คาซิโอประกาศเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2550 ว่าตัวแทนของคาซิโอ คอมพิวเตอร์ คำปะนี ลิมิเต็ด และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เข้าตรวจค้นร้านค้าปลีกที่จำหน่ายของปลอมสี่แห่งในย่านคลองถม
ทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย รอง ผบช. สุชาติ กาญจนวิเศษ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เข้ายึดเครื่องคิดเลขปลอมภายใต้เครื่องหมายการค้า “Casio” กว่า 1,000 เครื่อง ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 300,000 บาท
ตัวแทนของคาซิโอ กล่าวว่า “ผู้บริโภคจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าของแท้แต่กลับได้สินค้าปลอม ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยผู้ซื้อไม่ได้รับประกันในคุณภาพสินค้าหรือบริการแต่อย่างใด” โดยเจ้าของร้านทั้ง 4 ร้านถูกดำเนินคดีในข้อหาละเมิดเครื่องหมายการค้าแล้ว ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุก 4 ปี หรือปรับ 4 แสนบาท หรือทั้งจำคุกทั้งปรับ ตัวแทนของคาซิโอ เปิดเผยว่า คาซิโอได้เริ่มรณรงค์ต่อต้านผู้ปลอมแปลงสินค้าของ คาซิโอ และได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะกำจัดสินค้าปลอมยี่ห้อ “Casio,” “G-Shock,” และ “Baby-G” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องคิดเลขและนาฬิกาข้อมือ ให้หมดจากตลาดในประเทศไทย เพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริโภคชาวไทยไม่ได้รับความเสียหายจากการที่ผู้ละเมิดเครื่องหมายการค้ากระทำผิดทางอาญา อีกทั้ง คาซิโอวางแผนจะเข้าตรวจค้นบริษัทและร้านค้าของปลอมอย่างทั่วถึง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อกวาดล้างตลาดค้าขายสินค้าคาซิโอปลอม”
ตัวแทนยังกล่าวอีกว่า คาซิโอจะร่วมมือกับชุดปราบปรามการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อกวาดล้างตลาดสินค้าปลอมให้หมดไป บริษัท ติลลิกีแอนด์กิบบินส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของคาซิโอ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการโดยคำนึงถึงผู้บริโภคที่อาจถูกหลอกให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับแหล่งที่มาและคุณภาพของสินค้าที่ต้องสงสัยเหล่านั้น และหวังว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรณรงค์ต่อต้านผู้ผลิตและผู้ค้าสินค้าที่ต้องสงสัยดังกล่าวต่อไป คาซิโอและที่ปรึกษาทางกฎหมายของตนให้สัญญาว่าจะสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวต่อไป