เครื่องโทรศัพท์สาธารณะแบบมัลติมีเดีย “เว็บเพย์โฟน”

อีส มีเดีย ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการให้บริการด้านสื่อโฆษณาสมัยใหม่ ทุ่มงบการลงทุนกว่า 15 ล้าน เปิดตัว เครื่องโทรศัพท์สาธารณะแบบมัลติมีเดีย “เว็บเพย์โฟน (Web PayPhone)” สื่อโฆษณารูปแบบใหม่ที่เข้าถึงนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจในสนามบินสุวรรณภูมิ และ สนามบินดอนเมือง ตั้งแต่ก้าวแรกที่ลงจากเครื่องบิน โดยตั้งกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ครอบคลุมทุกพื้นที่ของสนามบิน กว่า 400 เครื่อง ถือเป็นเทคโนโลยีที่สามารถให้บริการทั้งโทรศัพท์สาธารณะ อีกทั้งยังให้บริการด้านอินเตอร์เน็ต และบริการอื่น ๆ อีกมายมาย อาทิ การซื้อประกันภัยในการเดินทาง จองที่พักโรงแรม การท่องเที่ยวทุกรูปแบบ แลกเปลี่ยนค่าเงิน ตั้งเป้าเงินหมุนเวียนในธุรกิจ กว่า 500 ล้านต่อปี และหวังเป็นสื่อรูปแบบใหม่ที่เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่เดินทางเข้า-ออกประเทศไทยได้อย่างดี

นายนภดล ชาญธีระเดช ประธานกรรมการ บริษัท อีส มีเดีย จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการให้บริการด้านสื่อโฆษณาสมัยใหม่ เปิดเผยว่า “ทางบริษัท อีส มีเดีย จำกัด ได้เปิดตัวเครื่องโทรศัพท์สาธารณะแบบมัลติมีเดีย “เว็บเพย์โฟน (Web PayPhone)” สื่อโฆษณารูปแบบใหม่ที่เข้าถึงนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจในสนามบินสุวรรณภูมิ และ สนามบินดอนเมือง ทางบริษัทฯ ได้รับสัมปทานเช่าพื้นที่โฆษณาและการประยุกต์ใช้งานเครื่อง “เว็บเพย์โฟน (Web PayPhone)” จากบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในการดำเนินการบริหารงานโฆษณาประชาสัมพันธ์เป็นเวลา 3 ปี อีกทั้งเป็นนโยบายของทางภาครัฐที่จะผลักดันให้สนามบินสุวรรณภูมิติดอันดับ 1 ใน 10 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกภายในปี 2552 จึงได้มีการนำเครื่องโทรศัพท์สาธารณะแบบมัลติมีเดีย “เว็บเพย์โฟน (Web PayPhone)” เข้ามาให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เพื่อหวังเป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกและเพื่อช่วยเป็นสื่อประชาสัมพันธ์เรื่องราวข่าวสารทั้งด้านธุรกิจและการท่องเที่ยวในประเทศไทย ให้แก่นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่เดินทางเข้า-ออกในไทย อีกทั้งยังถือได้ว่าเป็นสนามบินแห่งแรกของโลกที่มีโทรศัพท์สาธารณะที่ทันสมัยที่สุดในโลก และมีปริมาณมากสุด โดยมีการติดตั้งในสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 382 เครื่อง และในสนามบินดอนเมือง จำนวน 25 เครื่อง ในระยะเริ่มต้นได้ใช้งบลงทุนในการสร้างแอปปิเคชั่นและอุปกรณ์เสริมสำหรับธุรกรรมต่างๆ และการดำเนินการด้านการตลาดไปทั้งสิ้น 15 ล้านบาท คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจ กว่า 500 ล้านต่อปี”

