ข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับรถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะกรณีล่าสุดที่รถทัวร์ปรับอากาศ ป.2 สายยโสธร-กรุงเทพฯคันหนึ่งเกิดเหตุไฟไหม้ มีผู้เสียชีวิตถึง 30 ศพ บาดเจ็บอีกหลายสิบราย ทำให้มีการกล่าวถึงมาตรการที่จะป้องกันการเกิดอุบัติเหตุกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งมาตรการหนึ่งที่มีการกล่าวถึงคือ การตรวจสภาพรถ ซึ่งรถทุกคันต้องผ่านการตรวจสภาพรถก่อนการเสียภาษีประจำปี โดยมีการกำหนดเกณฑ์ว่าถ้าเป็นรถโดยสาร รถบรรทุกและรถขนาดเล็ก ซึ่งถือว่าเป็นรถสาธารณะนั้นต้องเข้ารับการตรวจสภาพรถทุกปี ส่วนรถยนต์และรถจักรยานยนต์นั้นมีการกำหนดว่าต้องตรวจสภาพรถตามกำหนดอายุรถเป็นเกณฑ์ คือ รถยนต์กำหนดไว้ตั้งแต่ปีที่ 7 เป็นต้นไป และรถจักรยานยนต์ตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป
ปัจจุบันการตรวจสภาพรถแบ่งออกเป็น 2 ตลาดคือ รถโดยสารและรถบรรทุกซึ่งเป็นรถสาธารณะนั้นผู้รับผิดชอบในการตรวจสภาพรถคือ กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม อีกตลาดหนึ่งคือ ธุรกิจตรวจสภาพรถเอกชน ซึ่งกรมการขนส่งอนุญาตให้ตรวจสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ธุรกิจตรวจสภาพรถเอกชนในปัจจุบันนับว่าเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง แต่ก็เป็นธุรกิจที่น่าสนใจเนื่องจากมีเม็ดเงินสะพัดในปี 2550 ถึง 1,700 ล้านบาท
รถที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกทุกประเภท เจ้าของรถต้องนำรถไปตรวจสภาพประจำปีก่อนชำระภาษีได้ทั้งที่หน่วยงานของกรมการขนส่งทางบก และ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมฯ หัวใจของการตรวจสภาพรถคือ รถจะต้องมีสภาพมั่นคง แข็งแรง มีลักษณะ ขนาด และเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของรถถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับรถ ผู้โดยสาร ผู้ขับขี่รถคันอื่นๆ คนเดินถนน รวมทั้งสภาพแวดล้อมต่างๆ
สำหรับประเด็นของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถทัวร์ครั้งล่าสุดนี้ แม้ว่ารถทัวร์คันดังกล่าวจะเพิ่งผ่านการตรวจสภาพรถ ทำให้กรมการขนส่งทางบกต้องเพิ่มมาตรการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไปด้วย ดังนี้
1.บังคับตรวจสภาพรถปีละ 2 ครั้ง กรมการขนส่งทางบกจะเร่งให้มีการออกกฎหมายเพื่อบังคับให้รถโดยสารต้องตรวจสภาพอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งให้เร็วกว่ากำหนด จากเดิมที่กำหนดจะออกบังคับใช้ในเดือน มิ.ย.2552
2.กำหนดอายุการใช้งานของรถ แนวนโยบายกำหนดอายุการใช้งานของรถโดยสารสาธารณะที่จดทะเบียนใหม่ ให้มีอายุการใช้งานที่ 7-10 ปี จากเดิมที่ไม่เคยมีการกำหนดอายุการใช้งานของรถ
3.จัดอบรมพนักงานขับรถ กรมการขนส่งทางบกจะกำหนดให้ผู้ประกอบการขนส่งจัดให้มีการอบรมพนักงานขับรถอย่างน้อยปีละ 7 วัน เนื่องจากที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกได้เปิดอบรมให้กับพนักงานขับรถทุกเดือน แต่มีพนักงานขับรถเข้ามารับการอบรมน้อยมาก และส่วนใหญ่เป็นพนักงานขับรถขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ส่วนพนักงานขับรถของเอกชนรายอื่นๆแทบจะไม่ให้ความร่วมมือ นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกจะร่วมมือกับผู้ประกอบการขนส่งจัดตั้งสถาบันผลิตพนักงานขับรถมืออาชีพ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ภาคเอกชนจัดตั้งสถานตรวจสภาพรถโดยสารขนาดใหญ่ทั่วประเทศด้วย
