เชฟโรเลต พร้อมส่ง “แคปติวา” อวดโฉมครั้งแรกของเมืองไทยในมอเตอร์โชว์

ปลายมีนาคมนี้ เตรียมพบและสัมผัสความหรูหรา สวยสมบูรณ์แบบของรถอเนกประสงค์ SUV ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All Wheel Drive ดีไซน์สุดเฉียบ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยมากมาย ที่ให้เกินคุ้ม

เชฟโรเลต แคปติวา รถ SUV ที่มาพร้อมทั้งความหรูหรา รูปลักษณ์ที่สวยงามลงตัว และสมรรถนะอันทรงพลัง ที่เชฟโรเลตพร้อมเปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทย เตรียมพบ สัมผัส และสั่งจองได้ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 28 ณ ศูนย์ฯ ไบเทค บางนา

บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมส่ง “เชฟโรเลต แคปติวา” (Chevrolet Captiva) รถ SUV อเนกประสงค์รุ่นล่าสุดของโลก เปิดตัวในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 28 ณ ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ ไบเทค บางนา ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2550 นี้

เชฟโรเลต แคปติวา เป็นรถอเนกประสงค์ SUV ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ AWD (All Wheel Drive) ที่มีทั้งการออกแบบที่สวยงามลงตัว ความหรูหรากว้างขวางจากเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายต่าง ๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังให้สมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ต สมบุกสมบัน ให้ความปลอดภัยและความสนุกสนานในการขับขี่ นอกจากนี้ แคปติวายังออกแบบมาเพื่อให้มีความเหมาะสมลงตัวสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกเพศทุกวัย ซึ่งแคปติวายังมีความหลากหลายและมีความยืดหยุ่นสูงในด้านของการใช้งาน ไม่วาจะเป็นความอเนกประสงค์สำหรับการเดินทางในรูปแบบต่าง ๆ ความอเนกประสงค์ของห้องโดยสารที่สามารถปรับให้เหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสาร หรือปริมาณสัมภาระ

มร. จอห์น ธอมสัน รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แคปติวา เป็นรถที่เหมาะกับทุกรูปแบบของการใช้ชีวิต ซึ่งหมายถึงความเหมาะสมลงตัวเป็นอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าของเรา เชฟโรเลตนั้นเป็นบริษัทรถยนต์ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในประเทศไทย นั่นเป็นเพราะเราผลิตรถตามความต้องการของคนไทย และการนำ เชฟโรเลต แคปติวา มาแนะนำในเมืองไทยครั้งนี้ เป็นเพราะเราเชื่อมั่นว่า แคปติวา นั้นเป็นรถอเนกประสงค์ที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้ชีวิตต่าง ๆ ของผู้บริโภคชาวไทย ที่มีทั้งความเร่งรีบในชีวิตประจำวัน ความต้องการรถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว การขนสัมภาระในปริมาณมาก ๆ รวมถึงการตอบสนองชีวิตอิสระเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งรถที่สามารถรองรับความต้องการเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้นจะต้องมีทั้ง ความปลอดภัย ความคล่องตัว และสมรรถนะการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ”

รถระดับโลกตัวจริง

เชฟโรเลต แคปติวา เป็นรถสำหรับคนทั่วโลกอย่างแท้จริง จากการออกแบบเพื่อการใช้งานของ ลูกค้าทั้งในทวีปเอเชีย อเมริกา และยุโรป ซึ่งมีข้อพิสูจน์ความเป็นรถระดับโลกจากดีไซน์ต้นแบบถึง 450 ตัวอย่าง ก่อนผลิตออกมาเป็นรถสำหรับทดลองวิ่งและทดสอบความทนทานตลอดระยะทางกว่า 5 ล้านกิโลเมตรในช่วงของการพัฒนา ซึ่งเชฟโรเลต แคปติวา ผ่านการทดลองวิ่งมาแล้วในทุกสภาพอากาศ ทุกสภาพถนน รวมทั้งทดสอบอัตราเร่ง เพื่อให้แน่ใจได้ถึงสมรรถนะที่น่าพอใจ ทั้งความปลอดภัย ความทนทาน ความอเนกประสงค์ที่เหนือชั้นกว่ารถคันใด และแน่นอนว่าจะต้องสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าในทุก ๆ พื้นที่ของโลก ขณะเดียวกัน แคปติวายังถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองทั้งด้านการใช้งานที่สะดวกสบาย เหมือนกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ให้ความอเนกประสงค์ที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมกับสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ตซึ่งเปี่ยมด้วยพละกำลังและความคล่องตัว ทำให้สามารถใช้งานได้ดีทั้งในเมือง วิ่งทางไกล หรือการท่องเที่ยวในสไตล์ออฟโรด

