วอลล์สตรีทรุกเปิดสาขาใหม่ย่านศรีนครินทร์

จากภาพ : มร. เดวิด แพดแจม (ซ้ายสุด), มร. มิเชล เลอ เคลแลค (กลาง) ประธานบริหารโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษวอลล์สตรีท และดร. พรต ซอโสตถิกุล (ขวาสุด) รองกรรมการผู้จัดการ สำนักพัฒนาธุรกิจ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนแสควร์ ร่วมตัดริบบิ้นเปิดสาขาที่ 6 ณ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนสแควร์

โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษวอลล์สตรีท เดินหน้าเปิดสาขาล่าสุดที่ห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่อาศัยอยู่ในบริเวณศรีนครินทร์-บางนา-พัฒนาการ หลังประสบความสำเร็จอย่างสูงจาก 5 สาขาแรก คือ สาขาสีลม สุขุมวิท ลาดพร้าว สยามและปิ่นเกล้า โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มีผู้สมัครเรียนภาษาอังกฤษกับวอลล์สตรีทฯ เป็นจำนวนสูงถึง 20,000 คน นับได้ว่าวอลล์สตรีทฯ ในประเทศไทย เป็นสถาบันสอนภาษาที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก

“การเปิดตัวสาขาล่าสุดนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของเราในประเทศไทยและเป็นการเพิ่มทางเลือกที่สะดวกมากขึ้น เพราะเราเชื่อว่าคนไทยที่อยากจะพูดภาษาอังกฤษด้วยความมั่นใจมีมากขึ้น” นายมิเชล เลอ เคลแลค ประธานบริหาร โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษวอลล์สตรีท (ประเทศไทย) กล่าว

ด้วยทำเลที่ตั้งอันเป็นศูนย์กลางย่านที่พักอาศัยและย่านธุรกิจบริเวณศรีนครินทร์ บางนาและพัฒนาการ ห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการขยายสาขาของวอลล์สตรีท “จากผลสำรวจในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีครอบครัวย้ายมาอยู่ในบริเวณนี้กว่า 50,000 ครัวเรือน คิดเป็นประมาณ 200,000 คน ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่สูงพอสมควร วอลล์สตรีทจึงเปิดสาขาใหม่ที่ห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของตลาดในย่านนี้ รายงานการสำรวจของเรายังแสดงให้เห็นว่านักเรียนบางคนไม่สะดวกเดินทางไปศูนย์กลางของกรุงเทพฯ เช่น สาขาสุขุมวิท สีลมหรือสยาม การเปิดสาขาใหม่ในห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์นี้ ทำให้วอลล์สตรีทฯ มีสาขาครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ โดยเรามี 2 สาขาที่อยู่ใจกลางของกรุงเทพฯ คือ สาขาสีลมและสยาม สาขาลาดพร้าวทางเหนือของกรุงเทพฯ สาขาปิ่นเกล้าทางตะวันตก และล่าสุดทางตะวันออกคือสาขาซีคอน สแควร์” นายมิเชล เลอ เคลแลค กล่าว

นอกจากนี้ นายมิเชล เลอ เคลแลค ยังได้กล่าวว่าปัจจัย 3 ประการที่ทำให้เขาเลือกสถานที่ในการเปิดสาขาใหม่ ปัจจัยแรก คือ จะต้องเป็นสถานที่ที่นักเรียนสะดวกในการเดินทางเข้ามาเรียนเมื่อมีเวลาว่าง ปัจจัยที่สอง คือจำนวนคนที่เดินเข้าออกในสถานที่นั้นๆ และปัจจัยสุดท้าย คือ ความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ดีกับเจ้าของพื้นที่ เช่น การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งถือว่าซีคอน สแควร์มีปัจจัยทั้ง 3 ประการนี้ครบถ้วน “นอกจากนี้ ทางผู้บริหารของซีคอน สแควร์ยังเห็นความสำคัญของการศึกษา โดยได้ขยายพื้นที่ Tutor Square ให้กว้างขึ้นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งนั่นเป็นโอกาสที่ดีของวอลล์สตรีทฯ ในการขยายสาขาในครั้งนี้ด้วย” นายมิเชล เลอ เคลแลค กล่าวเพิ่มเติม

