บลจ.กสิกรไทย โชว์ฝีมือบริหารกองทุนหุ้น กองทุนผสม กองทุนต่างประเทศ และกองทุนดัชนีตราสารหนี้ ประกาศจ่ายปันผล 4 กองทุน มูลค่ารวมกว่า 252 ล้านบาท 28 มิถุนายน ศกนี้
นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมการจ่ายเงินปันผลของกองทุนรวมทั้งสิ้น 4 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดรวงข้าวทุนวิภาค (RKBF) ในอัตรา 0.41 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดรวงข้าว 3 (RKF3) ในอัตรา 0.19 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) ในอัตรา 40.00 บาทต่อหน่วย โดย 3 กองทุนดังกล่าว เป็นการพิจารณาจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2549 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2550 ส่วนกองทุนเปิดเค โกลบอล อิควิตี้ (K-GLOBE) จะจ่ายปันผลเพิ่มอีกในอัตรา 0.58 บาทต่อหน่วย หลังจากที่จ่ายไปแล้ว 0.75 บาท สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2549 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2550
สำหรับกองทุนเปิดรวงข้าวทุนวิภาค เป็นกองทุนผสม ได้จ่ายปันผลไปแล้ว 13 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4.68 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดรวงข้าว 3 เป็นกองทุนตราสารทุน ได้จ่ายปันผลไปแล้ว 11 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4.68 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ เป็นกองทุนดัชนีตราสารหนี้ จ่ายปันผลไปแล้ว 2 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 33.00 บาทต่อหน่วย และ กองทุนเปิดเค โกลบอลอิควิตี้ เป็นกองทุนต่างประเทศ จ่ายไปผลไปแล้ว 1 ครั้ง เป็นเงิน 0.75 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ มูลค่าของการจ่ายปันผลในครั้งนี้คิดเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้นกว่า 252 ล้านบาท โดยบริษัทมีกำหนดจะทำการจ่ายเงินปันผลทั้ง 4 กองทุน ในวันที่ 28 มิถุนายน นี้ นอกจากนี้บลจ.กสิกรไทย ยังมีกองทุนเปิดเค หุ้นทุนปันผล หรือ K-VALUE (เดิมชื่อ กองทุนเปิดทุนวิวัฒน์) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารทุนที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลดีมาอย่างสม่ำเสมอ โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (27 ม.ค. 38) จ่ายปันผลไปแล้ว 9 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4.55 บาท นางวิวรรณกล่าวในที่สุด
บลจ. กสิกรไทย ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการลงทุนจากกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2535 ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย เป็นบริษัทในกลุ่ม KASIKORNBANKGROUP โดย ณ วันที่ 30 เมษายน 2550 บริษัทฯ มีทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ เท่ากับ 252,818.96 ล้านบาท