ทันสมัยกับดีไซน์อันทรงพลัง

แคปติวา มีบุคลิกที่โดดเด่นจากการออกแบบสัดส่วนของตัวรถให้ดูทันสมัยอย่างแท้จริง ด้วยความโค้งมนทุกเส้นสายตลอดตัวถัง เสริมจุดเด่นด้านหน้าด้วยไฟหน้าขนาดใหญ่ดูดุดัน รวมไปถึงขอบคิ้วด้านข้างตัวรถที่ทำให้รถดูคล่องแคล่วพริ้วไหวไปตลอดจนถึงด้านท้ายรถ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้แคปติวาดูสปอร์ต แข็งแกร่ง มั่นคงและทรงพลัง เค้าโครง ขอบ สัน ต่าง ๆ ที่รวมกันขึ้นเป็นรูปทรงของแคปติวานั้น ทำให้ดูมั่นคง สง่างาม ยามเมื่อวิ่งอยู่บนถนน

ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร

ด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 2.4 ลิตร DOHC 16 วาล์ว ปริมาตรกระบอกสูบ 2,405 ซีซี ทำให้แคปติวาเป็นรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพ จากจังหวะการเดินเครื่องยนต์ที่นุ่มนวลและทรงพลัง ให้กำลังสูงสุดที่ 142 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

สนองทุกการขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD

เชฟโรเลต แคปติวา ยังช่วยให้การขับขี่และการใช้ชีวิตสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD (All Wheel Drive) แบบ on-demand เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการขับขี่ ที่นอกจากจะได้สมรรถนะที่ดีเยี่ยมจากท้องถนนแล้ว ยังสามารถตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลาย หรือการท่องเที่ยวแบบสมบุกสมบันมากขึ้นได้อีกด้วย และด้วยความฉลาดของระบบ on-demand AWD ที่ปกติจะขับเคลื่อนล้อหน้ายามวิ่งบนถนนปกติเพื่อช่วยการประหยัดเชื้อเพลิง แต่จะเปลี่ยนการถ่ายทอดกำลังลงล้อทั้ง 4 โดยอัตโนมัติ เมื่อสภาพถนนเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นสภาพถนนลื่น พบเส้นทางแบบออฟโรด เข้าโค้งลึก ๆ หรือขับบนทางชัน จากการทำงานของตัวเซนเซอร์ ซึ่งจะจับความผิดปกติจากการหมุนของล้อข้างใดข้างหนึ่ง จากนั้นระบบจะเปลี่ยนการถ่ายทอดกำลังจากล้อหน้าไปยังล้อทั้ง 4 ทันที เพื่อให้ยึดเกาะถนนได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งระบบ on-demand นี้จะทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS ระบบ active safety เพื่อช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เสริมสมดุลแรงบิดด้วย Active Torque On Demand

อีกหนึ่งจุดเด่นในด้านสมรรถนะของ แคปติวา คือ ระบบเสริมแรงบิดอัจฉริยะ (Active Torque On Demand) ที่ช่วยเสริมพละกำลังให้กับระบบขับเคลื่อนแบบ AWD จากการทำงานของ คลัตช์แม่เหล็กไฟฟ้ากับคลัตช์แบบเปียก ซึ่งจะทำหน้าที่ส่งกำลังสู่ระบบเฟืองท้ายเพื่อกระจายแรงบิดที่เหมาะสมมากที่สุดสำหรับเพลาล้อคู่หน้าและคู่หลัง ทั้งนี้เพื่อสร้างสมดุลและเสริมกำลังให้กับสภาพการขับขี่ที่แตกต่างกันออกไป

