ฮอนด้าประกาศเทรนด์ใหม่ใช้เทคโนโลยีหัวฉีดในรถจักรยานยนต์ทุกรุ่น

ฮอนด้านำเสนอนวัตกรรมสร้างมาตรฐานใหม่รถจักรยานยนต์ ภายใต้แนวคิดของความอิสระในขณะขับขี่ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีระบบหัวฉีด PGM-FI ล้ำสมัย ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในด้านเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งประหยัดน้ำมัน และที่สำคัญยังสามารถรองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E20 พร้อมเตรียมติดตั้งในรถรุ่นใหม่ๆ ให้ครอบคลุมทุกประเภท ขณะที่จัดแสดงความล้ำหน้าของเทคโนโลยีนี้อย่างหลากหลาย รวมทั้งเผยโฉมรถต้นแบบ CZ MOTARD ภายในบู๊ธสุดอลังการรูปแบบ “ก้อนเมฆ” (Cloud) ด้วยคอนเซ็ปต์ “i love Freedom” ในงานมอเตอร์โชว์

มร.เซนจิโร่ ซากุราอิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับบู๊ธรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 29 นี้ นำเสนอแนวคิดอันเป็นพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจของฮอนด้า นั่นคือ การให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนถึงความปลอดภัย โดยเจตนารมณ์นี้กำหนดขึ้นภายใต้นิยาม “i love Freedom”

สำหรับ “i love Freedom” นั้น คือแนวคิดที่ปรารถนาให้ทุกๆ คน ได้สัมผัสถึงความอิสระในขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ท่ามกลางความสะอาดและความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อม ด้วยเหตุนี้ฮอนด้าจึงให้ความสำคัญและทุ่มเทอย่างเต็มที่กับการดำเนินนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมานั้นฮอนด้านับเป็นเป็นผู้เริ่มต้นในการยกเลิกผลิตเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ซึ่งมีข้อเสียต่อสิ่งแวดล้อม โดยปรับเปลี่ยนมาเป็นเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ การริเริ่มระบบเปิดไฟหน้าอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การติดตั้งเทคโนโลยีหัวฉีดเป็นครั้งแรกในรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวรุ่น Wave 125i การติดตั้งระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและระบบกระจายแรงเบรกในรถแบบ เอ.ที. รวมถึงการสนับสนุนให้ร้านผู้จำหน่ายใส่ใจในสิ่งแวดล้อมในโครงการ Green Dealer

มาตรฐานเครื่องยนต์ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด PGM-FI ยุคใหม่ล่าสุด
ฮอนด้าตั้งเป้าหมายภายในปี 2552 นี้ จะขยายการติดตั้งเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงในด้านสิ่งแวดล้อมในรถจักรยานยนต์ฮอนด้าให้ครอบคลุมทุกประเภท โดยเทคโนโลยีใหม่นี้คือ ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด หรือ PGM-FI ซึ่งจะส่งผลให้มีค่าไอเสียสะอาดยิ่งขึ้น และรองรับมาตรฐานควบคุมไอเสียระดับ 6 ที่อิงตามมาตรฐานของยุโรป โดยนับเป็นการดำเนินการล่วงหน้าก่อนที่ข้อกำหนดนี้จะบังคับใช้อย่างเป็นทางการในประเทศไทย

ระบบ PGM-FI ใหม่ล่าสุดนี้ จะได้รับการติดตั้งในเครื่องยนต์ 110 ซีซี 4 จังหวะ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ 100 ซีซี 4 จังหวะ ของฮอนด้ารุ่น เวฟ 100 ในปัจจุบันแล้ว สามารถเพิ่มสมรรถนะให้เครื่องยนต์สูงขึ้นถึง 20% ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่า 15% และยังให้ค่าไอเสียต่ำกว่ามาตรฐานไอเสียถึง 80% ด้วยระบบควบคุมการทำงานโดยหน่วยประมวลผลอัจฉริยะ ECU (Engine Control Unit) และเซ็นเซอร์ทั้ง 5 จุด เพื่อช่วยคำนวณการจ่ายน้ำมันได้แม่นยำ และเทคโนโลยีล่าสุด O2 เซนเซอร์ ตรวจวัดค่าออกซิเจนที่ออกแบบใหม่ช่วยให้ไอเสียสะอาดยิ่งขึ้น รวมถึงการปรับโครงสร้างของเครื่องยนต์เพื่อให้การทำงานของเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งช่วยลดการเสียดสีภายในเครื่องยนต์ลง 14%

นอกจากนั้นแล้วยังเป็นครั้งแรกของวงการรถจักรยานยนต์ โดยเทคโนโลยีใหม่นี้สามารถรองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E20 ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

ส่วนในด้านความปลอดภัย จะมีการพัฒนาระบบเบรก CBS (Combi Brake System) ซึ่งเป็นระบบที่มีความปลอดภัยสูงด้วยการกระจายแรงเบรกให้สมดุลระหว่างล้อหน้าและล้อหลังมาใช้กับรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นต่างๆ

บู๊ธสุดอลังการรูปแบบ “ก้อนเมฆ” (Cloud)
บู๊ธรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ ได้รับการเนรมิตให้เป็นท้องฟ้าและกลุ่มเมฆที่สะท้อนถึงความเป็นอิสระที่ได้รับจากรถจักรยานยนต์ฮอนด้า กับรูปทรงแถบโมเบียส (Mobius Strip) ที่ไม่มีด้านสิ้นสุด ด้วยฝีมือการออกแบบและตกแต่งโดยคุณดวงฤทธิ์ บุนนาค 1 ใน 5 สถาปนิกชื่อดังของประเทศไทย ให้ผู้ชมได้ซึมซับกับบรรยากาศของเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี และภายนอกมีท้องฟ้าเป็นฉากหลังให้ผู้เข้ามาสัมผัสได้รู้สึกถึงประสบการณ์ความอิสระได้อย่างไร้ขีดจำกัด กับโซนต่าง ๆ มากมาย ซึ่งทุกๆ โซน ล้วนหลากหลายด้วยเทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI ยุคใหม่ล่าสุด

