“กูร์เม่ เอเชีย 2007 แบงคอก” งานสุดยอดอาหารรสเลิศระดับโลก

นับเป็นการสร้างปรากฏการครั้งแรกที่คนไทยจะได้ลิ้มลองรสชาติอาหารจากมาสเตอร์เชฟระดับมิชลินสตาร์ของโลก ที่จะรวมตัวกันมารังสรรสุดยอดเมนูอาหารให้ชาวไทยได้ชิมกันในงาน “กูร์เม่ เอเชีย 2007 แบงคอก” ทั้งแนวอาหารฟิวชั่นฟู้ดส์ และการตกแต่งอาหารจานที่สวยงามราวกับงานศิลปะ พร้อมไวน์ระดับแนวหน้าของโลก ที่จะมาเสิร์ฟให้คนไทย และชาวต่างชาติได้ลิ้มลอง และดื่มด่ำกับรสชาติกันอย่างเต็มที่ในบรรยากาศที่สุดหรูของโรงแรมชั้นนำระดับ 5 ดาว ระหว่างวันที่ 22-26 พฤษภาคม 2550 และงานนี้จะทำให้ไทยเป็นประเทศที่เป็นศูนย์กลางทางด้านการกิน และอาหารครบวงจรที่สุดในโลก

ด้วยการรวมตัวกันระหว่างสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. จับมือ บริษัท โคโลญแมสเซ่ จำกัด และ บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด และ บริษัท ปีเตอร์ คนิปป์ โฮลดิงส์ จำกัด (สิงคโปร์) ด้วยงบประมาณกว่า 68 ล้านบาท ร่วมกันสร้างปรากฎการณ์ครั้งนี้

นายภูษิต ศศิธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในการจัดนิทรรศการ และมหกรรมเกี่ยวกับอาหารระดับประเทศ และนานาชาติ Thai Fex World of Food Asia เปิดเผยว่า การจัดงาน “กูร์เม่ เอเซีย 2007 แบงคอก” ในครั้งนี้ เป็นงานที่รวบรวมสุดยอด เชฟชื่อดังระดับ มิชลิน สตาร์ ที่ได้รางวัลมาแล้วมากมายและได้ผ่านการปรุงอาหารให้คนมีชื่อเสียงระดับโลกของราชวงศ์ต่างๆ ได้ลิ้มลองรสชาติฝีมือมาแล้ว ซึ่งก็เป็นโอกาสดีของคนไทย และชาวต่างชาติที่จะได้ลิ้มลองรสชาติระดับติดดาวกันที่เมืองไทยเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับนักผลิตไวน์ระดับโลกที่จะมาแนะนำเรื่องของไวน์ในแต่ละชนิดพร้อมร่วมดื่มด่ำรสชาติของไวน์ระดับโลกควบคู่ไปกับอาหารเลิศรสจากเชฟระดับโลก ภายในงานอีกด้วย

ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับการจัดงาน “กูร์เม่ เอเซีย 2007 แบงคอก” โดยร่วมกับโรงแรมระดับ 5 ดาวของเมืองไทย 4 โรงแรม คือ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ, โรงแรมดุสิตธานี, โรงแรมคอนราด, และโรงแรมโอเรียนเต็ล ดังนั้นการจัดงาน กูร์เม่ เอเซีย 2007 แบงคอก จะเป็นงานที่จัดควบคู่ไปกับงาน Thai Fex World of Food Asia ณ เมืองทองธานี ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีงานด้านอาหารที่ยิ่งใหญ่ และครบวงจรที่สุดในเอเชีย