ในสภาพถนนปกติ การถ่ายทอดกำลังจะลงสู่ล้อคู่หน้าทั้งหมด แบบ 100% ในอัตรา 100:0 ระหว่างล้อคู่หน้ากับล้อคู่หลัง เหมือนกับขับรถขับเคลื่อน 2 ล้่อหน้า ตลอดเวลาแบบ full time เพื่อช่วยทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง แต่เมื่อสภาพการขับขี่เปลี่ยนไป ระบบทำการจับสัญญาณได้ว่าล้อขับเคลื่อนคู่หน้าเกิดอาการลื่นไถล ระบบนี้จะสั่งให้ตัว Active Coupling แบบแม่เหล็กไฟฟ้าจับเฟืองท้ายเพื่อถ่ายทอดแรงบิดจากล้อคู่หน้าลงสู่ล้อคู่หลังโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดในรถยนต์ที่หรูหราราคาสูงเท่านั้น เป็นการช่วยผลักให้ล้อหน้าหลุดจากอุปสรรค หรืออาการลื่นไถล ซึ่งอัตราการทดแรงบิดลงระหว่างล้อคู่หน้ากับคู่หลังนั้น อาจเป็นได้ทั้งในอัตรา 50:50 อัตรา 60:40 ที่อัตรา 70:30 หรืออาจมาก-น้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับสภาพของถนน สภาพของการขับขี่ ว่ามีความลื่น หรือเกิดอาการล้อคู่หน้าหมุนฟรีมากแค่ไหน

ระบบช่วงล่างที่เหนือชั้น กับ Self-Levelizer

ชุดช่วงล่าง หรือชุดกันสะเทือนของ เชฟโรเลต แคปติวา เป็นแบบอิสระ MacPherson Struts ที่ด้านหน้า และใช้ระบบช่วงล่างอิสระ 4-link ที่ด้านหลัง ให้การยึดเกาะถนนอย่างปลอดภัย และความนุ่มนวลเพื่อการขับขี่ที่รื่นรมย์ พร้อมเสริมความโดดเด่นที่เหนือชั้นกว่ารถอเนกประสงค์รุ่นใด ๆ ด้วยช่วงล่างแบบ Self-Levelizer ที่จะช่วยปรับระดับของช่วงล่างให้อยู่ในระนาบเดียวกัน เช่น เมื่อมีการบรรทุกสัมภาระที่ด้านท้ายรถ น้ำหนักที่ถ่วงท้ายก็จะทำให้หน้ารถเชิดขึ้น แต่ด้วยกลไกอัตโนมัติของ Self-Levelizer จะปรับระดับของช่วงล่างด้านหลังให้ยกสูงขึ้น เพื่อให้ระดับของด้านหน้ารถกับด้านหลังอยู่ในแนวขนานกับพื้นถนนเท่ากัน ซึ่งทำให้ไม่เกิดอาการหน้าเชิด ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นคง ปลอดภัย มากยิ่งขึ้น

สปอร์ตยิ่งขึ้นกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด Tiptronic

แคปติวา ยังเพิ่มทางเลือกสำหรับการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยระบบส่งกำลังจากเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด Tiptronic คือ เกียร์อัตโนมัติที่มีระบบเกียร์แบบ manual shift ที่ทำให้การขับขี่บนเกียร์อัตโนมัติเสมือนเกียร์ธรรมดา เป็นทางเลือกใหม่สำหรับการขับขี่รถยนต์อเนกประสงค์ SUV ซึ่งจะพบอยู่ในรถระดับหรูเท่านั้น

