บริษัท เทรนด์ ไมโคร อินคอร์ปอเรท (ชื่อในตลาดหุ้นโตเกียว: 4704) ผู้นำด้านซอฟต์แวร์ และการบริการด้านการป้องกันไวรัสบนเครือข่าย และระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต เปิดเผยผลการศึกษาเกี่ยวกับมุมมองผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ในองค์กรที่มีต่อภัยคุกคามความปลอดภัยโดยเปรียบเทียบกับผลการศึกษาที่คล้ายกันนี้ ซึ่งจัดทำไปเมื่อปี 2548 การศึกษาครั้งนี้ได้ทำการสอบถามผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในองค์กรจำนวน 1,200 คนจากประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมนี และญี่ปุ่น และได้เปรียบเทียบข้อมูลที่ได้กับการวิเคราะห์จาก Trend Micro TrendLabsSM ศูนย์วิจัยภัยคุกคามส่วนกลางของบริษัท เทรนด์ ไมโครและผลการศึกษาที่คล้ายกันของปี 2548
ทั้งนี้จากการวิจัยข้อมูลของบริษัท เทรนด์ ไมโคร และผลสำรวจต่างเห็นตรงกันว่าสแปมมีจำนวนเพิ่มขึ้นในระหว่างปี 2548 และ 2550 ขณะที่ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ในองค์กรของสหรัฐมีจำนวนไม่มากนักที่แจ้งว่าได้รับสแปม ส่วนผู้ตอบแบบสอบถามในอังกฤษโดยทั่วไปมองว่าภัยคุกคามความปลอดภัยของปี 2550 ร้ายแรงน้อยกว่าปี 2548 อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสอบถามชาวเยอรมันกลับเห็นตรงข้าม โดยเห็นว่าภัยคุกคามในปี 2550 ทั้งหมดร้ายแรงมากกว่าปี 2548
จะเห็นได้ว่า งานวิจัยด้านภัยคุกคามของเทรนด์แล็บส์มีความน่าสนใจหลายอย่าง โดยภัยคุกคามทางดิจิทัล มีจำนวนเพิ่มขึ้น 163% ระหว่างเดือนธันวาคม 2548 และเดือนพฤศจิกายน 2549 โดยเฉพาะภัยคุกคามบนเว็บที่เติบโตสูงขึ้นราว 540% ตั้งแต่เดือนมกราคม 2548 ถึงเดือนมกราคม 2550 ผู้ใช้คอมพิวเตอร์อาจแสดงให้เห็นว่า ไม่ได้แสดงความกังวลถึงความร้ายแรงของภัยคุกคาม เนื่องจากธรรมชาติของภัยคุกคามรูปแบบใหม่จำนวนมากไม่สามารถมอง
เห็นได้ และดำเนินการอย่างเงียบๆ
ทั้งนี้ ไวรัส สแปม และสปายแวร์ ยังคงเป็นภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องที่ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วโลกต้องตระหนักให้มากที่สุด ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีความตระหนักเรื่องสปายแวร์เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 79% ในปี 2548 เพิ่มขึ้นเป็น 93% ในปี 2550
และแม้ว่า 4 ใน 10 ของผู้ตอบแบบสอบถามจากทุกประเทศจะระบุว่า พวกเขาได้รับสแปมมากขึ้นกว่าในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับผลการศึกษาในปี 2548 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามในสหรัฐรายงานผลรวมของสแปมที่ได้รับลดลง (84% ในปี 2548 เมื่อเทียบกับ 72% ในปี 2550)
ในขณะที่การติดตามสแปมของเทรนด์แล็บส์พบว่าสแปมในภาษาฝรั่งเศสและเยอรมันมีจำนวนสูงสุด ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา (ระหว่างเดือนพฤษภาคมและเดือนสิงหาคม 2549) ในปริมาณที่มหาศาล โดยจำนวนของ สแปมผันผวนไปมาระหว่าง 1 ล้านและ 6 ฉบับต่อเดือน หลังจากนั้นก็มีแนวโน้มลดลงไปอยู่ที่ระหว่าง 7 พัน และ 1 หมื่นข้อความต่อเดือน
