— รายได้ทั้งปีอยู่ที่ 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 10%
— EBITDA ทั้งปี (ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง) อยู่ที่ 414 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 9%
— รายรับทั้งปีก่อนหักภาษี (ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง) อยู่ที่ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 29%
— ผลกำไรทั้งปีที่สามารถจัดสรรให้ผู้ถือหุ้น (รวมค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง) อยู่ที่ 161 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 625%
— กำไรต่อหุ้น (EPS) พื้นฐานทั้งปีอยู่ที่ 1.87 เซนต์สหรัฐ หรือ 14.61 เซนต์ฮ่องกง เพิ่มขึ้น 640%
— เงินสดสำรองสุทธิอยู่ที่ 946 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ณ วันที่ 31 มี.ค. 2550)
เลอโนโว กรุ๊ป รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 และรอบปีสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2550 โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้น 9% ในไตรมาสสี่ แตะ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลมาจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์และทุกภูมิภาค
ในช่วงไตรมาสสี่ ยอดขายสินค้าพีซีทั่วโลกของเลอโนโวโตขึ้นมากกว่า 17% แซงหน้าอัตราเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ประมาณ 11% ขณะที่รายได้ก่อนหักภาษี ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง อยู่ที่ 66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรต่อหุ้นพื้นฐาน อยู่ที่ 0.70 เซนต์สหรัฐ หรือ 5.46 เซนต์ฮ่องกง อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 15.2% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในหนึ่งไตรมาสอันเป็นผลมาจากการซื้อธุรกิจ สำหรับทุนสำรองเงินสดสุทธิ ณ วันที่ 31 มี.ค. 2549 นั้น มีอยู่ทั้งสิ้น 946 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คณะกรรมการของเลอโนโวได้เสนอให้จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 2.80 เซนต์ฮ่องกง หรือ 0.36 เซนต์สหรัฐ
“นี่เป็นไตรมาสและปีงบการเงินที่แข็งแกร่งมากซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการต่างๆ” หยาง หยวนชิง ประธานกรรมการเลอโนโวกล่าว “นอกจากผลการดำเนินงานจะยืนยันว่าธุรกิจทั่วโลกของเรามีเสถียรภาพแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นด้วยว่า การมุ่งเน้นไปที่การซื้อขายธุรกิจและตลาดเกิดใหม่กำลังเริ่มที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีเยี่ยม เลอโนโวมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้และกำไรทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊คและเดสก์ท็อป และในทุกภูมิภาคที่เราดำเนินธุรกิจ โดยธุรกิจในอเมริกาเริ่มทำกำไรให้เรา”
วิลเลียม เจ อเมลิโอ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเลอโนโวกล่าวว่า “ผลการดำเนินธุรกิจของเราดีขึ้นมาก และเราต้องรักษาแรงขับเคลื่อนนี้ต่อไป รวมทั้งพยายามที่จะขยายธุรกิจให้เร็วและทำกำไรได้มากกว่าอุตสาหกรรม ด้วยการจัดหาพีซีที่ดีที่สุดป้อนให้กับตลาด”
มาตรการเชิงกลยุทธ์ที่เราเริ่มใช้เมื่อเร็วๆนี้ ได้แก่ รูปแบบการทำธุรกรรมทั่วโลก การปรับปรุงซัพพลายเชนของเราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การยกระดับความสามารถในการแข่งขันสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อป และการสร้างแบรนด์เลอโนโว จะพาเราเดินหน้าปิดช่องว่างระหว่างเรากับคู่แข่งได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เราจะยังคงผสมผสานความได้เปรียบด้านต้นทุนกับความสามารถในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด”
ภาพรวมตามกลุ่มภูมิศาสตร์
— ในช่วงไตรมาสสี่ เลอโนโว เกรทเทอร์ ไชน่า มีรายได้รวม 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13% เนื่องจากยอดขายพีซีที่เพิ่มขึ้นเหนือกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ผลการดำเนินงานของเลอโวในประเทศจีนได้รับปัจจัยหนุนจากประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้น การผสมผสานผลิตภัณฑ์ที่มีความยืดหยุ่นขึ้น และการพัฒนาหุ้นส่วนการขายเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงขอบเขตตลาดเฉพาะกลุ่ม ธุรกิจของบริษัทในเกรทเทอร์ไชน่าคิดเป็น 36% ของรายได้ทั้งหมดในไตรมาสนี้
