เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบราว 1.33 ดอลลาร์/ยูโร ติดต่อกันอีกหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากตลาดเงินขาดปัจจัยสำคัญผลักดันค่าเงินดอลลาร์อย่างจริงจัง ส่งผลให้นักค้าเงินส่วนใหญ่จับตารายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นรายตัว แต่ก็ไม่ได้ให้ภาพหรือทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างชัดเจนนัก พลอยทำให้ตลาดเงินไม่มั่นใจในแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯตามไปด้วย ส่วนเงินเยนญี่ปุ่น มีค่าอ่อนตัวลง เมื่อนักเก็งกำไรหันกลับมาสนใจซื้อขายธุรกรรม carry trade กันอีกครั้ง หลังจากตลาดหุ้นฟื้นตัว สร้างความมั่นใจให้แก่นักเก็งกำไรในสัปดาห์นี้
เงินดอลลาร์ยังคงมีค่าอ่อนแอต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน เมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินยุโรปอื่นๆ เป็นผลมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ชัดเจน ทำให้นักค้าเงินตกอยู่ในภาวะสับสนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ทั้งนี้ เนื่องจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระหว่างสัปดาห์มักจะให้ภาพทั้งดีและไม่ดีควบคู่กันไป ส่งผลให้นักค้าเงินไม่แน่ใจในสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปัจจุบันและในภายหน้า ยกตัวอย่าง การประกาศดัชนีภาคอุตสาหกรรมการผลิตเดือนมีนาคม โดย National Association of Purchasing Management Chicago เมื่อวันที่ 30 เมษายน ปรากฏว่าตัวเลขน่าพอใจมาก ชี้ว่าภาคการผลิตสหรัฐฯ ยังเข้มแข็ง แต่พอสถาบัน Institute for Supply Management ประกาศดัชนีอุตสาหกรรมการผลิตเดือนมีนาคมออกมาบ้าง กลับสร้างความผิดหวังแก่นักเศรษฐศาสตร์อเมริกัน ประเด็นเช่นนี้ตอกย้ำให้เห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่เข้มแข็งอย่างแท้จริง ทำให้การสำรวจของสถาบันต่างๆ ในพื้นที่แตกต่างกันไป ปรากฏผลที่ขัดแย้งกัน ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจแก่นักลงทุนและตลาดเงินในที่สุด
นอกจากนี้ การวัดดัชนีภาคบริการในเดือนมีนาคมของสหรัฐฯ ก็อยู่ในเกณฑ์ซบเซา ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าและต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ รวมถึงการจ้างงานภาคเอกชนที่น้อยกว่าเป้าหมายทางการสหรัฐฯ ล้วนเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ในรอบสัปดาห์แรกของเดือนเมษายนยังคงเปราะบางและแทบไม่เคลื่อนไหวออกจากช่วงแคบ 1.33 ดอลลาร์/ยูโร และ 1.97 ดอลลาร์/ปอนด์
ทางด้านเงินเยนญี่ปุ่น มีค่าอ่อนแอลงต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน เนื่องจากนักเก็งกำไรหันกลับมาสนใจธุรกรรม carry trade กันอีกครั้ง โดยกู้ยืมสกุลเงินเยนที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ 0.50% และนำออกขายเพื่อซื้อสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูง เช่น เงินดอลลาร์ที่มีอัตราดอกเบี้ย 5.25% หรือเงินยูโร ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ย 3.75% ฯลฯ การกู้เงินเยนและนำออกขาย ได้มีผลให้เงินเยนมีค่าตกต่ำทันที เป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงที่ตลาดหุ้นสดใสจะเกื้อหนุนให้บรรยากาศการซื้อขายลงทุนและเก็งกำไรกลับมาคึกคักกันอีก และเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธุรกรรม carry trade ในตลาดเงินเฟื่องฟูด้วย
อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินตราสำคัญสกุลต่างๆ ณ วันที่ 2 เมษายน 2550 เทียบกับวันที่ 4 เมษายน 2550 (ตัวเลขในวงเล็บ) มีดังนี้
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากับ 1.3368 ดอลลาร์/ยูโร (1.3370 ดอลลาร์/ยูโร) 117.80 เยน (118.62 เยน) และ 1.9776 ดอลลาร์/ปอนด์ (1.9761 ดอลลาร์/ปอนด์)
ราคาทองคำในตลาดลอนดอน เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2550 เท่ากับ 664.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เทียบกับราคา 664.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2550