สายการบินกาตาร์ขยายเส้นทางบินสู่อินเดีย ในปี 2550

สายการบินกาตาร์ประกาศขยายเส้นทางเพิ่มในประเทศอินเดีย โดยเพิ่มเส้นทางบินสู่เมืองนาคปูร์ และเมืองอาห์เมดาบัด ส่งผลให้มีการเพิ่มเครือข่ายการบินในอินเดียรวมทั้งสิ้น 8 เส้นทาง โดยในวันที่ 23 กันยายน จะเปิดให้บริการเที่ยวบินสู่เมืองนาคปูร์ 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และหลังจากนั้นอีกเพียง 3 เดือน จะเปิดให้บริการเที่ยวบินทุกวันจากโดฮาสู่เมืองอาห์เมดาบัด ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “แมนเชสเตอร์แห่งตะวันออก”

เมืองนาคปูร์ตั้งอยู่ในแคว้นมหาราษฎร์ นาคปูร์มีประชากรกว่า 2 ล้านคน เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางแหล่งปลูกส้ม บริษัทต่างชาติได้เริ่มให้ความสนใจกับเมืองนาคปูร์ในฐานะที่ประเทศอินเดียกำลังจะกลายเป็นแหล่งในการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่

สายการบินกาตาร์ จะเป็นเพียงสายการบินนานาชาติรายเดียวที่บินไปยังเมืองนาคปูร์ และหลังจากนั้นอีกเพียง 3 เดือน ส่ายการบินกาตาร์จะเปิดให้บริการเที่ยวบินทุกวันจากโดฮาสู่เมืองอาห์เมดาบัด ตั้งอยู่ในแคว้นกุจราฐซึ่งเป็นแคว้นทางตะวันตกของอินเดีย เมืองอาห์เมดาบัดเป็นเมืองที่ใหญ่สุดของแคว้นกุจราฐ และเป็นเมืองหลวง ศูนย์กลางแห่งการค้าพาณิชย์และวัฒนธรรม และเป็นแหล่งอุตสาหกรรมสิ่งทอที่เจริญยิ่ง จนได้รับการขนานนามว่า “แมนเชสเตอร์ตะวันออก” และเคยเป็นแนวหน้าในการเคลื่อนไหวเพื่ออิสรภาพของอินเดีย

เส้นทางใหม่ทั้งสองเส้นทาง จะบินด้วยเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A320 มีห้องโดยสาร 2 ระดับ ชั้นธุรกิจมี 12 ที่นั่ง และมี 132 ที่นั่งในชั้นประหยัด

ปัจจุบันสายการบินกาตาร์ ให้บริการเที่ยวบินทั้งหมด 42 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สู่ 6 เมืองของอินเดีย โดยบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบินไปยังเดลี มัมไบ เชนไน โคชิน ทรีวานดรัมและไฮเดอราบัด การเพิ่มเที่ยวบินไปยังเมืองนาคปูร์และเมืองอาเมห์ดาบัด ทำให้สายการบินกาตาร์มีเที่ยวบินทั้งสิ้น 51 เที่ยวบินครอบคลุม 8 เมือง ในประเทศอินเดีย

มร.อัคบาร์ อัล เบเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินกาตาร์ กล่าวว่า อินเดียเป็นประเทศที่สำคัญต่อกลยุทธ์การเติบโตของสายการบินกาตาร์ ซึ่งสะท้อนข้อเท็จจริงที่ว่า ปัจจุบันนี้สายการบินกาตาร์บินสู่จุดหมายปลายทางในอินเดีย มากกว่าประเทศอื่นๆ

“ผู้โดยสารของเรารอคอยอย่างใจจดใจจ่อมาหลายเดือนแล้ว สำหรับการเปิดเส้นทางใหม่ในเมืองนาคปูร์ ตอนนี้ผมมีความยินดีที่จะประกาศให้ทราบว่าในที่สุด เมืองนาคปูร์จะได้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการบินนานาชาติของเรา เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนเป็นต้นไป ซึ่งเส้นทางบินสู่เมืองนาคปูร์นี้ เป็นเส้นทางที่เกิดขึ้นต่อจากเส้นทางมัมไบ ซึ่งเป็นเที่ยวบินรายวันที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง นาคปูร์จะเป็นประตูที่สองของสายการบินกาตาร์สู่แคว้นมหาราษฎร์ ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้โดยสารของเรา ”

นาคปูร์เป็นท้องที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรแห่งแคว้นมหาราษฎร์ ซึ่งเอื้อโอกาสอันดีอย่างมากในการประกอบธุรกิจ อีกทั้งเมืองนาคปูร์ยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่ใหญ่ที่สุด และได้มีการวางแผนสร้างเขตเศรษฐกิจใหม่และท่าอากาศยานในเมืองนี้

