบีในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

เครื่องบินแอร์บัสรุ่น A340-500 เป็นเครื่องบินรุ่นที่สายการบินได้สั่งซื้อเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 8 พันล้านเหรียญ โดยได้เริ่มการผลิตในปี 2547 จำนวน 29 ลำ ในรูปแบบของเครื่องบินแอร์บัสและโบอิ้ง ก่อนที่เครื่องบินลำล่าสุดจะเดินทางมาสมทบกับฝูงบินแอร์บัส A330-220 จำนวน 9 ลำ และโบอิ้ง 777-300 ERs อีกจำนวน 5 ลำ

จากการเติบโตอย่างน่าประทับใจในช่วงระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้สายการบินเอทิฮัดมีจำนวนพนักงานมากกว่า 3,400 คนจากกว่า 90 เชื้อชาติทั่วทุกมุมโลก

อีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญในปี 2549 ที่ผ่านมาของสายการบิน คือ การที่ที่นั่งโดยสารชั้นเพิร์ลโซน (ชั้นธุรกิจ) ซึ่งให้บริการในฝูงบินใหม่ของสายการบินเอทิฮัดทั้งในเครื่องบินแอร์บัสและโบอิ้ง ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในอุตสาหกรรมการบิน

ด้วยความสามารถในการปรับเอนได้สูงสุดถึง 180 องศาจนแบนราบ กลายเป็นเตียงนอนที่มีขนาดยาว 6 ฟุต 1 นิ้ว พร้อมระบบนวดในตัวให้กับผู้โดยสารเพื่อความผ่อนคลายระหว่างการเดินทาง ทำให้ที่นั่งโดยสารในชั้นเพิร์ลโซน (ชั้นธุรกิจ) ของสายการบินเอทิฮัดสามารถคว้ารางวัลที่นั่งโดยสารชนิดปรับนอนราบที่ดีที่สุดของโลก (The World’s Leading Flat-bed Seat) จากงาน World Travel Awards มาครองได้

การพัฒนาที่นั่งโดยสารในชั้นไดมอนด์โซน (ชั้นหนึ่ง) ของสายการบินก็ได้รับการเปิดตัวเช่นเดียวกัน ด้วยที่นั่งที่สามารถปรับเอนได้สูงสุด 180 องศา จนกลายเป็นเตียงนอนแบนราบ และยังสามารถหมุนรอบตัวได้ถึง 180 องศา ทำให้ผู้โดยสารสามารถหันหน้าเข้าหากันเพื่อประชุมพูดคุย รับประทานอาหารร่วมกัน และสนทนาโต้ตอบกันได้อย่างสะดวกสบาย

ในส่วนแผนกขนส่งสินค้าของสายการบินเอทิฮัด หรือที่เรียกว่า “เอทิฮัด คริสตัล คาร์โก้” ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระดับที่เกินความคาดหมาย ด้วยปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้นถึง 100,000 ตัน ภายในสิ้นปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่มีปริมาณการขนส่งเพียง 20,000 ตัน ทำให้ทางสายการบินเอทิฮัดคาดการณ์ว่า ยอดขนส่งสินค้าในปี 2550 นี้ จะมีมากจนทะลุ 200,000 ตันได้อย่างแน่นอน

ในช่วงต้นปี 2550 ผู้โดยสารสามารถใช้บริการโปรแกรมท่องเที่ยวของเอทิฮัด ฮอลิเดย์ โดยสามารถเลือกเดินทางไปยัง 80 จุดหมายปลายทางที่ต่างกัน ด้วยโปรแกรมท่องเที่ยวที่มีให้เลือกมากถึงกว่า 300 โปรแกรมด้วยกัน

เอทิฮัด ฮอลิเดย์ ขยายตัวอย่างรวดเร็วในปี 2549 ที่ผ่านมา โดยได้เสนอทางเลือกพิเศษเพื่อการพักผ่อนในโรงแรมที่พักระดับคุณภาพในเมืองท่องเที่ยวสำคัญทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวแผ่นพับโฆษณาใหม่โปรโมทการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสถานที่พักตากอากาศสำหรับการเล่นสกีในฤดูหนาวอีกด้วย