ตั้งแต่เดือนกันยายน 2549 จนถึงเดือนธันวาคม 2549 ปริมาณสแปมภาษาญี่ปุ่นมีปริมาณสูงสุดเกือบ 1 ล้านฉบับ แต่ขณะนี้ลดลงเหลือจำนวนเป็นโดยเฉลี่ย 3.5 แสนฉบับต่อเดือน ขณะที่สแปมภาษาอังกฤษมีจำนวนสูงสุดในเดือนสิงหาคม 2549 คือประมาณ 39 ล้านฉบับ และขณะนี้ลดลงมาอยู่ที่โดยเฉลี่ย 2 ล้านฉบับต่อเดือน
การขึ้นลงของปริมาณสแปมที่ติดตามโดยเทรนด์แล็บส์นั้น มีทั้งในส่วนของสแปมรูป และยังรวมถึงการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น สิ่งที่สามารถระบุและปิดกั้นสแปมรูปได้ ผลการสำรวจเกี่ยวกับสแปมของบริษัท เทรนด์ ไมโคร และผู้ตอบแบบสอบถามต่างก็พบว่าจำนวนของสปายแวร์ลดลงทั้งในสหรัฐฯ (41% ในปี 2548 เทียบกับ 35% ในปี 2550) และเยอรมนี (23% ในปี 2548 เทียบกับ 19% ในปี 2550) ขณะที่อังกฤษลดลงอย่างมาก (42% ในปี 2548 เทียบกับ 26% ในปี 2550) ในทำนองเดียวกับสแปม มีความเป็นไปได้ที่การลดลงของสปายแวร์ และเปลี่ยนเป็นการโจมตีที่มีความซับซ้อน และเชี่ยวชาญเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้มีผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนไม่มากนักที่จะสามารถระบุโค้ดร้ายใหม่ที่มีการติดตั้งอย่างเงียบๆ ในลักษณะนี้ได้
ผลการศึกษาที่น่าสนใจอื่นๆ ได้แก่
• ผู้ใช้งานระดับล่างชาวญี่ปุ่น ส่วนใหญ่พึ่งพาแผนกไอที โดยในสามเดือนก่อนหน้าที่จะมีการศึกษา พบว่า 44% อาศัยความช่วยเหลือแผนกไอทีของพวกเขา ตรงกันข้ามกับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ ที่พึ่งพาแผนกไอทีของพวกเขาเพื่อขอคำแนะนำและความช่วยเหลือน้อยมาก โดยมีการติดต่อขอรับความช่วยเหลือเพียง 24% ในช่วงเวลาเดียวกัน
• ผู้ตอบแบบสอบถามในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่มั่นใจในระบบป้องกันภัยที่มีอยู่ในคอมพิวเตอร์องค์กร โดยราว 40% แจ้งว่าคอมพิวเตอร์ในที่ทำงานของพวกเขาได้รับการป้องกันสแปม สปายแวร์ และฟิชชิง ดีกว่าคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ส่งผลให้พวกเขาดูเหมือนจะคลิกลิงค์หรือเว็บไซต์ที่น่าสงสัยโดยใช้คอมพิวเตอร์ของ ที่ทำงาน (17%) เมื่อเทียบกับผู้ตอบแบบสอบถามในเยอรมนี (8 %)
• อย่างไรก็ตามผู้ตอบแบบสอบถามในสหรัฐฯยังให้ความสำคัญกับภัยคุกคามความปลอดภัยอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับผู้ตอบแบบสอบถามจากอังกฤษ ตัวอย่างเช่น 60% ของผู้ตอบแบบสอบถามในสหรัฐฯ ระบุว่าพวกเขามองว่าสปายแวร์เป็นภัยคุกคามร้ายแรง ขณะที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในอังกฤษเพียง 48% เท่านั้นที่เชื่อเช่นนั้น ในทำนองเดียวกัน ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ ตระหนักถึงอันตรายของสแปม ขณะที่ในอังกฤษมีเพียง 27% เท่านั้นที่ยอมรับว่าสิ่งนี้เป็นภัยคุกคามร้ายแรง
• 48% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดที่ตกเป็นเหยื่อของสปายแวร์หรือฟิชชิง เชื่อว่าแผนกไอทีของพวกเขาไม่ได้ป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น
