เอชพีโกยรายได้ในไตรมาสที่สองเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 72

เอชพีเดินหน้าขยายความเป็นผู้นำในตลาดเบลดเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก ทั้งในด้านยอดรวมจำนวนเครื่องการจัดจำหน่ายและรายได้ (factory revenue) จากข้อมูลตัวเลขด้านการตลาดผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ประจำไตรมาสที่สองของปี 2550 ของบริษัทวิจัยไอดีซีที่เผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้(1)

เอชพีขยายความเป็นผู้นำในฐานะผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบลดเซิร์ฟเวอร์อันดับ 1 ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว โดยครองส่วนแบ่งด้านรายได้ถึงร้อยละ 47.2 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตของรายได้แบบปีต่อปีถึงร้อยละ 71.9

จากการที่ปัจจุบันธุรกิจต่างมีความต้องการโซลูชั่นคอมพิวเตอร์ที่ทรงประสิทธิภาพและมีความสามารถในการปรับขนาดการใช้งานเพิ่มมากขึ้นเพื่อนำไปใช้กับแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่เดิม ตลอดจนการใช้งานใหม่ๆ อาทิ เทคโนโลยี Web 2.0 การใช้งานคอมพิวเตอร์และการเล่นเกมประสิทธิภาพสูง จึงได้ทำให้ความต้องการใช้งานสถาปัตยกรรม HP BladeSystem c-Class และเซิร์ฟเวอร์ตระกูล ProLiant ของเอชพีในไตรมาสที่สองเติบโตสูงขึ้น โดยเอชพียังครองความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในด้านยอดรวมจำนวนเครื่องการจัดจำหน่ายเซิร์ฟเวอร์ตระกูล x86 โดยมีส่วนแบ่งการตลาดถึงร้อยละ 34.8 คิดเป็นอัตราการเติบโตแบบปีต่อปีถึงร้อยละ 18.2 โดยที่ตลาดรวมที่มียอดจำนวนเครื่องการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 7.8

ขณะที่ในภาพรวมตลาดเซิร์ฟเวอร์โลกมีการเติบโตเพิ่มขึ้น เอชพียังคงรั้งตำแหน่งอันดับ 1 ในด้านยอดรวมจำนวนเครื่องการจัดจำหน่ายเซิร์ฟเวอร์เป็นไตรมาสที่ 21 ติดต่อกัน โดยมีอัตราการเติบโตของยอดรวมจำนวนเครื่องการจัดจำหน่ายเซิร์ฟเวอร์แบบปีต่อปีเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 17.4 ในไตรมาสที่สอง ซึ่งถือว่าเป็นยอดรวมจำนวนเครื่องการจัดจำหน่ายที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในบรรดา 5 บริษัทผู้จัดจำหน่ายเซิร์ฟเวอร์ชั้นนำของโลก ทั้งนี้เป็นผลมาจากยอดรวมจำนวนเครื่องการจัดหน่ายที่เพิ่มขึ้นของเซิร์ฟเวอร์ตระกูล ProLiant, Integrity และ BladeSystem ส่งผลให้เอชพีสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดด้านยอดรวมจำนวนเครื่องการจัดจำหน่ายได้ถึงร้อยละ 33.7 หรือคิดเป็นสัดส่วนการจัดจำหน่ายเซิร์ฟเวอร์ถึงหนึ่งในสามของการจัดจำหน่ายทั่วโลก และมีการเติบโตของรายได้ของเซิร์ฟเวอร์สูงกว่าตลาดรวม

สก็อตต์ สตอลลาร์ด รองประธานอาวุโส และผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเอ็นเทอร์ไพรส์ สตอเรจ และเซิร์ฟเวอร์ของเอชพีกล่าวว่า “ความเป็นผู้นำตลาดอันต่อเนื่องของเอชพีแสดงให้เห็นแล้วว่าเราประสบความสำเร็จในการลงทุนในด้านที่ถือเป็นหัวใจสำคัญต่อความสำเร็จของลูกค้าของเรา นวัตกรรมของเอชพีที่อยู่ในชุดผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์และเบลดซิสเต็มส์ช่วยสร้างความได้เปรียบแก่ลูกค้าของเราจนทำให้คู่แข่งตามไม่ทัน และยังทำให้เราได้เป็นหุ้นส่วนสำคัญทางเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันตลอดจนในอนาคต”

