ศูนย์การบินแห่งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก หรือซีเอพีเอ (The Center for Asia Pacific Aviation : CAPA) ประกาศให้สายการบินเจ็ทสตาร์เป็นสายการบินต้นทุนต่ำดีเด่นประจำปี 2550 แห่งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และนับเป็นครั้งที่ 2 ที่เจ็ทสตาร์ได้รับเลือกให้รับรางวัลอันทรงเกียรติดังกล่าวภายในระยะเวลาการดำเนินงานเพียงไม่กี่ปีของเจ็ทสตาร์
มร. อลัน จอยซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเจ็ทสตาร์ ได้เดินทางไปรับรางวัลดังกล่าว ในงานกาลาดินเนอร์ ณ ประเทศสิงคโปร์ พร้อมทั้งเข้าร่วมการสัมมนาประจำปีของซีเอพีเอ ซึ่งมีผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
“เจ็ทสตาร์ได้รับการยอมรับว่า เป็นสายการบินที่มีแต้มต่อในการแข่งขันสูงในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และการได้รับรางวัลจากซีเอพีเอครั้งนี้ เป็นผลจากความมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักของทีมงานอันแข็งแกร่งของเรา” มร. จอยซ์ กล่าว และเสริมว่า “ปี 2550 เป็นปีที่เจ็ทสตาร์ประสบความสำเร็จอย่างงดงามทั้งทางด้านการเงินและการดำเนินงาน การได้รับรางวัลเกียรติยศดังกล่าว รวมถึงรางวัลอื่นๆ ที่เราได้รับ ตอกย้ำถึงความสำเร็จอย่างแท้จริงของเจ็ทสตาร์ตลอดปีนี้”
ก่อนหน้านี้ เจ็ทสตาร์ยังได้รับเลือกจากสกายแทร็กซ์ให้เป็นสายการบินต้นทุนต่ำดีเด่นระดับโลก รวมทั้งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำดีเด่น ประจำภูมิภาคออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ และสายการบินที่มีพนักงานต้อนรับบนเครื่องยอดเยี่ยมในภูมิภาคออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์เมื่อเดือนกรกฎาคม 2550 ทั้งยังได้รับรางวัลองค์กรธุรกิจที่มีการปฏิบัติงานดีเยี่ยมประจำปี 2550 จากนิตยสารแอร์ไลน์ บิสิเนส (Airline Business)
มร. ปีเตอร์ ฮาร์บิสัน ประธานกรรมการบริหาร ซีเอพีเอ กล่าวว่า “เจ็ทสตาร์สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการสายการบินต้นทุนต่ำทั่วโลก บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศระยะไกลอันทันสมัย เป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนให้ทั้งเจ็ทสตาร์และกลุ่มแควนตัสสามารถขยายขอบข่ายการให้บริการ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดนักท่องเที่ยวจากออสเตรเลียได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และความเป็นสายการบินต้นทุนต่ำจะเป็นรากฐานอันแข็งแกร่งที่สนับสนุนให้เจ็ทสตาร์ มีศักยภาพในการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น”
ความสำเร็จจากเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศระยะไกลโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการในเส้นทางบินในประเทศออสเตรเลีย และสู่หมู่เกาะแทสแมน เป็นองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่ง ที่ทำให้เจ็ทสตาร์ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากซีเอพีเอครั้งนี้
ในปีงบประมาณ 2550 เจ็ทสตาร์มีผลกำไรก่อนหักภาษี 115 ล้านเหรียญออสเตรเลีย (ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศ) โดยมีผลกำไรจากบริการในเส้นทางบินภายในประเทศเติบโตถึง 4 เท่า
ความสำเร็จจากการเปิดให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศระยะไกลระหว่างออสเตรเลียและจุดหมายสำคัญในภูมิภาคเอเชียและเอเชีย แปซิฟิกในเดือนพฤศจิกายน 2549 ซึ่งตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่งผลต่อการเติบโตของผลกำไรก่อนภาษี สำหรับผลการดำเนินงานอันโดดเด่นด้านอื่นๆ ของเจ็ทสตาร์ ได้แก่
• รับส่งผู้โดยสาร 7.6 ล้านคน (เพิ่มขึ้น 32%) โดยมีรายได้ต่อที่นั่งโดยสารและรายได้ต่อผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด
• เป็นผู้นำด้านการบริหารต้นทุนต่ำในอุตสาหกรรมการบินแห่งออสเตรเลีย ตอกย้ำความเป็นผู้นำ
ด้านสายการบินค่าโดยสารราคาประหยัดของเจ็ทสตาร์
• มีผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ อาทิ ห้องโดยสาร 2 ชั้นโดยสารในเส้นทางบินระหว่างประเทศระยะไกล (ประกอบด้วยชั้นสตาร์คลาสและชั้นประหยัด)
• เปิดบริการเส้นทางบินสู่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดท่องเที่ยวสำคัญตั้งแต่เดือนมีนาคม 2550
• ยกระดับเว็บไซต์ Jetstar.com ให้เป็นเว็บไซต์สำหรับนักเดินทางแบบครบวงจร โดยมีจำนวนผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