• การขโมยข้อมูลเฉพาะตัว การสูญเสียข้อมูลส่วนตัว และการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เป็นสิ่งกังวลสูงสุดที่เกิดจากฟิชชิง ฟาร์มมิง และสปายแวร์ ขณะที่ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ หรือความสามารถในการผลิตที่สูญเสียไป เป็นความกังวลสูงสุดที่มีที่มาจากสาเหตุมาจากภัยร้ายสแปม ไวรัส และโทรจัน นอกจากนี้การดาวน์โหลดโค้ดร้ายยังก่อให้เกิดความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับไวรัส โทรจัน และภัยคุกคาม
• การใช้ซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยป้องกันฟาร์มมิง สปายแวร์ โทรจัน ไวรัส และภัยคุกคามบนเว็บได้ การตรวจสอบอีเมล์อย่างละเอียดเป็นอีกทางหนึ่งในการป้องกันสแปมและฟิชชิงได้
จากการโจมตีของสแปมและฟิชชิงที่ชำนาญและมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัท เทรนด์ ไมโคร เร่งให้ความรู้และข้อมูลภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ แก่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ขององค์กรอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งแนะนำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ตระหนักถึงการโจมตีในรูปสแปมและฟิชชิง ซึ่งมักจะรวมลิงค์ไปยังไซต์ที่เป็นที่จัดเก็บภัยคุกคามวายร้าย เช่น สปายแวร์ การติดเชื้อผ่านเส้นทางนี้ ดูจะเป็นภัยคุกคามร้ายแรง เนื่องจากเหยื่อของภัยคุกคามดังกล่าว กลายเป็นช่องโหว่ของการขโมยข้อมูลส่วนตัวหรือองค์กรในที่สุด
แม้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในบางประเทศจะตระหนักถึงความร้ายแรงของภัยคุกคาม แต่ดูเหมือนว่าพวกเขายังมีพฤติกรรมเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเอกสารที่น่าสงสัยหรือคลิกลิงค์ที่น่าสงสัยจากคอมพิวเตอร์ขององค์กร บางทีอาจเพราะความพร้อมใช้งานและสามารถขอความช่วยเหลือจากทีมสนับสนุนในสภาพแวดล้อมขององค์กรได้ จึงทำให้พวกเขารู้สึกรับผิดชอบต่อพฤติกรรม และการปฏิบัติเกี่ยวกับความปลอดภัยในที่ทำงานน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่บ้านเมื่อพวกเขาตกอยู่ในภาวะเสี่ยง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภัยคุกคามความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยโดยทั่วไปบนอินเทอร์เน็ต ข้อมูลแบบเวลาจริง และบล็อกเรื่องมัลแวร์ของบริษัท เทรนด์ ไมโคร สามารถเยี่ยมชมได้ที่ ศูนย์รวมข้อมูลด้าน ภัยคุกคามของบริษัท เทรนด์ ไมโคร ที่เว็บไซต์ http://itw.trendmicro.com แหล่งข้อมูลส่วนกลางใหม่นี้ใช้ความอัจฉริยะด้านภัยคุกคามแบบเวลาจริงจากเทรนด์แล็บส์ องค์กรวิจัยและช่วยเหลือด้านภัยคุกคามส่วนกลางของบริษัท เทรนด์ ไมโคร โดยศูนย์รวมข้อมูลด้านภัยคุกคามของบริษัท เทรนด์ ไมโคร ได้รวบรวมข้อมูลภัยคุกคามอย่างหลากหลายและจำนวนมากเพื่อช่วยให้ผู้เยี่ยมชมสามารถก้าวทันภัยคุกคาม เข้าใจแง่มุมของภัยคุกคาม การพัฒนาของเทคโนโลยี และมีวิธีการป้องกันที่ดีที่สุด