— รายได้รวมของธุรกิจในทวีปอเมริกาอยู่ที่ 997 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 29% ของรายได้รวม โดยเป็นผลมาจากความสำเร็จเบื้องต้นของการใช้รูปแบบการขายพีซีในทวีปอเมริกาที่ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 9% ในไตรมาสนี้
— ยอดขายในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) เพิ่มขึ้น 14% ในไตรมาสสี่ มีรายได้รวม 731 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 21% ของรายได้ทั้งหมด ความต้องการของตลาดใน EMEA มีปัจจัยหนุนหลักๆจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในประเทศต่างๆที่เลอโนโวได้เริ่มต้นใช้รูปแบบการทำธุรกิจใหม่ ประกอบกับผู้บริโภครายย่อย กลุ่มธุรกิจขนาดย่อม และตลาดเกิดใหม่ที่โตขึ้นทั่วภูมิภาค
— ยอดขายสินค้าในเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมเกรทเทอร์ ไชน่า) เพิ่มขึ้น 18% ในไตรมาสสี่ ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 473 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 14% ของรายได้ทั้งหมด โดยมีปัจจัยหนุนจากธุรกิจที่ขยายตัวและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในภูมิภาค
ภาพรวมผลิตภัณฑ์
— รายได้หลักของเลอโนโวมาจากธุรกิจคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค โดยยอดขายโน้ตบุ๊คในไตรมาสสี่เพิ่มขึ้น 29% และรายได้รวมเพิ่มขึ้น 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 55% ของรายได้ทั้งหมดในไตรมาสนี้
— ในไตรมาสสี่ ยอดขายเดสก์ท็อปของเลอโนโวขยายตัว 11% เมื่อเทียบเป็นรายปี และรายได้รวมอยู่ที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 41% ของรายได้ทั้งหมด
— ยอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเลอโนโว ซึ่งดำเนินการในประเทศจีนเป็นหลัก เพิ่มขึ้น 12% ในไตรมาสสี่ โดยมีรายได้รวม 126 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4% ของรายได้ทั้งหมด
ผลประกอบการทั้งปี
ในปีงบการเงิน 2549/2550 เลอโนโวมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ยอดขายพีซีของเลอโนโวขยายตัว 12% เมื่อเทียบเป็นรายปี แซงหน้าอัตราเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 10% สำหรับรายรับก่อนหักภาษี (ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง) ขยายตัว 29% แตะ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรเบื้องต้นตลอดปีของบริษัทพุ่งขึ้นทำสถิติที่ 14.0%
ขณะที่ผลกำไรทั้งปีของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 161 ล้านดอลลาร์สหรัฐและกำไรพื้นฐานต่อหุ้นในปีงบการเงิน 2549/2550 อยู่ที่ 1.87 เซนต์สหรัฐ (หรือ 14.61 เซนต์ฮ่องกง) เทียบกับ 0.25 เซนต์สหรัฐ (หรือ 1.95 เซนต์ฮ่องกง) ในปีงบการเงิน 2549/2550 ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายด้านการปรับโครงสร้าง
เกี่ยวกับบริษัท เลอโนโว กรุ๊ป จำกัด
เลอโนโว (HKSE: 992) (ADR: LNVGY) ทุ่มเทให้กับการผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีโครงสร้างทางวิศวกรรมที่ดีที่สุดในโลก โมเดลธุรกิจของเลอโนโวเกิดจากการผสมผสานกันระหว่างการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ประสิทธิภาพในการดำเนินการ และการสร้างความพอใจให้กับลูกค้า เลอโนโว ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่เลอโนโว กรุ๊ปซื้อธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของไอบีเอ็ม ได้ทำการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการด้านเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ คุณภาพสูง ปลอดภัย และง่ายต่อการใช้งาน เลอโนโวมีศูนย์วิจัยหลักๆ ในเมืองยามาโตะ ประเทศญี่ปุ่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเสินเจิ้น ประเทศจีน และเมืองราเลห์ รัฐนอร์ธแคโรไลน่า ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลอโนโว กรุณาดูจากเว็บไซต์ www.lenovo.com