ตลาดอนุพันธ์แนะผู้ลงทุนใช้ออปชั่นช่วยบริหารความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสลงทุน

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX เปิดเผยว่า ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ตลาดอนุพันธ์จะเปิดให้มีการซื้อขาย SET50 Options ซึ่งเป็นสินค้าตัวที่ 2 ของ TFEX อย่างแน่นอน เพื่อเป็นการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า และทางเลือกใหม่สำหรับผู้ลงทุน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้แก่ตลาดทุนไทยตามเป้าหมายของแผนยุทธศาสตร์ 3 ปีของตลาดหลักทรัพย์ฯ

“อนุพันธ์นับเป็นเครื่องมือการลงทุนที่มีประสิทธิภาพและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วเห็นได้จากอนุพันธ์ตัวแรกคือ SET50 Futures ที่ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงในการลงทุนได้เป็นอย่างดี SET50 Options จึงเป็นตราสารอนุพันธ์ตัวใหม่ที่จะเปิดโอกาสทางการลงทุนให้กับผู้ลงทุนเช่นกัน”นางเกศรากล่าว

SET50 Options คือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ผู้ซื้อได้สิทธิในการซื้อ (Call Options) หรือได้รับสิทธิในการขาย (Put Options) ดัชนี SET50 จากผู้ขายในเวลา ราคา และ เงื่อนไขที่ตกลงกัน ซึ่งผู้ซื้อสามารถเลือกที่จะใช้สิทธิหรือไม่ ก็ได้ โดยผู้ซื้อจะต้องจ่ายเงินค่าออปชั่นที่เรียกกว่าค่าพรีเมียม (Premium) ให้กับผู้ขายเพื่อแลกกับการได้สิทธิ ตามสัญญา

นางเกศรากล่าวต่อว่า เนื่องจาก SET50 options นับเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ โดยผู้ซื้อสามารถจำกัดผลขาดทุนสูงสุดจำกัดไว้เท่ากับค่าพรีเมี่ยม นอกจากนี้ผู้ลงทุนยังสามารถใช้ออปชั่นช่วยป้องกันความเสี่ยงในภาวะที่ตลาดขาลงด้วย หรือใช้ซื้อขายเพื่อสร้างกำไรจากคาดการณ์ภาวะตลาดของตนได้ด้วย

ทั้งนี้ SET50 options ไม่มีการส่งมอบ แต่ผู้ซื้อมีสิทธิที่ได้รับชำระราคาส่วนต่างระหว่าง Final Settlement Price (คำนวณจาก SET50 Index ในวันซื้อขายวันสุดท้ายตามเกณฑ์ของ TFEX) และราคาใช้สิทธิ กรณีที่เป็นไปตามเงื่อนไขของออปชั่น ส่วนวันใช้สิทธิรับชำระราคาคือวันซื้อขายวันสุดท้ายของ options series นั้น ซึ่งขนาดของสัญญาจะอยู่ที่ประมาณ 1 ใน 5 ของ SET50 Futures โดยมูลค่าของสัญญาออปชั่นต่อ 1 จุดดัชนี เท่ากับ 200 บาท

สำหรับการวางหลักประกันแบ่งออกเป็นหลักประกันขั้นต้น (Initial Margin) เป็นหลักประกันที่ต้องวางก่อนส่ง คำสั่งขาย และหลักประกันรักษาสภาพ (Maintenance Margin) ซึ่งเป็นหลักประกันขั้นต่ำที่ต้องมีในบัญชี เนื่องจากออปชั่นเป็นสัญญาที่ผู้ขายให้สิทธิผู้ซื้อในการซื้อหรือขาย ผู้ขายจึงมีภาระต้องซื้อหรือขายสินค้ากับผู้ซื้อหากถูกใช้สิทธิไม่ว่าจะขาดทุนหรือกำไร ดังนั้น ผู้ขายมีความเสี่ยงที่อาจขาดทุนมากกว่าค่าพรีเมี่ยมที่ได้รับ ผู้ขายจึงต้องวางเงินไว้เป็นหลักประกันก่อนส่งคำสั่งขาย ส่วนผู้ซื้อนั้นจ่ายค่าพรีเมี่ยมครั้งแรกที่ซื้อขายและขาดทุนสูงสุดเท่าค่า พรีเมี่ยมที่จ่ายไป ดังนั้นผู้ซื้อจึงไม่ต้องวางหลักประกันเพิ่มเติม

นางเกศรากล่าวต่อว่า “ผู้ที่สนใจซื้อขายออปชั่น และมีบัญชีซื้อขายอนุพันธ์แล้ว สามารถซื้อขายออปชั่นได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. โดยค่าธรรมเนียมการซื้อขายจะเป็นอัตราที่ผู้ลงทุนตกลงกับโบรกเกอร์ได้โดยเสรี สำหรับผู้ที่สนใจแต่ยังไม่มีบัญชีซื้อขายอนุพันธ์ สามารถมาเปิดบัญชีได้ในงาน Options Day กับโบรกเกอร์ที่มาร่วมงาน รวมถึงสมัครเป็นสมาชิก Futures Society ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนไม่พลาดโอกาสเข้าร่วมโครงการ Lucky with TFEX ที่จะมีรางวัลสมนาคุณให้ผู้ลงทุนในวันที่ 29 ต.ค. และในช่วง 6 เดือนแรกที่เปิดซื้อขายออปชั่น”

ผู้ที่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับออปชั่นและฟิวเจอร์ส สามารถติดตามการจัดสัมมนาหรือกิจกรรมต่างๆ ได้จากเว็บไซต์ตลาดอนุพันธ์ที่ www.tfex.co.th หรือเว็บไซต์สถาบันพัฒนาความรู้ตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ www.tsi-thailand.org หรือติดต่อ S-E-T Call Center โทร. 0 2229-2222