มร. โฮเกน กล่าวสรุปว่า “ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่สำคัญและน่าจดจำยิ่งของสายการบินเอทิฮัด ไม่ว่าจะเป็นการที่อุตสาหกรรมการบินให้การยอมรับในความก้าวหน้าของเราในการประกาศรางวัล World Travel Awards เอทิฮัดมุ่งมั่นที่จะยังรักษาความเป็นผู้นำในเรื่องของจรรยาบรรณและความเติบโตในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องไปจนตลอดปี 2550”

การประสบความสำเร็จของสายการบินเอทิฮัดในปี 2549
• รางวัลจาก World Travel Awards (WTA) – รางวัลผู้นำในกลุ่มสายการบินใหม่ของโลก(The world’s leading new airline)ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน และรางวัลการเป็นผู้นำสำหรับที่นั่งโดยสารชนิดปรับนอนราบที่ดีที่สุดของโลก (The world’s leading flat-bed seat) ประจำปี 2549
• การเปิดตัวโปรแกรมเอทิฮัด เกสท์ ซึ่งมีสมาชิกแล้วกว่า 70,000 รายจาก 136 ประเทศทั่วโลก
• การเปิดตัว 16 จุดเส้นทางการบินใหม่ รวมถึงกรุงนิวยอร์ก และกรุงปารีส
• 80%ของเครื่องบินทั้งหมดเป็นเครื่องบินใหม่
• สาบการบินเอทิฮัดให้บริการผู้โดยสารได้มากถึง 1 ล้านคน ภายในระยะเวลา 3 เดือน (กรกฎาคม – กันยายน)
• สายการบินเอทิฮัดมีพนักงานมากกว่า 3,400 คนจากทั่วทุกมุมโลก ประกอบไปด้วยผู้คนจาก 94 เชื้อชาติ
• สายการบินเอทิฮัดได้ประเมินว่าการขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศของสายการบินจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 5 เท่าเป็น 1แสนตัน
• จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวมากกว่า 80 แห่ง ที่มีให้เลือกกว่า 300 แห่ง

เกี่ยวกับสายการบินเอทิฮัด

สายการบินเอทิฮัด เป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเป็นหนึ่งในสายการบินที่เจริญเติบโตรวดเร็วสายการบินหนึ่ง ปัจจุบัน เอทิฮัดให้บริการเที่ยวบินสำหรับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติ 37 จุดหมายปลายทาง ครอบคลุมตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ แอฟริกา และเอเชีย

เอทิฮัด คริสตัล คาร์โก้ – www.crystalcargo.com – ให้บริการขนส่งพัสดุภัณฑ์ ผ่านเส้นทางบินของสายการบินเอทิฮัด ไป 47 จุดหมายปลายทางต่างๆ โดยเครื่องบินอันทันสมัยของเอทิฮัดเพื่อการขนส่งทั่วโลก

เอทิฮัด ฮอลิเดย์ – www.etihadholidays.com – เสนอทางเลือกเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวถึง 82 จุดหมายปลายทาง ด้วยแพ็กเกจต่างๆ รวมถึงสกี, ฟลาย-ไดรฟ์ (fly-drive), ล่องเรือสำราญ, ทัวร์ต่างๆ, การหยุดพักผ่อนระหว่างการบิน, โปรแกรมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศ, และการท่องเที่ยวภายในเมืองต่างๆ

สายการบินเอทิฮัดได้รับรางวัลผู้นำในกลุ่มสายการบินใหม่ของโลก (The world’s leading new airline) ในปี 2547 2548 และ 2549 ติดต่อกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เอทิฮัดยังได้รางวัลผู้นำสำหรับที่นั่งโดยสารชนิดปรับนอนราบที่ดีที่สุดของโลก (The world’s leading flat-bed seat) ประจำปี 2549 จากงานส่งเสริมการท่องเที่ยวนานาชาติ หรือ World Travel Awards (WTA)

สายการบินเอทิฮัด มุ่งมั่นที่จะนำท่านไปสู่นวัตกรรมใหม่ของการเดินทาง ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายการบินเอทิฮัดได้ที่ www.etihadairways.com

สายการบินเอทิฮัด สำนักงานกรุงเทพฯ
ชั้น 18 อาคาร เอ็ม ไทย ทาวเวอร์
ออล ซีซั่นส์ เพลส
87 ถนนวิทยุ ปทุมวัน
กรุงเทพฯ 10330
โทร 02 253 0099
แฟกซ์ 02 252 2100