ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จัดสัมมนาใหญ่ หัวข้อ “Alternative Energy, Alternative Investment” เสริมสร้างความเข้าใจต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือก มุมมองทิศทางการลงทุนและโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการในธุรกิจพลังงานทางเลือก ด้วยการสนับสนุนจากกระทรวงพลังงาน ในวันพุธที่ 1 ส.ค. 2550 เวลา 13.00 – 16.00 น. ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เล็งเห็นความสำคัญในการผลักดันให้ผู้ประกอบการธุรกิจพลังงานทางเลือก ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการ เติบโตสูง โดยเฉพาะเอทานอลและไบโอดีเซลให้สามารถพัฒนาศักยภาพของตนขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัว และ ความต้องการของพลังงานทางเลือก รวมไปถึงความสนใจของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“จากปัญหาราคาน้ำมันแพง เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ธุรกิจพลังงานทางเลือก เป็นธุรกิจที่มีอนาคตสดใส หากแต่ การเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ ต้องการเงินลงทุนเป็นจำนวนมากรวมถึง รูปแบบและความพร้อมของระบบบริหารจัดการ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จึงกำหนดจัดสัมมนา เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รู้จักและเข้าถึงแหล่งเงินทุนทั้งกองทุนร่วมลงทุนและตลาดทุน ซึ่งเป็นทางเลือกในการเพิ่ม เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะสนับสนุนธุรกิจให้เติบโต และเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตขึ้นมาได้” นายชนิตรกล่าว
การสัมมนาครั้งนี้ นับว่าเป็นการรวมตัวของตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่มีบทบาทสำคัญและเกี่ยวข้องกับการลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือก ที่จะมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้แก่ ดร.พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการ ผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือก ภายใต้วงเงินลงทุน 4,000 ล้านบาท คุณนิมิต วงศ์จริยกุล ผู้บังคับบัญชาสายงานบริการด้านวาณิชธนกิจ บล.โนมูระ พัฒนสิน ที่ปรึกษาทางการเงินที่มีประสบการณ์เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทธุรกิจพลังงานทางเลือกที่เตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ดร.อุกฤษฎ์ อัษฎาธร อุปนายกสมาคมการค้าผู้ผลิตเอธานอลไทย ตัวแทนจากสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย ที่จะมาร่วมเสนอมุมมอง ทิศทางการลงทุน ทางเลือกและโอกาสของธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ให้แก่ผู้ประกอบการ
ดร.พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “ถ้าผู้ประกอบการมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ก็จะช่วยเสริมความสามารถในการผลิตได้มากขึ้น รวมทั้ง ยังได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและความรู้จากบริษัทชั้นนำด้านพลังงาน อาทิ ปตท. ปตท.เคมิคอล บางจากปิโตรเลียม และไทยออยล์ อีกด้วย”
ทั้งนี้ บลจ.เอ็มเอฟซี จัดตั้งกองทุน เอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ ซึ่งเป็นกองทุนรวมสำหรับนักลงทุนสถาบัน ซึ่งเป็น กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในบริษัทที่ดำเนินกิจการด้านพลังงาน รวมถึง ธุรกิจที่มีส่วนในการสนับสนุนนโยบายของรัฐด้านพลังงาน ภายใต้วงเงินลงทุน 4,000 ล้านบาท ซึ่งได้ทำการเปิดตัวกองทุนนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยภายในงานสัมมนานี้ บลจ.เอ็มเอฟซี จะมาร่วมออกบูธ เพื่อให้ข้อมูลและคำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการที่สนใจขอรับการร่วมลงทุนอีกด้วย
ผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาฟรี สำรองที่นั่งได้ที่ S-E-T Call Center 0-2229-2222 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.mai.or.th