สำนักงานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้จัดโครงการ “มหาวิทยาลัยรังสิต เพื่อวัดพระบาทน้ำพุ” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ร่วมรณรงค์ขอรับบริจาคเงินและจำหน่ายเสื้อยืด เพื่อหารายได้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์และเด็กกำพร้ากว่า 1,700 ชีวิตในโครงการมูลนิธิธรรมรักษ์นิเวศน์ (โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 33) วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ นำนักศึกษาจากชมรมและศูนย์กีฬาและสุขภาพ ไปจัดกิจกรรมสันทนาการ และได้นำเงินบริจาคและสิ่งของที่ได้จากโครงการดังกล่าว กว่า 200,000 บาท มอบให้เด็กกำพร้า ณ โครงการดังกล่าว
สมเกียรติ รุ่งเรืองวิริยะ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า เราเล็งเห็นความสำคัญของวัดพระบาทน้ำพุที่ช่วยเหลือคนป่วยโรคเอดส์ และญาติผู้ป่วยโรคเอดส์มาเป็นเวลานาน ซึ่งปัจจุบันโครงการมูลนิธิธรรมรักษ์นิเวศน์ วัดพระบาทน้ำพุ มีจำนวนผู้ป่วยโรคเอดส์ ที่เข้ารับการรักษาที่วัดพระบาทน้ำพุเพิ่มมากขึ้น เด็กอีกส่วนหนึ่งที่กำเนิดจากแม่ที่ติดเชื้อโรคเอดส์ที่รอดจากการติดเชื้อประมาณปีละ 14,000 คนจะต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า หลังจากที่พ่อแม่ต้องเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ และยังมีเด็กบางส่วน ที่พ่อแม่ไม่ได้เสียชีวิตที่วัดพระบาทน้ำพุ แต่ญาติพี่น้องของพ่อแม่ก็ไม่สามารถที่จะให้การเลี้ยงดูได้ ทำให้เกิดกิจกรรมรวมใจบริจาคการกุศลนำรายได้ทั้งหมดนำไปให้โครงการมูลนิธิธรรมรักษ์นิเวศน์ วัดพระบาทน้ำพุ จนกระทั่งประสบความสำเร็จได้อย่างที่ตั้งใจ
“ถือได้ว่าเราประสบความสำเร็จมาก เพราะทุกปีที่ผ่านมา ทางสำนักงานประชาสัมพันธ์ได้จัดโครงการช่วยเหลือสังคมมากมาย สำหรับโครงการที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้คือโครงการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือ วัดพระบาทน้ำพุ นอกจากนี้ นักศึกษาที่มีส่วนร่วมในโครงการยัง’ได้เรียนรู้ประสบการณ์จากการทำกิจกรรมเพื่อสังคม
ด้าน นางสาวอินทิรา เกตุวรสุนทร หรือการ์ตูน นักศึกษาชั้นปี 2 สาขาวิชาการโฆษณา คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ตัวแทนนักศึกษาทุนความสามารถพิเศษด้านการแสดง กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจที่มีโอกาสเป็นตัวแทนนักศึกษานำเงินทุนมาบริจาคให้กับน้องๆ ที่วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการลงแรงลงมือจัดกิจกรรมระดมทุน ทั้งขายเสื้อและขอทุนบริจาคตามสื่อต่างๆ พอวันนี้เราได้เห็นรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของน้องๆ ก็รู้สึกดีใจ ไม่คิดว่าทั้งกิจกรรม และเกมที่เราต่างช่วยกันคิด จะสามารถทำให้ช่วยน้องๆ มีความสุขได้ ตอนนี้พวกเรายังมีแรง มีกำลัง มีความคิดสร้างสรรค์มาช่วยกันทำความดีให้กับสังคมดีกว่า สร้างรอยยิ้มให้กับน้องๆ ที่เขาไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีคนคอยดูแลเหมือนกับเรา เพราะอย่างน้อยเราก็สร้างสิ่งดีให้กับพวกเขาได้
นายกอบศักดิ์ วิชัยขัทคะ อาจารย์ประจำศูนย์กีฬาและสุขภาพ มหาวิทยาลัยรังสิต หนึ่งในแกนนำผู้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้ กล่าวว่า พวกเรามีความตั้งใจที่จะช่วยกันเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป และทุกคนมีความสุขกับกิจกรรมในครั้งนี้ เด็กส่วนใหญ่ที่นี้เป็นเด็กกำพร้าที่ขาดความรักจากพ่อแม่ เมื่อมีโอกาสได้มาทำกิจกรรมแล้ว รู้สึกมีความสุขมาก เพราะทุกคนมาด้วยหัวใจ ทำด้วยความรัก มีทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ บางคนเคยถามว่า ทำไมไม่ช่วยเหลือเด็กตามชนบทที่ยากจน แต่ตนคิดว่าเด็กเหล่านั้นยังมีพ่อมีแม่ มีบางอย่างที่มันมีค่ามากกว่าสิ่งของ เด็กที่นี้ไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่ที่แท้จริง
สำหรับ นายกฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร หรือไนซ์ นักศึกษาชั้นปี 1 ภาควิชาการจัดการ โลจิสติกส์ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ตัวแทนชมรมพัฒนาบุคลิกภาพและการพูด กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ถือโอกาสให้นักศึกษาได้ทำดี ตอบแทนสังคม ด้วยวิธีเติมเต็มสิ่งดีๆ ให้กับคนกลุ่มหนึ่ง หากมีโอกาสจะกลับมาหาน้องๆ อีก อยากจะช่วยเหลือสังคม อะไรที่พอจะหยิบยื่นให้คนที่ขาด ที่สำคัญโครงการถือว่าเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษามาก มีเพื่อนบางคนที่ยังไม่เคยทำกิจกรรมมาก่อน วันนี้เขาได้รู้แล้วว่ากิจกรรมที่เราทำ มันก็สามารถตอบแทนสังคมได้เหมือนกัน อยากจะบอกเชิญชวนเพื่อนที่มีมากจนล้นมาช่วยกันเติมเต็มสิ่งที่ขาดไป