1. i love Earth. การนำเสนอเทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI ใหม่ล่าสุดในรถต้นแบบสไตล์ โมตาร์ด คือ Honda CZ MOTARD ในขนาดเครื่องยนต์ 110 ซีซี 4 จังหวะ และ Honda CZ-Grand Prix ในรูปแบบตกแต่งภายใต้แนวคิด more exciting more fun ด้วยสีสันสุดขั้วแบบรถแข่ง WGP ของนักบิดไทยระดับโลก“ฟีม – รัฐภาคย์ วิไลโรจน์”

2. i love Exciting. สำหรับผู้ที่รักการขับขี่แบบเร้าใจกับรถสไตล์ Big Bike ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI มาจากรถแข่งในสนามแข่งระดับโลกทั้ง WGP, World Super Sport Championship และ World Super Bike Championship อันได้แก่ Honda DN-01 รถสปอร์ต ครุยเซอร์ สายพันธุ์ใหม่ ดีไซน์ล้ำหน้า ให้อารมณ์การขับขี่ที่หลากหลาย Honda CBR 600 RR รถ Super Sport ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีจากสนามแข่ง Honda Forza Z ABS รถ Scooter ขนาด 250 ซีซี พร้อมระบบเบรก ABS และ CBS และHonda CBR 1000 RR รถ Super Sport กับเทคโนโลยีในรถ 1000 ซีซี ด้วยระบบหัวฉีดPGM-DSFI ซึ่งมีหัวฉีด 2 ชุดต่อหนึ่งลูกสูบ ให้ความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ H.E.S.D. (Honda Electronic Steering Domper)

3. i love Everyone. เทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI ในรถตระกูล Super Cub สุดยอดตำนานอมตะที่ครองใจคนทั่วโลกมายาวนานถึง 50 ปี กับยอดจำหน่ายที่มากสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 50 ล้านคัน และเป็นต้นกำเนิดของรถครอบครัวทุกรุ่นในปัจจุบัน โดยรถในตระกูลคับ (Cub) ที่นำมาแสดงในโซนนี้ ได้รับการติดตั้งระบบหัวฉีด PGM-FI รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ Honda Super Cub 50 รถซูเปอร์ คับ ยอดนิยมที่ยังคงมีการผลิตและจำหน่ายอย่างต่อเนื่องตลอด 50 ปี Honda Little Cub รถคับแห่งยุคปัจจุบันกับดีไซน์โมเดิร์นคลาสสิค และ Honda Wave 125i รถคับซีรี่ส์ล่าสุดที่จุดกระแสเทคโนโลยีหัวฉีดในวงการรถจักรยานยนต์ของไทย

4. i love Fun Riding. โซนสำหรับผู้รักการขับขี่แบบสนุกสนานกับเทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI ที่ติดตั้งในรถขนาดเล็ก ซึ่งสร้างความสนุกของการขับขี่โดยไม่มีข้อจำกัด ทั้งในรุ่น Honda Ape 50, Honda Crea Scoopy และ Honda Zoomer

5. i love Customize. การนำเสนอสำหรับผู้ที่รักการตกแต่งรถจักรยานยนต์ และแต่งกายในสไตล์แฟชั่น

6. i love Challenge. คือโซนที่นำเสนอการท้าทายความสามารถของนักแข่งไทยในรายการ World Grand Prix รุ่น GP250 กับ “ฟีม – รัฐภาคย์ วิไลโรจน์” ความภูมิใจหนึ่งเดียวของไทยในสนามแข่งระดับโลก พร้อมการจัดแสดงรถแข่งฮอนด้าที่ครองแชมป์จากรายการ World Super Sport Championship และ World Super Bike Championship ปีล่าสุด

ตอบสนองไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
ทั้งนี้ ฮอนด้ายังมีแผนจัดตั้งศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยแห่งใหม่เพิ่มขึ้นอีก 10 แห่ง โดยแบ่งเป็นในเขตกรุงเทพฯ 1 แห่งซึ่งจะจัดตั้งขึ้นภายในปีนี้ และอีก 9 แห่ง จะจัดตั้งในจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ ภายในปี 2553 เพื่อรณรงค์ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตระหนักถึงความปลอดภัยในการขับขี่ รวมทั้งตั้งเป้าผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนทางความรู้ด้านเทคโนโลยีระหว่างผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ ภาครัฐ และสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมและคืนประโยชน์ต่อสังคม เช่น ความรู้ในเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมในระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด PGM-FI และความปลอดภัยในระบบเบรกแบบ CBS ที่มีอยู่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า

นอกจากนี้ เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ฮอนด้ายังได้เตรียมแผนการนำเข้าและจำหน่ายรถจักรยานยนต์รุ่นใหญ่ หรือ “บิ๊กไบค์” มนต์เสน่ห์ยานยนต์ 2 ล้อระดับโลกสุดยอดเกทเจ็ทในฝันที่ผู้ชายทั่วโลกต้องการเป็นเจ้าของ โดยจะเปิดโชว์รูมจำหน่ายในเขตกรุงเทพฯ ภายในปี 2551 นี้ พร้อมทั้งในเดือนมิถุนายนนี้ จะทำการเปิดตัว +Freedom Café ณ บริเวณสยามสแควร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมิติของอิสระทางรสชาติและช่องทางการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่