บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด สำนักงานใหญ่ของฮอนด้าประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ประกาศผลการดำเนินธุรกิจของฮอนด้าในประเทศไทย เผยคาดการณ์มูลค่าส่งออกผลิตภัณฑ์ฮอนด้าทั้ง รถจักรยานยนต์ รถยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ในปี 2550 มีอัตราการขยายตัว 19% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พร้อมตอกย้ำบทบาทประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตและส่งออกในภูมิภาคด้วยการขยายการดำเนินงานต่างๆ ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นในการร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่ได้รับอนุมัติแผนการลงทุนผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานหรืออีโคคาร์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
ตลอดปี 2550 ฮอนด้าได้มีการขยายงานและลงทุนเพิ่มด้านการผลิต และการวิจัยและพัฒนา โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัท เอเชี่ยน พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด โรงงานผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ตัวถังรถยนต์ฮอนด้าได้เริ่มผลิตชิ้นส่วนตัวถังรถยนต์เพื่อการบริการหลังการขาย และส่งออกไปทั่วโลก เดือนกรกฎาคม ฮอนด้าได้ลงทุนเพิ่มอีก 900 ล้านบาทเพื่อก่อสร้างอาคารส่วนขยายศูนย์วิจัยและพัฒนารถจักรยานยนต์ฮอนด้า ศูนย์กลางในการพัฒนารถจักรยานยนต์ฮอนด้าในภูมิภาคนี้ และในเดือนเดียวกันนี้เอง ฮอนด้าได้ประกาศลงทุน 6,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินลงทุนสูงสุดในประวัติการณ์ตั้งแต่เริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เพื่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งที่สอง โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มเดินสายพานการผลิตได้ในปลายปี 2551 นี้ ส่งผลให้กำลังการผลิตรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจาก 120,000 คัน เป็น 240,000 คันต่อปี นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ฮอนด้ายังได้ขยายศูนย์จัดเก็บรถยนต์เพื่อการส่งออกในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อรองรับการขยายตัวของการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจากประเทศไทยที่จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นในอนาคต
นายทัตสึฮิโร่ โอยาม่า ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอบริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 43 ปี ที่ฮอนด้าได้เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพแก่ผู้ใช้ชาวไทย และได้ส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยฝีมือคนไทยไปจำหน่ายยัง 80 กว่าประเทศทั่วโลก ปี 2550 นี้นับเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของฮอนด้า โดยรถจักรยานยนต์ฮอนด้ามียอดผลิตสะสมครบ 15 ล้านคัน เครื่องยนต์อเนกประสงค์มียอดการผลิตสะสมครบ10 ล้านเครื่อง และรถยนต์มียอดผลิตสะสมครบ 1 ล้านคัน” นายโอยาม่า ยังกล่าวอีกว่า “เรามองเห็นถึงศักยภาพของการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจากประเทศไทยว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นในอนาคตจากโครงการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานหรืออีโคคาร์ โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของฮอนด้าในการที่จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลก”
ยอดการส่งออกเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
การส่งออกผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของฮอนด้าในปี 2550 คาดว่าจะมีมูลค่ารวมกว่า 98,800 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต19% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดการณ์การส่งออกรถยนต์มีมูลค่าประมาณ 63,900 ล้านบาท คิดเป็น 65% รถจักรยานยนต์มีมูลค่าประมาณ 21,200 ล้านบาท คิดเป็น 21% และเครื่องยนต์อเนกประสงค์มีมูลค่าประมาณ 10,600 ล้านบาท คิดเป็น 11% ของมูลค่าการส่งออกรวม นอกจากนั้นอีกประมาณ 3,100 ล้าน หรือ 3% เป็นมูลค่าการส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่ง
ทั้งนี้ ยอดส่งออกรถยนต์นั่งสำเร็จรูป (CBU) เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 2550 ปริมาณการส่งออกรถยนต์นั่งสำเร็จรูปจะสูงถึง 77,400 คัน หรือเพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าการส่งออกที่ 40,800 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 48% ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากปัจจัยของการขยายตัวในตลาดออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย โดยรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ครองแชมป์ส่งออกรุ่นยอดนิยม ตามมาด้วยฮอนด้า ซีอาร์-วี โฉมใหม่
สำหรับยอดส่งออกรถจักรยานยนต์ก็ยังเติบโตได้ดี โดยคาดการณ์ว่าสิ้นปี 2550 ปริมาณการส่งออกรถจักรยานยนต์ฮอนด้าจะสูงถึง 31,300 คัน หรือเพิ่มขึ้น 25% จากจำนวน 24,999 คันในปีที่ผ่านมา โดยคิดเป็นมูลค่าที่สูงขึ้นถึง 48% โดยมีปัจจัยมาจากความนิยมของรถจักรยานยนต์รุ่น ซีบีอาร์ 125 อาร์ ในตลาดยุโรป รวมถึงตลาดใหม่ๆ เช่น ประเทศออสเตรเลียและแคนาดา
ทั้งนี้ ในส่วนของเครื่องยนต์อเนกประสงค์คาดว่าจะมียอดส่งออกรวม 1,768,896 เครื่อง หรือคิดเป็นมูลค่า 10,600 ล้านบาท สำหรับชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ (CKD) มีปริมาณและมูลค่าการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในประเทศไทย
