“ในวันที่ทรายขนเข้าสู่พื้นที่บ้าน เป็นการเริ่มต้นในการสร้างรากฐานของความรัก ฉะนั้นความรักได้เกิดขึ้นแล้วที่นี่ และคงจะเบ่งบานต่อไป”
หลาย ๆ ครอบครัวในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัย ซึ่งถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ตัวอย่างเช่น หมู่บ้านสันคะยอม ในอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ ชาวบ้านแม้จะมีความขยันขันแข็งในการประกอบอาชีพ แต่ก็มีรายได้แค่พอมีพอกิน มีเหลือเก็บไม่มากนัก
วันนี้สายรุ้งแห่งความหวังทอแสงเรืองรอง และส่งผ่านโอกาสดี ๆ ในการมีบ้านหลังใหม่ พาดผ่าน ไปยังชาวหมู่บ้านสันคะยอม …โดยมีชาวบ้านจำนวน 9 ครอบครัว ได้รับมอบบ้านหลังใหม่ตาม “โครงการ จีเอสเค เติมน้ำใจให้บ้านสันคะยอม” โดย บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “จีเอสเค” ประสานงานร่วมกับมูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ (ประเทศไทย) หรือ Habitat for Humanity (Thailand) และอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ จีเอสเค ให้การสนับสนุนกองทุนสำหรับปลูกสร้างบ้านใหม่ที่เรียบง่าย พอเพียง โดยมีเจ้าของบ้าน ชุมชนใกล้เคียง เจ้าหน้าที่เทศบาล และพนักงาน ชมรม จีเอสเค คนใจดี ช่วยกันคนละไม้คนละมือร่วมกันปลูกสร้างบ้านจนสำเร็จ และทำให้กว่า 30 ชีวิตจาก 9 ครอบครัวรอดพ้นจากปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย
การดำเนินการช่วยเหลือตามแนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียง” นี้ ยังทำให้เงินกองทุนจาก จีเอสเค สามารถนำไปหมุนเวียนช่วยชาวบ้านในชุมชนอื่น ๆ ที่ยังขัดสนเรื่องที่อยู่อาศัยต่อไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย โดยมูลนิธิที่อยู่อาศัยฯ จะนำเงินที่เจ้าของบ้านผ่อนชำระคืนในระยะเวลาที่เหมาะสมกับรายได้ที่มี นำไปช่วยเหลือชาวบ้าน ตลอดจนส่งเสริมงานด้านสุขอนามัย ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ต่อไป
นางกรองทอง ไมตรีเวช ผู้อำนวยการฝ่ายอำนวยการ ของ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จีเอสเค เชื่อว่าการจะพัฒนาประเทศให้ดีขึ้นได้ต้องเริ่มจากชุมชนเข้มแข็งก่อน และชุมชนจะเข้มแข็งได้ก็ต้องมีบ้านเป็นฐานราก จึงหวังว่าเงินกองทุนและบ้านที่ได้มอบให้นี้จะมีส่วนนำไปช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาเรื่องบ้านทั่วประเทศ และสร้างความสุขให้กับผู้อยู่อาศัยในบ้านทุกคน”
โดยพิธีมอบบ้านที่ หมู่บ้านสันคะยอม จังหวัดเชียงใหม่ ในครั้งนี้มีชาวบ้านในหมู่บ้านพากันมาร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าของบ้านที่ได้รับมอบบ้านหลังใหม่จาก จีเอสเค และมูลนิธิที่อยู่อาศัยฯ รวมทั้งตัวแทนจากส่วนต่างๆ มาร่วมเป็นสักขีพยานถึงการรวมพลังขององค์กรเอกชน มูลนิธิ ภาครัฐ และชาวบ้านเพื่อขับเคลื่อนชุมชนให้เกิดความรักสามัคคีและเอื้ออาทรต่อกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในสังคมปัจจุบัน การร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยนำไปสู่การพัฒนาชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป
“ในฐานะผู้นำหมู่บ้านและชุมชน ขอขอบคุณที่ได้มองเห็นความสำคัญของชาวบ้านและชุมชนที่ยากจน และหวังว่าโครงการฯ จะคงอยู่และช่วยเหลือคนที่ยากไร้ในประเทศไทยนี้ต่อไป” นายประมวล อาษากิจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลสันทรายน้อยกล่าว
