นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ทหารไทยจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากความมุ่งมั่นของธนาคารในการเป็นธนาคารชั้นนำผู้ให้บริการทางการเงินที่ครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายและซับซ้อนยิ่งขึ้น ธนาคารจึงเปิดตัว บัตรเครดิต ทีเอ็มบี วีซ่า แพลทินัม และปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินเชื่อบุคคลด้วยภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัย และง่ายแก่การจดจำ พร้อมบริการอนุมัติทันใจรู้ผลภายใน 1 วัน และสะดวกรวดเร็วด้วยการแจ้งผลการพิจารณาสินเชื่อเบื้องต้นผ่านระบบ SMS
นายสุภัคกล่าวว่า จุดเด่นของบัตรเครดิต ทีเอ็มบี วีซ่า แพลทินัม ก็คือ ลุกค้าผู้ถือบัตรจะได้รับคะแนนสะสม 2 เท่าในทุก 25 บาทที่ใช้จ่ายผ่านบัตรรวมถอนเงินสดล่วงหน้า และที่พิเศษกว่านั้น ก็คือทุกยอดการใช้จ่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต ปั๊มน้ำมัน และโรงพยาบาล จะได้รับคะแนนสะสมเป็น 3 เท่า จนถึงสิ้นปี 2551 นับเป็นการเร่งการสะสมคะแนนแบบง่ายๆ และรวดเร็ว ทำให้ลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิต ทีเอ็มบี วีซ่า แพลทินัม สามารถแลกของรางวัล แลกมูลค่าเงินสดคืนเข้าบัญชีบัตรเครดิต หรือแลกไมล์สะสมรอยัลออร์คิดพลัสของการบินไทย ได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย
นอกจากลูกค้าผู้ถือบัตร ทีเอ็มบี วีซ่า แพลทินัม จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี 2 ปีแรกแล้ว ลูกค้ายังได้รับบริการความช่วยเหลือฉุกเฉินระหว่างการเดินทางทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง (Emergency roadside Assistance) เช่น บริการรถยกฉุกเฉิน บริการซ่อมฉุกเฉิน ตลอดจนบริการติดต่อผู้ชำนาญการและพนักงานขับรถสำรองฉุกเฉินในเขตพื้นที่ที่ระบุไว้
เมื่อลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิต ทีเอ็มบี วีซ่า แพลทินัม ชำระค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ ก็จะได้รับความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุการเดินทาง ด้วยวงเงินสูงสุด 200,000 เหรียญสหรัฐฯ โดยสิทธิพิเศษนี้ครอบคลุมทั้งเจ้าของบัตร คู่สมรสและบุตรที่อายุไม่เกิน 23 ปี และยังมีค่าชดเชยในวงเงินสุงสุดถึง 500 เหรียญสหรัฐฯ ในกรณีที่กระเป๋าเดินทางหรือเครื่องบินล่าช้า เที่ยวบินถูกยกเลิก และมีเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ต้องเดินทางกลับก่อนกำหนดอีกด้วย
บัตร ทีเอ็มบี วีซ่า แพลทินัม ยังมีบริการ Personal Lifestyle Assistance ซึ่งเป็นบริการเลขาส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง โดยบริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร รวมทั้งบริการอื่นๆ ที่เพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน รวมทั้งยังมีบิการ TMB Platinum Call Center หมายเลข 02 990 6099 ที่ลูกค้าผู้ถือบัตรสามารถใช้บริการทางโทรศัพท์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายที่จะออกบัตรเครดิต ทีเอ็มบี วีซ่า แพลทินัม ให้แก่ลูกค้าผู้ถือบัตรเดิม และลูกค้ารายใหม่ได้ 120,000 ใบ ภายในสิ้นปี 2551 โดยในปัจจุบัน ธนาคารได้มีการออกบัตรเครดิตรวม 170,000 บัตร
ในโอกาสเดียวกันนี้ นายสุภัค กล่าวว่า ธนาคารได้ปรับภาพลักษณ์สินเชื่อบุคคลใหม่ ให้มีภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัย สดใส ง่ายแก่การจดจำและเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น โดยมีความหลากหลายในรูปแบบของวงเงิน และการใช้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ อันประกอบด้วย 3 ผลิตภัณฑ์ คือ
– สินเชื่อ TMB Cash 2 Go ซึ่งเป็นสินเชื่อบุคคล ประเภทวงเงินกู้ แบบมีกำหนดระยะเวลาผ่อนชำระ ซึ่งให้วงเงิน 5 เท่าของรายได้ หรือสูงสุดถึง 1 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาผ่อนชำระให้เลือกตั้งแต่ 12-60 เดือน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 20% หรือสูงสุดไม่เกิน 22% ต่อปี และได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยใน 2 เดือนแรก
– สินเชื่อ TMB Ready Cash ซึ่งเป็นสินเชื่อบุคคล ประเภทวงเงินเบิกเกินบัญชีแบบหมุนเวียน ซึ่งให้วงเงิน 3 เท่าของรายได้ หรือสูงสุดถึง 500,000 บาท ลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระขั้นต่ำ 5% หรืออย่างน้อย 1,000 บาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยระหว่าง 20-24% ต่อไป และมีโปรแกรมส่งเสริมการขายโดยคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 5.99% ใน 2 เดือนแรก
– สินเชื่อ TMB Balance Transfer ซึ่งเป็นสินเชื่อบุคคล ที่รับโอนภาระหนี้สินเชื่อบุคคลหรือบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินอื่น โดยลูกค้าสามารถเลือกระหว่างวงเงินกู้ หรือวงเงินเบิกเกินบัญชีก็ได้ ธนาคารให้วงเงินสูงสุดถึง 500,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระวงเงินกู้ตั้งแต่ 12-60 เดือน และสำหรับวงเงินเบิกเกินบัญชี สามารถเลือกเลือกผ่อนชำระขั้นต่ำ 4% หรือ 200 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยระหว่าง 15-20% โดยธนาคารให้สิทธิพิเศษอัตราดอกเบี้ย 6 เดือนแรก เพียง 9.99% ต่อปี เท่านั้น
พร้อมกันนี้ ธนาคารยังมุ่งมั่นในการรปรับปรุงบริการให้รวดเร็วทันใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที ด้วยบริการอนุมัติทันใจรู้ผลใน 1 วัน สำหรับสินเชื่อบุคคล ทีเอ็มบี โดยขณะนี้เริ่มให้บริการที่ 32 สาขาในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในช่วงแรกและจะขยายในเวลาต่อไป รวมทั้งบริการแจ้งผลการพิจารณาสินเชื่อเบื้องต้นแก่ลูกค้าผ่านระบบ SMS
นายสุภัคเปิดเผยว่า สินเชื่อบุคคลทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์นี้ ธนาคารจะบุกตลาดโดยใช้สาขาของธนาคารทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดรวมทั้งสิ้น 473 สาขา เป็นช่องทางการขาย ตลอดจนทีม Direct Sales ที่จะมีการออกบูธจัดกิจกรรม Road show ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายการขยายฐานลูกค้าในครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้ฐานลูกค้าประมาณ 25,000 คน โดยวงเงินสินเชื่อรวมไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท