AFET ปรับโฉมสัญญายางใหม่ เพื่อกระตุ้นปริมาณการซื้อขายครึ่งปีหลัง

หลังจากที่สัญญาล่วงหน้ายางแผ่นรมควันชั้น 3 (AFET: RSS3) ได้เปิดทำการซื้อขายมาเป็นระยะเวลากว่า 3 ปีแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา AFET ได้ทำการปรับปรุงรายละเอียด (Minor Change) ของสัญญา เพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อการซื้อขาย จนกระทั่งปัจจุบัน AFET ได้ศึกษารวบรวมเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ ตลอดจนความต้องการของนักลงทุนและผู้ประกอบการเพื่อทำการปรับโฉมสัญญาใหม่ให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเปิดกว้างให้กับผู้ซื้อขายยางในต่างประเทศสามารถเข้ามาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อลดความเสี่ยงได้คล่องตัวมากขึ้น

จุดเด่นของการปรับโฉมในครั้งนี้มี 2 ประการหลักๆ คือ มาตรฐานคุณภาพของยางแผ่นรมควันชั้น 3 จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตยางล้อรถยนต์รายใหญ่ของโลกโดยผู้ซื้อสามารถกำหนดมาตรฐานที่ต้องการได้ ประการที่สองคือการเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนด้วยการเพิ่มอำนาจการถือครองสัญญาที่มากขึ้นถึง 3,000 สัญญาต่อราย

AFET เชื่อมั่นว่า ผลจากการปรับโฉมในครั้งนี้ นอกจากจะเพิ่มความสะดวกแก่ผู้ได้ที่เข้าซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3 ใน AFET อยู่แล้ว ยังจะช่วยจูงใจผู้ประกอบการยางรายใหม่รวมทั้งนักลงทุน ให้เข้ามาซื้อขายล่วงหน้าผ่าน AFET และยังเป็นแรงผลักดันให้ปริมาณการซื้อขายล่วงหน้ายางแผ่นรมควันชั้น 3 ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 50 นี้มีความคึกคักเพิ่มมากขึ้น สร้างความมั่นใจต่อบรรดานักลงทุนให้เข้ามาซื้อขายใน AFET เพื่อทำกำไรอีกช่องทางหนึ่ง

ทั้งนี้ การซื้อขายสัญญา RSS3 ตามหลักการใหม่นี้ ในเดือนส่งมอบ ก.พ. 51 และมี.ค. 51 จะเริ่มซื้อขายในวันที่ 27 ก.ค. 50

หลักการในการปรับปรุงข้อกำหนดการซื้อขายและเงื่อนไขการส่งมอบรับมอบสินค้ายางแผ่นรมควันชั้น 3
วัตถุประสงค์ :

– เพื่อให้มีความชัดเจนในด้านคุณภาพสินค้ามากขึ้น
– เพื่อให้กระบวนการส่งมอบรับมอบสอดคล้องกับวิธีปฏิบัติทางการค้ามากขึ้น
– เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับ Hedger และ Speculator มากขึ้น
– เพื่อให้มีผู้สนใจเข้ามาซื้อขายล่วงหน้ามากขึ้น

หัวข้อในการปรับปรุงข้อกำหนดใหม่

1. ชนิดและคุณภาพสินค้าที่ส่งมอบรับมอบ

หลักการเดิม : คุณภาพสินค้าส่งมอบตามมาตรฐาน Green Book และผลิตหรือส่งมอบโดยโรงงานที่ตลาดประกาศ

หลักการใหม่ : คุณภาพสินค้าส่งมอบคุณภาพสินค้าส่งมอบตามมาตรฐาน Green Book และ จะต้องเป็นคุณภาพตามมาตรฐานของบริษัทผู้ผลิตยางล้อรถยนต์รายใหญ่ที่ ผู้ซื้อกำหนด โดยสินค้าที่ส่งมอบจะต้องถูกผลิตโดยโรงงานที่ตลาดประกาศและจะต้องมีการรับรองคุณภาพสินค้า เป็นระยะเวลา 60 วัน

2. จำนวนการถือครองข้อตกลงสูงสุด (Position Limit)

หลักการเดิม : ข้อจำกัดสำหรับนักลงทุนประเภทนักเก็งกำไร (Speculative Limit)
• เดือนส่งมอบ ไม่เกิน 100 ข้อตกลง
• รวมทุกเดือน ไม่เกิน 500 ข้อตกลง

ข้อจำกัดสำหรับนักลงทุนประเภทผู้ประกันความเสี่ยง (Hedging Limit)
• เดือนส่งมอบ ไม่เกิน 100 ข้อตกลง
• รวมทุกเดือน ไม่เกิน จำนวนตามที่ตลาดอนุมัติ

หลักการใหม่ : ข้อจำกัดสำหรับนักลงทุนประเภทนักเก็งกำไร (Speculative Limit)
• หนึ่งเดือนก่อนหน้าเดือนส่งมอบสินค้าไม่เกิน 200 ข้อตกลง
• สองเดือนก่อนหน้าเดือนส่งมอบสินค้าไม่เกิน 600 ข้อตกลง
• รวมทุกเดือน ไม่เกิน 3,000 ข้อตกลง

ข้อจำกัดสำหรับนักลงทุนประเภทผู้ประกันความเสี่ยง (Hedging Limit)
• เดือนส่งมอบ ไม่เกิน 500 ข้อตกลง
• รวมทุกเดือน ไม่เกินจำนวนตามที่ตลาดอนุมัติ

3. เงื่อนไขการส่งมอบและรับมอบ

หลักการเดิม : ส่งมอบสินค้า ณ จุดส่งมอบตามเงื่อนไข FOB ที่ท่าเรือ กรุงเทพ หรือแหลมฉบัง โดยผู้ซื้อเป็นผู้กำหนด

หลักการใหม่ : ส่งมอบสินค้า ณ จุดส่งมอบตามเงื่อนไข FOB ที่ท่าเรือ กรุงเทพ หรือแหลมฉบัง หรือ คลังสินค้าของผู้ซื้อในเขตกรุงเทพมหานคร

4. การชำระราคาสินค้า

หลักการเดิม : สมาชิกผู้ซื้อผู้ขายจะต้องทำการแลกเปลี่ยนเอกสารส่งมอบรับมอบรวมถึงส่งมอบเช็คที่จะต้องใช้ชำระราคาสินค้าทั้งหมด

หลักการใหม่ : สมาชิกผู้ซื้อสามารถใช้เงินหลักประกันที่วางไว้กับตลาดมาชำระราคาได้

5. วันเริ่มซื้อขาย

เริ่มซื้อขายสัญญา RSS3 ตามหลักการใหม่นี้ ในเดือนส่งมอบ ก.พ. 51 และมี.ค. 51 โดยเริ่มซื้อขายในวันที่ 27 ก.ค. 50 นี้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คุณดารณี 081-376-0677 บริษัท สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ โทร. 02-6532717-9