ออกแบบภายในอย่างหรูหรา อเนกประสงค์

การออกแบบภายในห้องโดยสารของ แคปติวา นอกจากให้ความหรูหราทันสมัยแล้ว ยังเสริมความลงตัวในการปรับรูปแบบการใช้งานได้ตามความต้องการ พร้อมทั้งยังมีความกว้างขวางสะดวกสบายจากเบาะโดยสาร 7 ที่นั่ง เมื่อพับเบาะแถวที่ 3 ราบลงจะมีปริมาตรในการขนสัมภาระอยู่ที่ 465 ลิตร และเมื่อปรับเบาะแถวที่ 2-3 ให้เรียบในระดับเดียวกันจะเพิ่มพื้นที่ใช้สอยสูงสุดถึง 930 ลิตร ขณะเดียวกัน แคปติวายังเสริมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายอย่างเต็มรูปแบบ อาทิ ระบบเครื่องเสียง ที่รองรับวิทยุ ซีดี และ MP3 แบบใส่ 6 แผ่นทางด้านหน้า กระจายความเย็นทั่วห้องโดยสารด้วยพัดลมแอร์ที่เบาะนั่งแถวที่ 3 และ on-board computer ที่ใช้แสดงอัตราการเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย คำนวณระยะทาง เข็มทิศ จับระยะทางและระยะเวลาในการขับรถแต่ละครั้ง วัดอุณหภูมิภายนอกและภายในห้องโดยสาร ฯลฯ

ขับ “แคปติวา” ได้อย่างมั่นใจ ด้วยมาตรฐาน 4 ดาวจาก Euro NCAP

เชฟโรเลต แคปติวา มีค่ามาตรฐานด้านความปลอดภัย ถึงระดับ 4 ดาว จากการทดสอบความแข็งแรงจากการทดสอบการชนของ Euro NCAP ทำให้สามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในขณะใช้งาน (www.euroncap.com) นอกจากนี้ เชฟโรเลต แคปติวา ยังเสริมความมั่นใจในการขับขี่ได้สูงสุด จากการรับประกันคุณภาพนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรพร้อมบริการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง จากบริการ Roadside Assistance และศูนย์บริการเชฟโรเลตกว่า 100 แห่ง ทั่วประเทศ

ข้อมูลทางเทคนิค เชฟโรเลต แคปติวา

มิติรถ มม.
ความยาว 4639
ความกว้าง 1849
ความสูง 1726
ฐานล้อ 2707

เครื่องยนต์
แบบ 2.4 ลิตร DOHC 16 วาล์ว
ปริมาตรกระบอกสูบ 2405 ซีซี
แรงม้าสูงสุด 142@5200รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 220@4000 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อมระบบ Tiptronic
ขนาดล้อ / ยาง รุ่น AWD ขนาดล้อ 17×7” ขนาดยาง 235/60 R17
รุ่น FWD ขนาดล้อ 16×6.5” ขนาดยาง 215/70 R16

พบกับ “แคปติวา” ในสีสันแบบใหม่ของบูธ เชฟโรเลต

เตรียมพบ สัมผัส และสั่งจอง เชฟโรเลต แคปติวา ที่มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All Wheel Drive และขับเคลื่อน 2 ล้อแบบ Front Wheel Drive ได้ภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 28 นี้ พร้อมพบกับ Chevrolet Pavilion ที่ได้รับการออกแบบใหม่ สดใสกว่าเดิม จากแนวคิด “Enlightening Your Life” หรือ “เติมสีสันให้กับชีวิต” และยังมีรถยนต์รุ่นอื่น ๆ อีกมากมายจากเชฟโรเลต ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติ CNG ในเชฟโรเลต ออพตร้า และ ออพตร้า เอสเตท รถกระบะทรงพลังอย่าง Colorado CTi Max 3.0 ลิตร หรือ โคโลราโด 2.5 ลิตร รุ่น Z71 แบบยกสูง รวมทั้ง “รถเล็กดีไซน์บิ๊ก”อย่าง เชฟโรเลต อาวีโอ

ขั้นตอนการประกอบรถอเนกประสงค์ SUV เชฟโรเลต แคปติวา ใช้มาตรฐานระดับโลกของศูนย์การผลิตรถยนต์เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย จังหวัดระยอง เป็นมาตรฐานเพื่อการส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน และจำหน่ายพร้อมกันในกว่า 100 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งยุโรป อเมริกา ลาตินอเมริกา และเอเชียแปซิฟิก โดยนโยบายหลักในการผลิตของศูนย์การผลิตจีเอ็มทั่วโลก นั่นคือการที่จะ “ไม่รับ ไม่สร้าง ไม่ส่งมอบ” คือ ไม่รับชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ประกอบ และไม่ส่งมอบรถที่ไม่มีคุณภาพออกจากศูนย์การผลิตอย่างเด็ดขาด เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