สำหรับรายละเอียดของมาสเตอร์เชฟที่จะเข้าร่วมงานในครั้งนี้มีจำนวน 4 คน ซึ่งมาสเตอร์เชฟเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ในการทำอาหารให้กับโรงแรมชั้นนำ และบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้ลิ้มลองฝีมือกันมาแล้ว ทั้งยังได้รับรางวัลระดับโลกต่าง ๆ อีกมากมาย
นำโดย มาสเตอร์เชฟ เรเน่ ดิทท์ริช เชฟผู้ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของอาหารเป็นอันดับหนึ่ง จากภัตตาคาร Johri’s Talvo และ St. Moritz-Champfer ในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ เป็นผู้เชี่ยวชาญอาหารสไตล์ ยุโรปตอนกลางและยังมีดีกรีระดับ 2 มิชลิน สตาร์ อีกด้วย

ท่านต่อมาคือ มาสเตอร์เชฟ ซานติ ซานตามาเลีย เป็นมาสเตอร์เชฟคนแรกของ คาตาโลเนีย ที่ได้ 3 มิชลิน สตาร์ จาก มิชลินไกด์ เมื่อ 7 ปีที่แล้วและยังได้รับ 3 มิชลิน สตาร์ กับ 4 เรด ฟ๊อค (Red fork) สำหรับ Can Fabes ซึ่งเป็นรางวัลเกีรยติยศสูงสุด ในการนำเสนอของประเทศ สเปน ในปี 2005

มาสเตอร์เชฟ จีอาโกโม่ กอลลีน่า นอกจากจะเป็นเชฟให้กับ Dolce & Gabbana Gold Restaurant ที่ประเทศ อิตาลี แล้วยังเป็น ผู้ให้คำปรึกษากับ เชฟ และ ผู้ออกแบบอาหาร (Food designer) ให้กับ Bonduelle Italy, Air Chef Italy และ QB Catering Italy ในประเทศอิตาลี และนอกจากนี้เขายังทำงานให้กับ ภัตตาคารชื่อดังใน แอฟริกาใต้, ปารีส , นิวยอร์ค อีกด้วย

สำหรับมาสเตอร์เชฟแซม หล่ง เป็นผู้ที่เคยปรุงอาหารรับรองอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ อเมริกา นายบิล คลินตัล และ นายโก๊ช โจ๊ะ ตง นายกรัฐมนตรีของ สิงคโปร์ และนอกจากนี้เขายังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการแผนกอาหาร ของภัตตาคารชื่อดังในกลุ่ม “ตง ล๊อค” และเขายังมีรางวัล รางวัลชนะเลิศประเภทความสวยงามของอาหารในงาน Gourmet Summit Awards of Excellence for Asian Ethnic Chef of the Year ในปี 2001, 2002 และ 2004 ส่วนในปี 2005 นั้นเขายังได้รับรางวัล Chef of the Year ในงาน World Gourmet Summit Award of Excellence อีกด้วย

และสำหรับไวน์ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้นำโดยไวน์ Chateau Angelus และ Chateau de Beaucastel จากประเทศ ฝรั่งเศส , Leeuwin Estate จากประเทศ ออสเตรเลีย และ Pio Cesare จากประเทศ อิตาลี ซึ่งในงานนี้จะมีการร่วมพูดคุยข้อมูลเกี่ยวกับไวน์ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต ไปจนถึงการสร้างแบรนด์ และนอกจากนี้ผู้ผลิตไวน์ยังได้นำสุดยอดไวน์ที่บ่มตั้งแต่ปี 1980 นานลงไปจนถึง 1966 มาให้ได้ลิ้มรสกันอีกด้วย

นายภูษิต ยังกล่าวต่อไปว่า การจัดงานจะหมุนเวียนไปตามโรงแรมที่จะเป็นเจ้าภาพไปเรื่อยๆโดยจะมีการประเดิมพิธีเปิดอย่างเป็นทางการที่โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัน ก่อนในช่วงเย็นของวันที่ 22 พฤษภาคม ส่วนในวันที่ 23 พฤษภาคม นั้นจะเริ่มด้วยการโชว์สาธิตการทำอาหารในช่วงเช้าโดยมาสเตอร์เชฟ แซม หล่ง และพบกับเชฟ จีอาโกโม่ กอลลีน่า ในช่วงบ่าย ที่งาน Thai Fex ณ ห้อง จูปิเตอร์ 8 อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี เพื่อเรียกน้ำย่อยกันก่อนที่จะมีการจัดดินเนอร์มื้อค่ำที่โรงแรมโอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ในช่วงเย็น โดย มาสเตอร์เชฟ ซานติ ซานตามาเลีย ที่จะมาพร้อมกับอาหารสไตล์ คาตาแลน (Catalan) พร้อมดื่มด่ำกับไวน์ Chateau Angelus

