ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาแต่เคเอฟซี ยังรักษายอดขายเป็นอันดับหนึ่ง ภายในครึ่งปีแรก สามารถเติบโตต่อเนื่องถึง 16 เปอร์เซ็นต์ พร้อมประกาศชัดที่จะยืนหยัดเคียงข้างผู้บริโภค โดยไม่ขึ้นราคาแม้ต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนกระฉูด
นาย ศรัณย์ สมุทรโคจร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงผลประกอบการใน 6 เดือนแรกของปี 2551 ว่า “ขณะที่การเติบโตของธุรกิจอื่นๆ ชะลอตัว แต่ เคเอฟซี สามารถรักษายอดขาย โดยในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมามียอดขายเติบโตขึ้นมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 16 เปอร์เซ็นต์ โดยอัตราการเติบโตมาจากการเติบโตของยอดขายในร้านเดิม 7% และที่เหลือเป็นการเติบโตจากยอดขายในร้านเปิดใหม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ยัมได้เตรียมพร้อมรับมือด้วยกลยุทธ์การตลาดต่างๆ เช่น การสร้างสรรค์เมนูใหม่ที่มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม ไปจนถึงการขยายสาขาเพื่อรองรับลูกค้าได้อย่างทั่วถึง โดย 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้ขยายสาขาร้านเคเอฟซีไปแล้ว 19 สาขา”
ปัจจุบัน แม้ภาวะต้นทุนต่างๆ จะสูงขึ้น แต่บริษัทฯ ยังคงแบกรับภาระดังกล่าว โดยไม่ผลักไปสู่ผู้บริโภค ทั้งนี้เคเอฟซียังตรึงราคาค่าจัดส่งอยู่ที่ 20 บาท นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มีนโยบายช่วยเหลือพนักงานเดลิเวอร์รี่โดยการใช้นโยบายจ่ายค่าน้ำมันแบบลอยตัว แปรผันตามราคาน้ำมันในตลาดอีกด้วย
นาย ศรัณย์ สมุทรโคจร ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงความท้าทายของ ยัม ในการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังท่ามกลางปัญหาจากต้นทุนการดำเนินการ รวมถึงราคาน้ำมันที่ทำให้ต้นทุนการขนส่งสินค้าสูงขึ้นว่า “ในเวลานี้เราต่างก็ทราบดีว่าลูกค้ามีค่าใช้จ่ายที่มากพออยู่แล้ว เคเอฟซี จึงยืนยันที่จะไม่ปรับราคาสินค้าขึ้น ทั้งในส่วนของการรับประทานภายในร้านและเดลิเวอรี่ เพื่อเป็นทางหนึ่งที่ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาให้ผู้บริโภค โดยที่ยัมจะมีนโยบายการบริหารจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดต้นทุนแทนการผลักภาระให้ลูกค้า”
“ในภาวะการณ์ปัจจุบัน รวมไปถึงช่วงการแข่งขันฟุตบอลยุโรป ซึ่งหลายๆท่านคงต้องหาอาหารอร่อยๆ มารับประทานช่วงดึก สั่ง KFC เถอะครับ เรายังอยู่ข้างผู้บริโภค และไม่ได้ใช้โอกาสนี้ ในการคิดค่าส่งเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด” นายศรัณย์กล่าวทิ้งท้าย