วอลล์สตรีทฯ สาขาซีคอน สแควร์ เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ในบริเวณ Tutor Square ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ โดยมีพื้นที่ 850 ตร.ม. ซึ่งในอนาคตสามารถขยายไปได้ถึง 950 ตร.ม. โดยถือว่าเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยจากทั้งหมด 5 สาขา โดยกลุ่มเป้าหมายได้แก่ กลุ่มเด็กนักเรียน นักศึกษาและวัยทำงานตอนต้น อายุประมาณ 16-30 ปี โดยใช้งบประมาณในการเปิดสาขาใหม่นี้ 50 ล้านบาท นายมิเชลกล่าวว่าในตอนนี้ มีนักเรียนสมัครเรียนกับสาขาซีคอน สแควร์ 200 คนแล้ว และได้ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2551 จะมีผู้สมัครเรียนที่สาขานี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 คน

พร้อมกันนี้ นายมิเชล ได้แจ้งผลการดำเนินงานตั้งแต่ไตรมาส 1/ 2551 จนถึงเดือนพฤษภาคมว่า มีนักเรียนสนใจสมัครเรียนกับวอลล์สตรีทถึง 4,000 คน โดยแบ่งเป็นนักเรียนที่เรียนในสาขาปกติ 3,000 คน และนักเรียนใน 6 องค์กรถึง 1,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในปี 2551 นี้ จะมีนักเรียนสมัครเรียนกับวอลล์สตรีทฯ ทุกสาขารวมกันทั้งหมด 8,000 คน และจากองค์กรอีก 2,000 คน ซึ่งลูกค้าในกลุ่มองค์กรนี้ ถือว่ามีการเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน

สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับการเปิดสาขาใหม่นั้น คุณอภิชัย ไชยวินิจ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดระดับภูมิภาคกล่าวว่า จากการสำรวจ พบว่าในใจกลางกรุงเทพฯ กลุ่มเป้าหมายมีการรับรู้แบรนด์วอลล์สตรีทถึง 80%เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่อยู่ที่ 60% “แต่สำหรับในย่านซีคอน สแควร์ ซึ่งเป็นฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ กลุ่มเป้าหมายมีการรับรู้แบรนด์เพียง 65% ซึ่งเราเองจะพยายามตั้งเป้าว่ากลุ่มเป้าหมายในย่านนี้จะต้องรับรู้แบรนด์วอลล์สตรีทฯ ถึง 80% ภายใน 3 เดือน” โดยวอลล์สตรีทจะทุ่มเงิน 10 ล้านบาทสำหรับการทำการตลาดในย่านซีคอน สแควร์นี้ เช่น ป้ายบิลล์บอร์ดและทำกิจกรรมต่างๆ กับกลุ่มเป้าหมาย

สำหรับแผนและกลยุทธ์ทางการตลาดของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษวอลล์สตรีทในปี 2551 นั้น เนื่องจากในปีนี้ วอลล์สตรีทฯ ได้ดำเนินการเป็นปีที่ 5 จึงได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ ที่ใช้ชื่อว่า “Fast Step to Success” ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงการเรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ซึ่งวอลล์สตรีทเองจะทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนให้นักเรียนสามารถพูดภาษาอังกฤษด้วยความมั่นใจเพื่อให้นักเรียนบรรลุความฝันในด้านการงาน โดยแคมเปญนี้จะใช้งบประมาณ 60 ล้านบาท
วอลล์สตรีทเป็นหนึ่งในสถาบันสอนภาษาชั้นนำระดับโลก ด้วยสถิติสอนนักเรียนกว่าล้านคนจากทั่วโลกตลอด 35 ปี และมีสาขากว่า 350 แห่งใน 26 ประเทศทั่วโลก ในแต่ละปีมีผู้สนใจเข้าเรียนภาษาอังกฤษกับทางวอลล์สตรีทกว่า 150,000 คนทั่วโลก ปัจจุบันสถาบันสอนภาษาวอลล์สตรีท ประเทศไทยมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 5 สาขา ตั้งอยู่บนทำเลที่ไปมาสะดวกทั้งสีลม, สุขุมวิท, ยูเนี่ยน มอลล์ ลาดพร้าว, สยาม ทาวเวอร์, เมเจอร์ ปิ่นเกล้า และซีคอน สแควร์