ส่วนในวันที่ 24 พฤษภาคม นั้น มาสเตอร์เชฟ ซานติ ซานตามาเลีย จะมาสาธิตการทำอาหารที่งาน Thai Fex ณ ห้องจูปิเตอร์ 8 อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานีก่อนในช่วงเช้า และ พบกับ มาสเตอร์เชฟ เรเน่ ดิทท์ริช ที่จะมาสาธิตการทำอาหารในช่วงบ่าย ณ สถานที่เดียวกัน ก่อนที่จะมีการจัด ดินเนอร์มื้อค่ำที่โรงแรม คอนราด กรุงเทพฯ โดย มาสเตอร์เชฟ แซม หล่ง ที่จะมาทำอาหารสไตล์ โมเดิร์น ไชนีส (Modern Chinese) พร้อมกับดื่มด่ำไปกับ ไวน์ Leeuwin Estate และวันที่ 25 พฤษภาคม จะได้พบกับ มาสเตอร์เชฟที่จะมาสาธิการทำอาหารในช่วงเช้าที่ Thai Fex ณ ห้องจูปิเตอร์ 8 อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี

ก่อนที่จะเป็นหน้าที่ของมาสเตอร์เชฟ จีอาโกโม่ กอลลีน่า ที่จะโชว์ฝีมือในมื้อดินเนอร์ พร้อมกับอาหารสไตล์ มิลานิส อีฟเวอนิ่ง (Milanese Evening) พร้อมกับไวน์ Pio Cesare ที่โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ และ พบกับมาสเตอร์เชฟ เรเน่ ดิทท์ริช ที่จะมาแสดงฝีมือการทำอาหารในดินเนอร์สไตล์ อะ แพลเล็ท ออฟ โมเดิร์น ยูโรเปี้ยน (A Palette of Modern European) เคล้ากับไวน์ Chateau de Beaucastel ที่โรงแรม ดุสิต ธานี กรุงเทพฯ ในวันและเวลาเดียวกัน ก่อนที่จะปิดท้ายด้วย งาน กาล่า ดินเนอร์ สุดหรู โดยจะมีการประมูลไวน์เพื่อนำรายได้ไปมอบให้การกุศลอีกด้วย

ผู้สนใจที่จะเข้าร่วมงานสามารถจองบัตรในราคาเริ่มต้นที่ 3,700 บาท ไปจนถึง 20,000 บาท โดยจะเปิดการจองบัตรตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2550 เป็นต้นไป ซึ่งจะมี Call Center ที่จะให้ข้อมูลเรื่องบัตรที่เบอร์ 0-2640-8010 และเว็บไซต์ www.gourmetasia-bangkok.com โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของงานจะเจาะเข้าไปสู่กลุ่มผู้ชื่นชอบการดื่มไวน์และ กลุ่มบุคคลผู้มีชื่อเสียงในวงสังคม

นอกเหนือจากนี้จะมีการให้ความรู้เรื่องการดื่มไวน์ วิธีตรวจสอบไวน์ การเลือกรับประทานอาหารให้เข้ากับชนิดของไวน์ที่ดื่มอีกด้วย โดยการเข้ารับความรู้เรื่องไวน์จะอยู่ช่วง วันที่ 23 – 25 พฤษภาคม 2550 นี้ ณ 4 โรงแรมควบคู่กันไปกับอาหารชั้นเลิศด้วย