พิธีเปิดห้องรับรองผู้โดยสารร่วมด้วยแขกกิตติมศักดิ์ พลเรือเอก บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมทั้งผู้แทนจากเอมิเรตส์ มร. ริชาร์ด วอน รองประธานอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ เอเชียตะวันออกและออสตราเลเชีย มร. วอลเตอร์ ริกเกนส์ รองประธานฝ่ายปฏิบัติการภาคพื้นดินสาขาต่างประเทศ และ มร. เจฮุน อิเฟนดิ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย และอินโดจีน
ห้องรับรองผู้โดยสารของสายการบินเอมิเรตส์ที่กรุงเทพฯ เป็นห้องรับรองผู้โดยสารลำดับที่สิบแปดของเครือข่ายเอมิเรตส์ทั่วโลก นอกจากนั้นยังเป็นลำดับที่เก้าในภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิกในรอบสองปีที่ผ่านมา และลำดับที่สี่ที่ได้เปิดทำการในเขตตะวันออกไกลในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญหนึ่งในของโครงการลงทุนหลายล้านของสายการบินเอมิเรตส์เพื่อที่จะสร้างห้องรับรองผู้โดยสารชั้นเยี่ยม ณ สนามบินหลักต่าง ๆ โดยใช้วัสดุที่เป็นมาตรฐานเดียวกันอย่างเช่นหินอ่อนจากอิตาลี หนังคุณภาพเยี่ยมจากสก็อตแลนด์ นาฬิกาโรเล็กซ์จากเจนีวา จอพลาสมาพร้อมแซทเทิลไลท์ทีวี ห้องน้ำและห้องอาบน้ำที่ออกแบบอย่างสวยงาม
มร. ริชาร์ด วอน กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมงาน ณ ห้องรับรองผู้โดยสารของสายการบินเอมิเรตส์ พร้อมกล่าวว่า “เอมิเรตส์เริ่มเปิดให้บริการเที่ยวบินจาก/ไปยังกรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ. 2533 จนถึงปัจจุบันที่ธุรกิจของเราได้ขยายเที่ยวบินไป-กลับจากกรุงเทพฯ ถึง 36 เที่ยวบินต่อสัปดาห์”
“กรุงเทพฯ คือหนึ่งในเมืองหลักของเราในแถบตะวันออกไกล เนื่องด้วยทำเลที่เหมาะสมที่เราสามารถนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างราบรื่นให้กับผู้โดยสารของเรา รวมทั้งการเชื่อมต่อไปยังจุดหมายปลายทางของเราในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ในขณะเดียวกันจากดูไบ ผู้โดยสารก็สามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปยังเครือข่ายใหญ่ในภาคพื้นยุโรป แอฟริกาและตะวันออกกลาง”
นอกจากผู้โดยสารชั้นหนึ่ง และชั้นธุรกิจของสายการบินเอมิเรตส์แล้ว สมาชิกระดับโกลด์ของสกายเวิร์ด ซึ่งเป็นโปรแกรมสะสมไมล์ สำหรับสมาชิกที่ใช้บริการของสายการบินเป็นประจำ ก็สามารถใช้บริการของห้องรับรองผู้โดยสารได้เช่นกัน
ห้องรับรองผู้โดยสารขนาด 541 ตารางเมตรที่สนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่าร้อยท่าน ภายในห้องรับรองผู้โดยสารยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไว้ให้บริการ สำหรับผู้โดยสารที่เป็นนักธุรกิจ มีบริการอินเทอร์เน็ต บริการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค โทรศัพท์ โทรสาร เครื่องพิมพ์ รวมทั้งหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินไปกับรายการอาหารร้อนและเย็น ทั้งในบรรยากาศที่เป็นทางการหรือเป็นกันเองแบบที่มีบริการบาร์เครื่องดื่มพร้อมแชมเปญ
มร. เจฮุน อิเฟนดิ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย และอินโดจีน กล่าวว่า “ห้องรับรองผู้โดยสารของเอมิเรตส์นับเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ดีถึงความมุ่งมั่นของเราต่อประเทศไทยและผู้โดยสารของเรา ห้องรับรองผู้โดยสารแห่งใหม่นี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญเติบโตของธุรกิจสำหรับผู้โดยสารของเราที่จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2550”
ก่อนการเปิดห้องรับรองผู้โดยสารของเอมิเรตส์ที่กรุงเทพฯ เอมิเรตส์ได้เปิดตัวห้องรับรองผู้โดยสารมาตรฐานเดียวกันที่สนามบินหลักต่าง ๆ อาทิ นิวยอร์ค, ลอนดอน (ฮีทโทรว์และแกทวิค), ปารีส, มิวนิค, แฟรงค์เฟิร์ท, ซิดนีย์, บริสเบน, เมลเบิร์น, เพิร์ธ, โอ๊คแลนด์, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และกัวลาลัมเปอร์ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อวานนี้
จากประเทศไทย สายการบินเอมิเรตส์ให้บริการด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ERs และ 777-300s ด้วย 19 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปยังดูไบ 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์สู่ฮ่องกง และ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์สู่ซิดนีย์และโอ๊คแลนด์
บรรยายภาพ
ผู้บริหารระดับสูงจากสายการบินเอมิเรตส์ พร้อมแขกรับเชิญกิตติมศักดิ์ ร่วมตัดเค้กเพื่อทำพิธีเปิดห้องรับรองผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
มร. ริชาร์ด วอน รองประธานอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ เอเชียตะวันออกและออสตราเลเชีย สายการบินเอมิเรตส์ (ที่สามจากขวา) พร้อมด้วย มร. วอลเตอร์ ริกเกนส์ รองประธานฝ่ายปฏิบัติการภาคพื้นดินสาขาต่างประเทศ สายการบินเอมิเรตส์ (ที่สองจากซ้าย) มร. เจฮุน อิเฟนดิ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย และอินโดจีน สายการบินเอมิเรตส์ (ที่สองจากขวา)
พลเรือเอก บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ที่สามจากซ้าย) ร.ท.ณรงค์ชัย ถนัดช่างแสง รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายงานพัฒนาธุรกิจ) (ที่สี่จากซ้าย) พร้อมแขกรับเชิญกิตติมศักดิ์ ร่วมตัดเค้กพิธีเปิดห้องรับรองผู้โดยสารสายการบินเอมิเรตส์