มร.อัคบาร์ กล่าวอีกว่า “เมืองอาห์เมดาบัด เป็นหนึ่งในศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย มีกิตติศัพท์เรื่องความสำคัญด้านการค้า การพาณิชย์และอุตสาหกรรม ทั้งเมืองนาคปูร์และเมืองอาห์เมดาบัดจะเป็นเมืองที่เชื่อมต่อที่ดีเยี่ยมจากตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป และสหรัฐอเมริกา”

มร.อัคบาร์ แสดงความขอบคุณนโยบายรัฐบาลของประเทศอินเดีย ที่ขยายอุตสาหกรรมการบินใหัมีการแข่งขันมากขึ้นทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลดีต่อผู้โดยสาร อีกทั้งการขยายเส้นทางบินนี้ ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีของอินเดียและรัฐกาตาร์ที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งๆขึ้นไปอีกด้วย

ด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตของอินเดีย อันจะนำไปสู่ศักยภาพในการพัฒนาไปสู่ระดับโลก สายการบินกาตาร์ได้สยายปีกการพัฒนาเศรษฐกิจโดยการเพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างประเทศทั้งสอง ความสัมพันธ์ทางการค้าระดับทวิภีของอินเดียและรัฐกาตาร์มีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยหลักๆมาจากการส่งออกแก๊สธรรมชาติ (LNG) มูลค่าถึง 690 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากรัฐกาตาร์ไปยังอินเดีย

ปัจจุบันนี้สายการบินกาตาร์ บินโดยฝูงบินแอร์บัสทั้งหมด 58 ลำ มีเครือข่ายเส้นทางบินนานาชาติทั้งหมด 78 เส้นทาง ครอบคลุมทั่วยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา อนุทวีปอินเดีย ตะวันออกไกลและอเมริกา โดยมีศูนย์กลางการบินอยู่ที่เมืองโดฮา และไฮไลต์ของการขยายเส้นทางบินในปีนี้ คือการเปิดเส้นทางบินสู่มหานครนิวยอร์ก (เนวาร์ก)และกรุงวอชิงตันดีซี ซึ่งถือเป็นการบุกตลาดอเมริกาเหนือเป็นครั้งแรก

ด้วยเครือข่ายการบินนานาชาติที่เติบโตขึ้น ผู้โดยสารที่ใช้บริการของสายการบินกาตาร์และเดินทางจากโดฮาหรือแวะเปลี่ยนเครื่องที่โดฮา จะมีโอกาสดีมากขึ้นในการใช้บริการจากอาคารผู้โดยสาร “พรีเมียมเทอร์มินัล” ใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับบริการผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและบิสสิเนสคลาสโดยเฉพาะ

อาคารพรีเมียมเทอร์มินัลดังกล่าวเพียบพร้อมด้วยบริการทั้งสปา จากุซซี่ ร้านค้าสินค้าปลอดภาษี ศูนย์ธุรกิจ และภัตตาคารอาหารชั้นเลิศ โดยใช้งบประมาณในการสร้างทั้งสิ้น 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นอาคารผู้โดยสารเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกที่สร้างขึ้นสำหรับผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและบิสเนสคลาสโดยเฉพาะ

ข้อมูลของสายการบินกาตาร์
สายการบินกาตาร์ เป็น 1 ใน 5 สายการบินที่ได้รับรางวัลให้เป็นสายการบินระดับ 5 ดาว ด้านการบริการจากสกายแทร็กซ์ และในเดือนกรกฎาคม 2550 สายการบินกาตาร์ได้รับการโหวตให้เป็นสายการบินที่มีห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาสที่ดีที่สุดในโลก และยังได้รับรางวัลลูกเรือยอดเยี่ยมที่สุดในตะวันออกกลางเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน และได้รับการโหวตให้เป็นสายการบินที่ดีที่สุดในตะวันออกกลาง

ในช่วงปี 2549 -2550 สายการบินกาตาร์ได้ให้บริการแก่ผู้โดยสารกว่า 8 ล้านคนทั่วโลก หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.qatarairways.com

สายการบินกาตาร์ได้รับรางวัลพรีวิลเลจคลับและเมื่อเร็วๆนี้ได้รับ 8 รางวัลเฟรดดี้ อวอร์ด ซึ่งเป็นรางวัลทรงเกียรติที่มอบให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.qmiles.com

ฝูงบินของสายการบินกาตาร์จะเพิ่มขนาดเป็น 2 เท่าหรือกว่า 110 ลำ ภายในปี 2558 โดยล่าสุดมีการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส A350 จำนวน 80 ลำ มูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท และโบอิ้ง 777 จำนวน 22 ลำ โดยมีกำหนดเริ่มรับมอบในเดือนพฤศจิกายน 2550

สายการบินเป็นลูกค้ารุ่นแรกของเครื่องบิน 2 ชั้น Airbus A380 รุ่น‘super jumbos’ ด้วยการสั่งเครื่องบิน 4 ลำ กำหนดเริ่มส่งมอบในปี 2552 ซึ่งตรงกับการเปิดตัวสนามบินนานาชาติโดฮาใหม่ หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.ndiaproject.com