4.มาตรการเสริมอื่นๆ การกำหนดอัตราความเร็วโดยกรณีที่วิ่งในเมืองใช้ความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. กรณีที่วิ่งระหว่างเมืองไม่เกิน 90กม./ชม. พนักงานขับรถต่อใบอนุญาตปีต่อปี และให้จัดซักซ้อมผู้โดยสารกรณีมีเหตุฉุกเฉินเป็นระยะๆ นอกจากนี้ให้เพิ่มบทลงโทษรุนแรงขึ้น ทั้งนี้เพื่อป้องปรามในประเด็นเกี่ยวกับความประมาทและละเลยของบริษัทเอกชนเจ้าของรถ และพนักงานขับรถ
นอกจากการเพิ่มเติมเงื่อนไขต่างๆเพื่อความปลอดภัยของการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเพิ่มขึ้นในอนาคตของกรมการขนส่งทางบก กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน(กพร.)กำลังเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการประกอบอาชีพ พ.ศ…. เพื่อกำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานสาขาที่เป็น “งานอันตราย” จะต้องผ่านการประเมินเพื่อรับรองความสามารถก่อนจึงจะมีสิทธิทำงานได้ ซึ่งกฎหมายลักษณะนี้มีการบังคับใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศที่พัฒนาแล้ว จุดมุ่งหมายของกฎหมายฉบับนี้ นอกจากเพื่อเป็นการเพิ่ม-พัฒนาฝีมือแรงงานแล้วยังปลูกฝังจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสาธารณะ โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในสาขาที่มีอันตราย เช่น คนขับรถสาธารณะ คนขับรถเครน ผู้วางระบบหรือเดินสายไฟฟ้าในอาคาร ช่างเชื่อม ช่างก่อสร้าง เป็นต้น
นอกจากนี้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะมีการกำหนดให้มีระบบ “สมุดบันทึกประสบการณ์” ซึ่งจะมีการจัดทำทะเบียนประวัติของพนักงานแต่ละคน เริ่มตั้งแต่ประวัติส่วนบุคคล ประวัติการศึกษา การดูงาน การฝึกอบรมและการพัฒนาฝีมือต่างๆ โดยสามารถร้องขอให้เจ้าหน้าที่ทำการบันทึกประวัติต่างๆ ลงในสมุดประจำตัวได้ ทั้งนี้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะทำการจัดเก็บรักษาเอกสารและหลักฐานต่างๆ ไว้เพื่อการตรวจสอบ ขณะที่ผู้มีสมุดประจำตัวสามารถแสดงสมุดเล่มนี้เพื่อประโยชน์ในการประกอบอาชีพการเปลี่ยนงาน การศึกษาต่อ ตลอดจนการรับรองความสามารถในสาขาอาชีพต่างๆ รวมทั้งงานอันตรายด้วย สมุดบันทึกเล่มนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกจ้างและผู้ที่กำลังเข้าสู่ตลาดแรงงานในการนำไปแสดงต่อนายจ้างเพื่อสมัครเข้าทำงาน ขณะที่นายจ้างก็พิจารณาคัดเลือกได้อย่างสะดวกเช่นกัน โดยพิจารณาจากสมุดบันทึกประจำตัวของแต่ละคนว่ามีประวัติ และประสบการณ์ในการทำงานอะไรมาบ้าง นอกจากลูกจ้างจะได้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมโดยการได้ค่าจ้างสูงขึ้นตามระดับความสามารถแล้ว ในส่วนของฝ่ายนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบกิจการก็จะได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมด้วยเช่นกัน กล่าวคือสถานประกอบกิจการที่จ้างงานผู้ได้รับหนังสือรับรองความสามารถตามจำนวนที่คณะกรรมการกำหนด เช่น มีการจ้างงานผู้ที่ผ่านการรับรองความสามารถถึงร้อยละ 80 ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การยกเว้นภาษี การขอรับเครื่องหมายรับรองที่แสดงว่าเป็นสถานประกอบกิจการที่มีการจ้างงานแรงงานที่มีคุณภาพ เป็นต้น ซึ่งสามารถนำไปเป็นจุดขาย หรือแข่งขันทางการค้าได้
