“ธนาคารทิสโก้” ออกเงินฝาก “ซุปเปอร์เซฟวิ่งส์” ดอกเบี้ย 2.4%

ธนาคารทิสโก้ รับมือการแข่งขันชิงฐานลูกค้ารายกลาง ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ใหม่ล่าสุด “ซุปเปอร์เซฟวิ่งส์” (Super Savings) ด้วยเงื่อนไขถูกใจ ออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงเหมือนฝากประจำ ถอนได้เดือนละ 2 ครั้ง ฝากขั้นต่ำ 1 แสนบาท พร้อมยกระดับบริการหน้าเคาน์เตอร์ เปิดตัว “บริการทันใจใน 1 นาที” ที่สาขาธนาคารทั่วประเทศ

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการสายธนกิจลูกค้ารายย่อย ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารทิสโก้มีแผนรุกตลาดลูกค้ารายย่อยมากขึ้นในปีนี้ และได้เริ่มต้นดำเนินการไปแล้วโดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมาธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำ 1 ล้านบาท 12 เดือน ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเกินคาดทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ล่าสุดธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากออมทรัพย์รูปแบบใหม่ “ซุปเปอร์เซฟวิ่งส์” (Super Savings) เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการฝากเงินที่ได้รับดอกเบี้ยเหมือนฝากประจำ และยังคงสภาพคล่อง

“โปรดักท์ตัวนี้ พัฒนาขึ้นจากความต้องการของลูกค้าระดับกลาง ซึ่งมีเงินออมทิ้งไว้ในบัญชีมากกว่า 1 แสนบาท โดยที่ยังต้องการถอนเงินออกมาใช้ได้บ้าง ไม่พร้อมที่จะฟิกซ์เงินไว้ ทำอย่างไรจะให้เงินออมนั้นได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า ธนาคารทิสโก้จึงเสนอบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ซุปเปอร์ เซฟวิ่งส์ เพื่อตอบสนองความต้องการตรงนี้ โดยลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยสูงกว่าออมทรัพย์ทั่วไป ซึ่งปกติแบงก์ทั่วไปให้ดอกเบี้ยอยู่ 0.75% ถ้าเป็นออมทรัพย์ของธนาคารทิสโก้เราให้ 2% แต่สำหรับซุปเปอร์เซฟวิ่งส์ตัวนี้ เราให้ดอกเบี้ยสูงถึง 2.4% โดยที่ลูกค้ายังคงสภาพคล่องถอนเงินได้เดือนละ 2 ครั้ง ถือว่าเป็นเงื่อนไขที่น่าจะถูกใจลูกค้าเงินฝากระดับกลาง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเพื่อผลตอบแทนที่ดีกว่า”

ทั้งนี้ บัญชีเงินฝาก “ซุปเปอร์เซฟวิ่งส์” มีเงื่อนไขคือ ผู้ใช้บริการต้องเป็นบุคคลธรรมดา เปิดบัญชีขั้นต่ำจำนวน 1 แสนบาท ทั้งนี้จะได้รับดอกเบี้ย 2.4% ในส่วนของวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนที่เกิน 1 ล้านบาท จะได้รับดอกเบี้ยเท่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปของธนาคาร (Tier rate) นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถถอนเงินจากบัญชีได้เดือนละ 2 ครั้งโดยไม่จำกัดจำนวนเงิน หากเกิน 2 ครั้งธนาคารจะคิดค่าธรรมเนียมในการถอนครั้งต่อไปครั้งละ 500 บาท และหากยอดเงินฝากเฉลี่ยในบัญชีต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อเดือนจะมีค่ารักษาบัญชีเดือนละ 100 บาท สำหรับการจ่ายดอกเบี้ยธนาคารจะคำนวณจากยอดเงินคงเหลือ ณ สิ้นวัน และนำเข้าบัญชีให้ลูกค้าโดยอัตโนมัติปีละ 2 ครั้ง ในเดือนมิถุนายนและธันวาคม โดยผู้สนใจสามารถเปิดบัญชีออมทรัพย์ “ซุปเปอร์เซฟวิ่งส์” ได้ที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม เป็นต้นไป “เราตั้งเป้าหมายเงินฝากจากบัญชีซุปเปอร์เซฟวิ่งส์จำนวน 1,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้” นายศักดิ์ชัย กล่าว