ฮอนด้าได้ให้ความสำคัญต่อการนำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์เพื่อตอบสนองความต้องการแก่ผู้ใช้ในประเทศเสมอมา ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียที่มีโอกาสสัมผัสและเป็นเจ้าของฮอนด้า แอคคอร์ดโฉมใหม่ก่อนประเทศอื่น ๆ โดยในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดตัวรถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ดโฉมใหม่ ที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ E20 ได้ และคาดว่าภายในสิ้นปี 2550 จะมียอดจองสูงถึง 2,500 คัน ทั้งนี้ ฮอนด้ามีแผนที่จะทยอยเปิดตัวแอคคอร์ดโฉมใหม่นี้ในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียต่อไป
สำหรับยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในประเทศนั้น บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ภายในสิ้นปี 2550 นี้จะมียอดจำหน่ายประมาณ 1.13 ล้านคัน และในปีหน้าคาดว่าจะรักษาระดับยอดจำหน่ายได้เช่นเดิม ทั้งนี้ ในปี 2550 ฮอนด้าได้แนะนำรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องได้แก่ รุ่นเวฟเอ็กซ์ ซีรีส์ แอร์เบลด คลิก เพลย์และไอคอน
การดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม
ฮอนด้าได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในด้านต่าง ๆ และให้การสนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมาโดยตลอด ในปี 2550 กิจกรรมเพื่อสังคม 3 โครงการหลักที่ดำเนินการโดยกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทยมีความคืบหน้าดังต่อไปนี้
• โครงการ “สพฐ. – ฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี” ปีที่ 3 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการเสริมสร้างพลังสามัคคี
และการทำงานเป็นทีมในหมู่เยาวชน ในปีนี้เยาวชน 30 ทีมจากทั่วประเทศได้ผ่านการคัดเลือกระดับภูมิภาคและจะเข้าแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศในวันเด็กแห่งชาติ หรือวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2551 นี้
• โครงการ “ โรงเรียนสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมดีเด่น เฉลิมพระเกียรติ” ปีที่ 4 ภายใต้แนวคิด “ตามรอยเท้าพ่อกับฮอนด้า” ซึ่งฮอนด้าได้มอบทุนเพื่อสนับสนุนโครงการแก้ไขปัญหาและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแก่ 60 โรงเรียนทั่วประเทศ คณะกรรมการได้คัดเลือก 6 โรงเรียนที่มีผลงานดีเด่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีกำหนดที่จะจัดพิธีมอบรางวัลถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแก่โรงเรียนที่ชนะเลิศภายในต้นปีหน้า
• โครงการ “ ฮอนด้า อาซิโม ซูปเปอร์ไอเดีย คอนเทสต์” ปีที่ 3 ซึ่งส่งเสริมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนในการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ที่เคลื่อนไหวได้โดยได้รับแรงบันดาลใจจากหุ่นยนต์อัจฉริยะอาซิโม เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเยาวชนที่ชนะเลิศจากการประกวดทั้ง 6 คน ได้เดินทางไปทัศนศึกษา และนำเสนอผลงานบนเวทีร่วมกับเยาวชนชาวญี่ปุ่น ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยในปี 2551 ฮอนด้ามีแผนที่จะขยายโครงการนี้ออกไปในระดับภูมิภาค
ความสำเร็จอีกขั้นในการพัฒนาอัจฉริยะสมองกลอาซิโม
ภายหลังจากที่ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ได้นำอาซิโมรุ่นใหม่ล่าสุดมาเปิดตัวในงาน เอฟ.ที.ไอ. แฟร์ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ล่าสุด ฮอนด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศความสำเร็จอีกขั้นในการพัฒนาอัจฉริยะเทคโนโลยีสมองกลที่ช่วยเสริมการทำงานของอาซิโมให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น โดย 1) อาซิโมสามารถคาดการณ์และเปิดทางให้กับผู้ที่เคลื่อนไหวเข้ามาใกล้ได้อย่างแม่นยำขึ้น 2) อาซิโมสามารถจัดสรรหน้าที่และปฏิบัติงานได้พร้อมกันหลายตัวในเวลาเดียวกัน และ 3) อาซิโมสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วยตนเอง เมื่อระดับแบตเตอรี่เหลือน้อยกว่าระดับที่กำหนด ความสำเร็จของการพัฒนาหุ่นยนต์อาซิโมในครั้งนี้ทำให้ฮอนด้าเข้าใกล้เป้าหมายในการทำให้อาซิโมสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ในชีวิตประจำวันได้
ปัจจุบันอาซิโมอยู่ในระหว่างการเดินทางไปแสดงเทคโนโลยีในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย โดยมีกำหนดที่จะกลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้งต้นปี 2551
ฮอนด้ากับกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต
บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ได้สนับสนุน รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ โดยรัฐภาคย์ หรือ “ ฟีม” นับเป็นนักแข่งรถจักรยานยนต์ชาวไทยคนแรกที่ได้ลงแข่งขันรถจักรยานยนต์รุ่น จีพี 250 ในรายการ เวิลด์ มอเตอร์ไซเคิล กรังด์ปรีซ์แชมเปี้ยนชิพ ในปีนี้ รัฐภาคย์สามารถทำคะแนนสะสมได้ 30 แต้ม ครองตำแหน่งที่ 17 ทั้งนี้ เอ.พี. ฮอนด้า ได้ตั้งเป้าสนับสนุนฟีม รัฐภาคย์ ต่อไปในฤดูกาลแข่งขันปี 2551 นี้
ตลอดปี 2550 ที่ผ่านมา บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตภายใต้โครงการ ”ฮอนด้า วัน เมค เรซ” โดยจัดให้มีการแข่งขันถึง 5 สนามด้วยกัน และเพื่อเป็นการพัฒนาทักษะการขับขี่รถยนต์สำหรับลูกค้าฮอนด้า บริษัท ฯ มีแผนที่จะจัดกิจกรรมนี้อีกในปีต่อไป