นางศิราณี ครินชัย มีอาชีพเป็นช่างเย็บผ้า เปิดใจพร้อมน้ำตา ว่า “อยู่กัน 4 คน แต่ก่อนอยู่กับพ่อแม่ต้องอยู่กันหลายคนพี่น้องแออัดมาก พื้นที่บ้านก็ต่ำ พอฝนตกน้ำก็ท่วม ต้องคอยขนของหนีน้ำ ดีใจมากค่ะที่มีบ้านเป็นของตัวเอง รู้สึกตื้นตันใจมาก (ร้องไห้) ตอนแรกคิดว่าไม่มีโอกาสแบบนี้แน่ๆ ดีใจมากที่มีคนมาช่วย ทำให้มีโอกาสและจุดประกายให้ฮึดสู้อีกครั้ง”
นางบุษบา ยศ อาชีพรับจ้างก่อสร้าง เผยว่า “เหมือนได้ชีวิตใหม่ ก่อนนี้สมาชิกครอบครัวต้องแยกกันไปอาศัยอยู่กับบ้านญาติ ๆ เพราะบ้านเก่าโดนปลวกกินทั้งหลังอยู่ไม่ได้ ไม่มีที่นอน ดีใจที่สุดที่วันนี้ครอบครัวได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง ลูกดีใจมากบอกมีบ้านของเราเองแล้ว พาเพื่อนมาเที่ยวที่บ้านได้แล้ว นี่ก็ช้อนลูกปลามาเลี้ยง เลี้ยงไก่ และปลูกพืชสวนครัว ทำตามนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง”
ส่วนป้าอุไร คำฟู วัย 53 ปีอาชีพรับจ้างค้าขายในตลาด ผู้ได้บ้านหลังใหม่เช่นกัน เล่าว่า “สมาชิกครอบครัวดีใจมาก ตอนนี้เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่กัน ทุกคนเห่อบ้านหลังนี้ที่ทำให้สบายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก บ้านไม้หลังเดิมมีอายุตั้ง 56 ปีแล้วเก่า ผุ จนแทบทรงตัวไม่ไหว ดีใจที่สุดที่ได้รับความช่วยเหลือนี้ ทำให้เรามีความสุขในทุกวันที่ได้อยู่บ้าน ขอบคุณมากๆ ค่ะ”
นางพรสวรรค์ มอญเพชร ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างปั้นตุ๊กตาเซรามิค เล่าถึงความลำบากก่อนฟ้าใสในวันนี้ว่า “จะไม่ลืมความเมตตาครั้งนี้ไปจนตลอดชีวิต เคยซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ แต่ถูกโกงจนพี่ สามี และลูกต้องกลับมาขออาศัยอยู่กับพ่อแม่ในบ้านที่ไม่ได้ใหญ่อะไร ต้องเบียดกันอยู่ เราไม่มีเงินออมเหลือ ลูกก็ยังเล็ก ถ้าไม่มีแรงช่วยนี้คงไม่มีทางมีบ้านของตัวเองแน่นอนค่ะ (น้ำตาคลอ)”
ถึงวันนี้ โครงการ “จีเอสเค เติมน้ำใจให้บ้านสันคะยอม” ได้มอบบ้านหลังใหม่ 9 หลังแรกให้ผู้ขัดสนด้านที่อยู่อาศัยไปแล้ว แต่กองทุนซึ่งสนับสนุนผ่านมูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ ประเทศไทย ยังสามารถนำไปเป็นทุนหมุนเวียนในการสร้างบ้านให้กับผู้ขาดแคลนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทยต่อไป เพื่อให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยอย่างพอเพียงและเหมาะสม รวมทั้งขจัดบ้านที่ไม่น่าอยู่และสภาพการไร้ที่อยู่อาศัยให้หมดไปจากชุมชน
…บ้านสันคะยอม เป็นเพียงหนึ่งในอีกนับร้อยพันหมู่บ้านทั่วประเทศไทย ที่ประสบปัญหาชาวบ้านขัดสนที่อยู่อาศัย ซึ่งองค์กรหรือบุคคลในสังคมสามารถมีส่วนหยิบยื่นโอกาสเข้าช่วยเหลือ ด้วยการเข้าร่วมกับมูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ (ประเทศไทย) ที่เป็นองค์กรสาธารณกุศลไม่แสวงผลกำไร โดยมุ่งพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยในชุมชน ด้วยการทำงานร่วมกับทุกคนบนพื้นฐานของความรักและความเมตตา เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
…ดังเช่น การช่วยเหลือจาก จีเอสเค สู่ ชุมชนสันคะยอม และนับว่าเป็นแบบอย่างในการทำความดีตามรอยพระยุคลบาท
