ดีแทคเตรียมเปิดให้บริการโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ (International Direct Dialing – IDD) หลังได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทที่ 3 จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) พร้อมทุ่มงบ 2,000 ล้านบาทสร้างโครงข่ายและเกตเวย์เชื่อมต่อต่างประเทศ เชื่อมั่นสามารถเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นปี 2550
นายวรรษิษฐ์ ไสยวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า ดีแทคได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทที่ 3 จาก กทช. แบบมีเลขหมายพิเศษ 3 หลักในการเรียกออกต่างประเทศ เพื่อให้บริการ IDD เรียบร้อยแล้ว โดยในขั้นต้นดีแทควางแผนที่จะลงทุนจำนวนเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ในการสร้างโครงข่ายภายในประเทศเพื่อเชื่อมต่อกับโครงข่ายการให้บริการในต่างประเทศเพื่อให้บริการดังกล่าว
ภายใต้ใบอนุญาตประกอบกิจการที่ได้รับ ดีแทคจะให้บริการที่ครอบคลุมทั้งการให้บริการ IDD ในระดับคุณภาพสูง และการให้บริการ IDD แบบ VoIP (Voice over IP) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถโทรทางไกลในราคาที่เหมาะสม และสามารถแข่งขันได้ โดยบริษัทจะใช้จุดแข็ง 2 ส่วนทั้งในเรื่องของคุณภาพ และราคาเป็นหลักในการทำตลาด และแข่งขันกับผู้ให้บริการรายอื่นๆ
“ดีแทคมั่นใจในเศรษฐกิจของประเทศไทย ดังนั้นเราจึงตั้งใจที่จะลงทุนในการให้บริการในธุรกิจใหม่ส่วนนี้ ที่สำคัญ เราเชื่อมั่นว่าธุรกิจโทรทางไกลระหว่างประเทศเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากภาครัฐเปิดให้บริการธุรกิจนี้อย่างเสรี ผลประโยชน์สูงสุดจะตกอยู่กับผู้ใช้บริการ เนื่องจากมีตัวเลือกในการใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น” นายวรรษิษฐ์กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้เวลาในช่วง 9 เดือนแรกในการติดตั้งอุปกรณ์หลักทั้งตัวชุมสาย และเกตเวย์ เพื่อสร้างโครงข่ายหลัก (Core network) ของบริการ เพื่อให้ผู้ใช้บริการมือถือทั้งระบบโพสต์เพดและพรีเพด รวมถึงผู้ใช้บริการข้ามแดนอัตโนมัติ (International Roaming: IR) สามารถใช้บริการโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศได้เป็นกลุ่มแรก โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการได้ภายในปลายปี 2550 นี้
นายวรรษิษฐ์กล่าวว่า ในช่วงแรก รายได้จากธุรกิจ IDD จะถือเป็นรายได้ส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ โดยในปีนี้ ตั้งเป้ารายได้ของกลุ่มธุรกิจต่างประเทศไว้ที่ 5,000 ล้านบาท ดีแทคเชื่อมั่นว่าการได้มาซึ่งใบอนุญาตในการให้บริการ IDD จะช่วยให้มีรายได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ไม่ต่ำกว่า 40%.