“สำหรับจุดเด่นของเครื่องโทรศัพท์สาธารณะแบบมัลติมีเดีย “เว็บเพย์โฟน (Web PayPhone)” นี้ ถือว่าเป็นสื่อโฆษณารูปแบบใหม่ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่เดินทางเข้า-ออกในไทย ตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงก้าวสุดท้ายในประเทศไทย โดย“เว็บเพย์โฟน (Web PayPhone)” มีพื้นที่โฆษณาที่ลูกค้าสามารถมองเห็นได้หลายจุด ทั้งพื้นที่ตัวฐาน และที่หน้าจอเครื่อง (screen server) ตัวเครื่องสามารถให้บริการได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การใช้เป็นเครื่องโทรศัพท์ โดยใช้โครงข่ายของระบบไอพี อัตราค่าบริการนาทีละ 50 สตางค์ สามารถใช้เหรียญ 1, 2, 5 และเหรียญ 10 บาท และยังสามารถใช้บัตรเครดิตในการใช้บริการได้ สามารถใช้ได้ทั้งบัตรเครดิต วีซ่า และมาสเตอร์ การ์ด โดยมีอัตราการใช้บริการขั้นต่ำ 100 บาท และสามารถใช้กับบัตรโทรศัพท์ของทีโอที (TOT Card) ได้, สามารถเล่นอินเทอร์เน็ต รับ-ส่งอีเมล์, เล่นเกมแบบทัชสกรีน (touch screen) และมีกล้องถ่ายภาพเพื่อส่งไฟล์ภาพไปยังปลายทางได้ อีกทั้งยังใช้เป็นเครื่องชำระค่าบริการต่างๆ เช่น E-Payment, E-Catalog และ E-Service ต่างๆ, การซื้อประกันภัยในการเดินทาง, การจองที่พักโรงแรม, และการแลกเปลี่ยนค่าเงิน โดยตั้งกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ครอบคลุมทุกพื้นที่ของสนามบินกว่า 400 เครื่อง แม้กระทั่งใน Gate ก่อนขึ้นเครื่องบิน ถือเป็นประตูข้อมูลของประเทศไทยตั้งแต่ก้าวแรกที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาถึง ซึ่งรูปแบบของการให้บริการแบ่งได้เป็น 2 ส่วนหลักๆ คือการให้ข้อมูลและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ Hi-Light ต่างๆ ของไทยแก่นักท่องเที่ยว และนักธุรกิจที่เดินทางเข้า-ออกประเทศไทย อีกส่วนหนึ่งคือการบริการทางธุรกรรมต่างๆ เช่น การซื้อประกันภัยในการเดินทาง การจองโรงแรมที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่สำคัญคือลูกค้าจะได้ใช้บริการทุกอย่างได้ในราคาพิเศษ”

“โดยพันธมิตรที่เข้าร่วมการให้บริการกับเครื่องโทรศัพท์สาธารณะแบบมัลติมีเดีย “เว็บเพย์โฟน (Web PayPhone)” ณ ปัจจุบัน ได้แก่ บริษัท ภัทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้บริการทางด้านประกันภัยการเดินทางและการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ทั้งในไทยและต่างประเทศ, เว็บไซต์ www.shallvgo.com ของบริษัท ยูนิไทยแทรเวล จำกัด ที่จะคอยให้บริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ตั้งแต่การจองโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ยานพาหนะ และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ที่ให้บริการ Payment Gateway บริการรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตออนไลน์ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่เลือกช้อปปิ้งผ่านเครื่องโทรศัพท์สาธารณะแบบมัลติมีเดีย “เว็บเพย์โฟน (Web PayPhone)”

“ปัจจุบันมีจำนวนนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยมากถึง 100,000 คนต่อวัน ซึ่ง ณ ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้เครื่องประมาณ 35,000 – 40,000 คนต่อวัน โดยในสิ้นปี 2550 นี้ ทางบริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะมียอดผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์สาธารณะแบบมัลติมีเดีย “เว็บเพย์โฟน (Web PayPhone)” ถึง 50,000 คนต่อวัน และเพิ่มขึ้นเป็น 80,000 คนในปี 2551 สำหรับแผนงานในอนาคตคจะเพิ่มการบริการให้หลากหลายยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะมีพันมิตรทางธุรกิจเข้ามาร่วมให้บริการมากขึ้นเพื่อให้เป็น One Stop Service สำหรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจในประเทศไทย เช่น สามารถซื้อ OTOP ผ่านจากตัวเครื่อง, ติดต่อโรงพยาบาล, ซื้อซิมสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ จองสนามกอล์ฟ เป็นต้น อีกทั้งยังมีแผนที่จะขยายการให้บริการของ “เว็บเพย์โฟน (Web PayPhone)” ไปยังสนามบินในต่างจังหวัดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เช่น สนามบินนานาชาติ เชียงใหม่ อุบลราชธานี ภูเก็ต ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย”