SCG-Dow Group เริ่มโครงการก่อสร้างโรงงานโพรพิลีนออกไซด์ ในประเทศไทย

บริษัท ดาว เคมิคอล (ดาว) ได้ประกาศว่า SCG-Dow Group บริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท ดาว เคมิคอล และเครือซิเมนต์ไทย (เอสซีจี) ได้เริ่มโครงการก่อสร้างโรงงาน โพรพิลีนออกไซด์ (PO) ในประเทศไทย โดยโรงงานตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย ใกล้มาบตาพุด ซึ่งโรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานผลิตโพรพิลีนออกไซด์ที่ใหญ่ระดับโลก มีกำลังการผลิตโพรพิลีนออกไซด์ถึง 390,000 ตันต่อปี โดยใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิต โพรพิลีนออกไซด์จากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (HPPO) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพิเศษที่ดาว ได้พัฒนาร่วมกับ บริษัท บีเอเอสเอฟ (บีเอเอสเอฟ) โรงงานโพรพิลีนออกไซด์แห่งใหม่รวมถึงโรงงานผลิตโพรพิลีนไกลคอล คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์และเริ่มการผลิตในปี 2554

ก่อนหน้านี้ ในเดือนกรกฎาคม ปีพ.ศ. 2550 ดาว และ บริษัท โซลเว่ย์ เอส. เอ. (โซลเว่ย์) ได้ประกาศความร่วมมือในการสร้างโรงงานไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (HP) แห่งใหม่ ซึ่งจะเป็นโรงงานผลิตไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสำหรับโรงงานผลิตโพรพิลีนออกไซด์แห่งใหม่นี้ โรงงานไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเอเชียเช่นเดียวกัน และจะเป็นโรงงานไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีกำลังการผลิตไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มากกว่า 330,000 ตันต่อปี (nameplate) (คิดที่ความเข้มข้น 100%) โดยใช้ขั้นตอนการผลิตที่เป็นลิขสิทธิ์และใช้เทคโนโลยีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่ให้ผลผลิตสูงของโซลเว่ย์ ซึ่งผลผลิตที่ได้นอกจากจะเป็นวัตถุดิบของโรงงานผลิตโพรพิลีนออกไซด์แห่งใหม่แล้ว ยังจะเป็นวัตถุดิบให้กับบริษัท เพอรอกซิไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของโซลเว่ย์อีกด้วย ทั้งนี้โรงงานดังกล่าวจะเริ่มกระบวนการผลิตก่อนที่โรงงานโพรพิลีนออกไซด์จะเปิดดำเนินการ

นาย แพท ดอว์สัน ประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์โพลียูริเทนของ ดาว กล่าวว่า “ดาวให้ความสนใจในธุรกิจแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นพิเศษ เป็นเพราะเศรษฐกิจที่มีอัตราการเติบโตมากกว่าสิบเปอร์เซ็นต์อย่างต่อเนื่อง แผนการก่อสร้างโรงงานต่างๆ ที่ดาวได้วางไว้ได้แสดงให้เห็นถึงแผนการลงทุนที่ชัดเจนในระยะยาวของบริษัท นอกจากนั้นโรงงานต่างๆ ยังมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของดาว เช่น ผลิตภัณฑ์โพลียูริเทน ซึ่งจะสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าของเรา ว่าเราสามารถจัดหาวัตุดิบคุณภาพสูงเพื่อให้เขาสามารถแข่งขันในตลาดได้ โดยดาวร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งอย่าง บีเอเอสเอฟ โซลเวย์ และเอสซีจี ในการสร้างโซลูชั่นในการผลิตโพรพิลีนออกไซด์ ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า ใช้พลังงานการผลิตน้อยลง และยังลดมลภาวะ ในขณะที่ยังคงสามารถผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตต่อไปได้”