ธุรกิจตรวจสภาพรถเอกชน…ปี’50เงินสะพัด 1,700 ล้านบาท
กรมการขนส่งทางบกออกกฎกระทรวงฉบับที่ 37 (พ.ศ. 2537) ภายใต้พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 อนุญาตให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสภาพรถนั้น ในปัจจุบันมีสถานตรวจสภาพรถเอกชนจำนวนกว่า 2,000 ราย โดยให้บริการตรวจสภาพรถยนต์ดังนี้คือ ตรวจสภาพเฉพาะรถยนต์ ตรวจสภาพเฉพาะรถจักยานยนต์ และตรวจสภาพทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ สำหรับกรณีตรวจสภาพรถยนต์ ขนาดของรถที่สามารถตรวจสภาพได้คือ รถที่มีน้ำหนักไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม และรถที่มีน้ำหนักเกิน 1,600 กิโลกรัม รถที่ต้องตรวจสภาพก่อนเสียภาษีประจำปี ซึ่งรถที่จดทะเบียนตามกฎหมายรถยนต์ และจดทะเบียนไว้ในจังหวัดที่ประกาศให้ต้องตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปี ดังนี้รถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน ตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไปนับแต่วันจดทะเบียนครั้งแรก เฉพาะรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน และรถบรรทุกส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไปนับแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก อัตราค่าตรวจสภาพรถนั้นขึ้นอยู่กับประเภทรถกล่าวคือ รถจักรยานยนต์คันละ 60 บาท รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กก. คันละ 150 บาท และรถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กก. คันละ 250 บาท
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์เม็ดเงินที่จะสะพัดในธุรกิจสถานตรวจสภาพรถเอกชนในปี 2550 ประมาณ 1,700 ล้านบาท โดยคำนวณจากจำนวนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จะต้องเข้ารับการตรวจสภาพรถก่อนการเสียภาษีประจำปี ซึ่งธุรกิจตรวจสภาพรถยนต์เอกชนนี้ยังมีอนาคตอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งจำนวนเม็ดเงินสะพัดอาจจะสูงกว่านี้ในกรณีที่ทางกรมการขนส่งทางบกอนุญาตให้ทางสถานตรวจสภาพรถยนต์เอกชนสามารถรับตรวจสภาพรถยนต์โดยสารบางประเภทเพิ่มเติม นอกจากนี้ในปัจจุบันนั้นการตรวจสภาพรถยนต์นั้นเข้าไปเป็นธุรกิจเสริมรายได้ให้กับอู่ซ่อมรถยนต์หรือศูนย์รถยนต์ รวมทั้งยังมีการผนวกเอาบริการต่างๆเข้าไว้ด้วยคือ ประกันภัยบุคคลที่3 ประกันภัยรถยนต์ บริการงานทะเบียนรถทุกประเภท เช่น การโอนย้าย ต่อภาษี เปลี่ยนสี-เครื่อง เป็นต้น ดังนั้นธุรกิจสถานตรวจสภาพรถยนต์เอกชนจึงได้รับความสนใจเข้ามาลงทุนอย่างมาก โดยปัจจุบันมีจำนวนสถานตรวจสภาพรถยนต์เอกชนทั่วประเทศกว่า 2,000 แห่ง ดังนั้นการแข่งขันของธุรกิจนี้นับว่าอยู่ในเกณฑ์สูง รวมทั้งผู้ประกอบการต้องรักษามาตรฐานการให้บริการตรวจสอบให้ได้ตามที่กรมการขนส่งกำหนด หากพบว่าไม่มีการตรวจสภาพรถจริง หรือไม่มีการตรวจอย่างจริงจัง กรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการยกเลิกสถานตรวจสภาพรถดังกล่าว และจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดทันที กล่าวคือ หากสถานตรวจสภาพรถเอกชน(ตรอ.)