เขากล่าวต่อไปว่า พร้อมกันนี้ ในเดือนที่ผ่านมา ธนาคารทิสโก้ได้ยกระดับมาตรฐานของการให้บริการให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยคอนเซ็ปต์ “บริการทันใจใน 1 นาที” (One Minute Service) ซึ่งเป็นการรับประกันเวลาที่ใช้ในการทำธุรกรรมทั่วไปที่เคาน์เตอร์ธนาคารภายในเวลา 1 นาที

“บริการทันใจใน 1 นาที หรือ One Minute Service เป็นการต่อยอดมาจากบริการ “Fast Track” ก่อนหน้านี้ ที่ลูกค้าไม่ต้องกรอกสลิปใดๆ เมื่อมาติดต่อทำธุรกรรมฝาก-ถอน-โอนเงินเข้าบัญชีที่เคาน์เตอร์ธนาคาร เพียงยื่นบัตรทิสโก้ไดเร็กท์หรือบัตรประชาชนหรือสมุดเงินฝากให้แก่เจ้าหน้าที่ก็สามารถทำธุรกรรมได้ทันที นอกจากจะอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าแล้ว เรายังเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าให้มีความรวดเร็ว วันนี้ธนาคารจึงได้กำหนดมาตรฐาน บริการทันใจใน 1 นาที ขึ้นมาสำหรับการบริการหน้าเคาน์เตอร์อีกด้วย และจากที่เราเริ่มทดลองให้บริการดังกล่าวมาเป็นระยะเวลากว่าหนึ่งเดือนในทุกสาขา ก็พบว่าลูกค้ามีความพึงพอใจและพนักงานเทลเลอร์สามารถให้บริการได้เป็นอย่างดีภายในเวลาที่กำหนด” นายศักดิ์ชัย กล่าว

โดยในระยะแรก บริการทันใจใน 1 นาที ครอบคลุมเฉพาะธุรกรรมฝาก-ถอน-ชำระ-โอนเงินสด โดยมีเงื่อนไขคือ เป็นการฝากเงินต่อ 1 บัญชี เมื่อฝากธนบัตรไม่เกิน 100 ฉบับ, ถอนเงินต่อ 1 บัญชี เมื่อถอนธนบัตรไม่เกิน 100 ฉบับ, โอนเงิน 1 ครั้ง เมื่อโอนเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท และชำระเงินต่อ 1 เลขที่สัญญา เมื่อชำระเงินไม่เกิน 2 ประเภทรายการด้วยใบชำระเงิน TISCO Auto Card หรือ Special Pay In โดยจะเริ่มต้นนับเวลาทันทีที่ลูกค้ายื่นเอกสารทั้งหมดแก่เจ้าหน้าที่ ทั้งนี้จะพัฒนาสู่การให้บริการประเภทอื่นๆ อาทิ การฝากเช็ค และการเปิดบัญชีใหม่ ในลำดับถัดไป

“ทั้งหมดนี้ เป็นไปตามนโยบายที่ธนาคารทิสโก้ต้องการสร้างความแตกต่างในการให้บริการแก่ลูกค้าของเราอย่างชัดเจน กล่าวคือ ลูกค้าเราต้องได้รับผลตอบแทนที่ดี มีต้นทุนหรือเสียค่าใช้จ่ายที่ต่ำ และประการสุดท้าย ลูกค้าต้องได้รับการบริการที่รวดเร็ว โดยในปีนี้เราจะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องตามแนวทางนี้.”