ข้อมูลที่น่าสนใจจากรายงานระดับโลกของไอดีซี
• ในฐานะที่ครองความเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์เบลดเซิร์ฟเวอร์เป็นไตรมาสที่สามติดต่อกัน เอชพีมีรายได้จากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 71.9 ในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2550 อันเป็นผลมาจากความต้องการสถาปัตยกรรรม HP BladeSystem c-Class ของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสดังกล่าว เอชพียังคว้าส่วนแบ่งด้านยอดรวมจำนวนเครื่องการจัดจำหน่ายและด้านรายได้ถึงร้อยละ 46.2 และร้อยละ 47.2 ตามลำดับ และรับส่วนแบ่งด้านยอดรวมจำนวนเครื่องการจัดจำหน่ายและรายได้ปีต่อปีเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 13.2 และ 9.7 จุด

• รายได้ของเอชพียังคงนำเป็นที่หนึ่ง โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 35.1 และมีส่วนแบ่งด้านยอดรวมจำนวนเครื่องการจัดจำหน่ายเพิ่มเป็นร้อยละ 34.8 ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงว่าการเติบโตของตลาดเซิร์ฟเวอร์ตระกูล X86 โดยรวม ด้วยความต้องการการใช้งานใหม่ๆ ที่มีสูงกว่าการใช้งานแบบเดิมๆ ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ตระกูล ProLiant ของเอชพีจึงประสบความสำเร็จไปอีกขั้น โดยมีรายได้ของเซิร์ฟเวอร์ x86 เพิ่มขึ้นแบบปีต่อปีที่ร้อยละ 17.5

• ในการประกาศความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่องในตลาดคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (high performance computing) เอชพีรั้งอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ร้อยละ 32.7 และยังครองตำแหน่งผู้นำอย่างต่อเนื่องในตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงในไตรมาสที่สองของปี 2550 โดยมีส่วนแบ่งรายได้อยู่ที่ร้อยละ 29.5 และนับเป็นไตรมาสที่สี่แล้วที่มีส่วนแบ่งรายได้เป็นอันดับหนึ่ง(2)

• ในด้านของตลาดเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้หน่วยประมวลผล AMD® Opteron™ ซึ่งมีการแข่งขันสูง เอชพีก็ยังคงรักษาอันดับหนึ่งทั้งในด้านรายได้และยอดรวมจำนวนเครื่องการจัดจำหน่าย ในฐานะผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้หน่วยประมวลผลแบบ x86-64-based ของอินเทลและเอเอ็มดี เอชพีมียอดการจัดจำหน่ายเซิร์ฟเวอร์มากกว่าไอบีเอ็มและซัน ไมโครซิสเต็มส์ถึง 2.4 และ 22.3 เท่า ตามลำดับ

• ผลพวงจากความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ตระกูล HP Integrity และ HP Integrity NonStop ทำให้เอชพีครองอันดับหนึ่งในส่วนตลาดเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้หน่วยประมวลผล EPIC/Itanium® ทั้งในด้านรายได้และยอดรวมจำนวนเครื่องการจัดจำหน่าย โดยมีอัตราการเติบโตของรายได้แบบปีต่อปีในรอบไตรมาสที่สองของปี 2550 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 42.3

• ยอดรวมจำนวนเครื่องการจัดจำหน่ายเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux และรายได้ของเอชพีเติบโตขึ้นในอัตราร้อยละ 30.6 และ 43.8 ตามลำดับ ซึ่งนับว่าเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าอัตราของตลาด เอชพียังคงครองอันดับหนึ่งในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux โดยมีส่วนแบ่งรายได้มากกว่าร้อยละ 6 จุดในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2550

• ในด้านของยอดรวมจำนวนเครื่องการจัดจำหน่ายและรายได้โดยรวมของผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows®, Linux และ UNIX เอชพีก็ยังคงรักษาตำแหน่งที่ 1 ไว้ได้ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ร้อยละ 33.6 และ 32.0 ตามลำดับ โดยระบบ ปฏิบัติการทั้งสามระบบคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 97.8 ของเซิร์ฟเวอร์ที่จัดจำหน่ายทั่วโลก

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ของเอชพีสามารถเข้าชมได้ที่ www.hp.com/go/servers

ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
เอชพีมุ่งมั่นสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ใช้งานง่าย สำหรับลูกค้าในทุกระดับ นับตั้งแต่ผู้บริโภคระดับคอนซูเมอร์ไปจนถึงองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ด้วยสายผลิตภัณฑ์ซึ่งครอบคลุมถึงด้านโซลูชั่นภาพและการพิมพ์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ซอฟต์แวร์ บริการ และโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ทำให้เอชพีเป็นหนึ่งในบริษัทด้านไอทีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2550 เอชพีมีรายได้รวมนับจาก 4 ไตรมาสทั้งสิ้น 100.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอชพี (NYSE, Nasdaq: HPQ) สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.hp.com