ใด ทุจริตหรือออกใบรับรองการตรวจสภาพรถโดยไม่ตรงตามความเป็นจริง มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 40,000 บาท และผู้ใดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หากทำคำรับรองเป็นเอกสารอันเป็นเท็จ มีความผิดอาญา โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้กรมการขนส่งทางบกโดยสำนักวิศวกรรมและความปลอดภัยยังจัดให้มีการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ผู้ควบคุมและเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถของสถานตรวจสภาพรถเอกชนอย่างต่อเนื่องทุกปี และที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2537 กรมการขนส่งทางบกได้จัดการฝึกอบรมให้แก่ผู้ควบคุมและเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถของสถานตรวจสภาพรถเอกชนไปแล้วจำนวนกว่า 80 รุ่น โดยมีผู้เข้ารับการอบรมทั้งสิ้นกว่า 5,000 คน แต่เนื่องจากสถานตรวจสภาพรถเอกชนบางแห่งมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโดยมีการรับเจ้าหน้าที่เข้าใหม่ประกอบกับทางราชการมีการปรับปรุงข้อกฎหมายและนโยบายในการดำเนินงานต่างๆ ของสถานตรวจสภาพรถเอกชน จึงยังต้องจัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการตรวจสภาพรถของสถานตรวจสภาพรถเอกชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของสถานตรวจสภาพรถเอกชนเข้ารับการฝึกอบรมมีการพัฒนาความรู้และมีความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบในการตรวจรับรองสภาพรถและสามารถปฏิบัติงานตรวจสภาพรถได้อย่างถูกต้องตาม กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์วิธีการที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด นอกจากนี้รายได้ของสถานตรวจสภาพรถเอกชนในแต่ละปียังผันแปรไปตามจำนวนรถยนต์และรถมอร์เตอร์ไซค์ที่มีอายุครบจะต้องตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปี กล่าวคือ ถ้าในปีใดที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์หรือรถมอร์เตอร์ไซค์ลดลงจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของสถานตรวจสภาพรถเอกชนในอีก 7 ปีข้างหน้าสำหรับการตรวจสภาพรถยนต์ และอีก 5 ปีข้างหน้าสำหรับการตรวจสภาพรถมอร์เตอร์ไซค์ อย่างไรก็ตามการที่รายได้จากการตรวจสภาพรถนั้นไม่ได้เป็นรายได้แหล่งเดียวของบรรดาผู้ที่ได้รับอนุญาตจัดตั้งสถานตรวจสภาพรถเอกชน ทำให้ปัญหานี้ไม่ได้เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบมากเท่ากับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น
บทสุรป
การตรวจสภาพรถให้มีความพร้อมในการใช้งานนับว่าเป็นมาตรการที่มีส่วนสำคัญอย่างมากในการป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งมาตรฐานของการตรวจสภาพรถที่เข้มงวดนั้นจะมีส่วนป้องกันและช่วยลดอุบัติเหตุในท้องถนนอย่างมาก ปัจจุบันการตรวจสภาพรถนั้นแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ กรมการขนส่งทางบกเป็นผู้ตรวจสภาพรถโดยสารและรถบรรทุก ซึ่งถือว่าเป็นรถสาธารณะ ส่วนภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนในการตรวจสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าในปี 2550 นี้มีเม็ดเงินสะพัด 1,700 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 ซึ่งเม็ดเงินนี้เป็นเพียงรายได้ส่วนเพิ่ม เนื่องจากลักษณะของธุรกิจตรวจสภาพรถเอกชนในปัจจุบันหลายแห่งอิงอยู่กับอู่ซ่อมรถหรือศูนย์บริการรถ รวมทั้งยังมีรายได้เสริมอีกหลายทาง โดยเฉพาะการจำหน่ายประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยบุคคลที่สาม รวมถึงบริการเกี่ยวกับงานทะเบียนรถทุกประเภท