ในปีพ.ศ. 2546 ดาว และ บีเอเอสเอฟ ได้เริ่มโครงการวิจัยร่วมกันในการพัฒนาและดำเนินธุรกิจ เทคโนโลยีผลิต โพรพิลีนออกไซด์จากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (HPPO) ซึ่งเป็นผลให้ทั้งสองบริษัทได้รวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้าด้วยกันเพื่อให้การผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเทคโนโลยี HPPO ที่ได้รับการพัฒนาร่วมกันและจะนำมาใช้ที่โรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมเอเชียนั้น โซลเว่ย์ให้การสนับสนุนในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตไฮโดร-เจนเปอร์ออกไซด์ และบีเอเอสเอฟจะให้การสนับสนุนในฐานะพันธมิตรในส่วนของเทคโนโลยีการผลิตโพรพิลีน-ออกไซด์ นอกจากความร่วมมือดังกล่าวแล้ว ดาวและบีเอเอสเอฟ จะยังเดินหน้าทำงานร่วมกันในข้อตกลงการแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบในระดับภูมิภาคเพื่อให้ตอบรับความต้องการผลิตภัณฑ์โพรพิลีนออกไซด์ของตลาดระดับโลกได้ ซึ่งคาดว่าจะทำการตกลงกันได้ในเร็ว ๆ นี้

วัตถุดิบสำหรับการผลิตของโรงงานโพรพิลีนออกไซด์จะมาจากโรงงานเอทธิลีนแคร็กเกอร์ ซึ่งเป็นโรงงานร่วมทุนของ ดาว และ เอสซีจี ที่มาบตาพุต โดยคาดว่าโรงงานนี้จะสร้างเสร็จในปีพ.ศ. 2553 โรงงานใหม่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย รวมถึงโรงงานโพรพิลีนออกไซด์ จะเป็นการดำเนินงานภายใต้ข้อตกลงร่วมกันระหว่างดาวและ เอสซีจี ด้วยเช่นกัน

โพรพิลีนออกไซด์ เป็นผลิตภัณฑ์เคมีอเนกประสงค์ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด อาทิ โพลียูริเทน โพรพิลีนไกลคอล และ ไกลคอล อีเธอร์

ประโยชน์ของเทคโนโลยีการผลิต โพรพิลีนออกไซด์ จากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (HPPO)
เมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีกระบวนการผลิต โพรพิลีนออกไซด์แบบดั้งเดิม เทคโนโลยี การผลิต โพรพิลีนออกไซด์จากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (HPPO) นั้นมีความแตกต่างและมีความโดดเด่นในส่วนหลักๆ 3 ส่วน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม และโอกาสในการเติบโตในอนาคต

ข้อดีทางด้านเศรษฐกิจ
โรงงานโพรพิลีนออกไซด์ใหม่ที่ใช้ เทคโนโลยี HPPO นั้นมีความคุ้มค่ามากกว่าเนื่องด้วย
• ใช้ต้นทุนในการก่อสร้างโรงงานน้อยกว่าถึง 25 เปอร์เซ็นต์
• ไม่จำเป็นต้องสร้างระบบพื้นฐานอื่นๆ เพิ่มเติม หรือการสร้างผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องอื่นๆ
• ใช้วัตถุดิบที่ซับซ้อนน้อยลง เพียงแค่ใช้ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ และ โพรพิลีน เป็นวัตถุดิบ

ข้อดีทางด้านสิ่งแวดล้อม
เทคโนโลยี HPPO จะช่วยพัฒนาสิ่งแวดล้อม ในวงการอุตสาหกรรมโพรพิลีนออกไซด์โดย
• สามารถช่วยลดปริมาณน้ำเสียถึงกว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับ เทคโนโลยีการผลิตโพรพิลีนออกไซด์ที่มีอยู่เดิม
• ลดการใช้พลังงานในการผลิตประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับ เทคโนโลยีการผลิตเดิม
• ลดความต้องการใช้ระบบพื้นฐาน และลดมลภาวะ ด้วยการใช้วัตถุดิบการผลิตที่ซับซ้อนน้อยลง
โอกาสในการเติบโต

เทคโนโลยี HPPO เพิ่มโอกาสในการเลือกทำเลที่ตั้งโรงงานใหม่ให้มากขึ้นโดย
• ลดความต้องการในการใช้วัตถุดิบที่ซับซ้อนและลดระบบพื้นฐานการผลิตที่เกี่ยวข้อง
• เลี่ยงการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น สไตรีนโมโนเมอร์ หรือ โพรพิลีน ไดโครไรด์ ซึ่งจะเป็นต้องใช้ โรงงานในการผลิตโพรพิลีนออกไซด์ แบบเดิมที่ต้องใช้ พื้นที่โรงงานที่กว้างขวาง และมีความซับซ้อนด้านระบบเคมี ซึ่งสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการผลิตอื่นๆ แทนได้

ข้อมูลเกี่ยวกับ ดาว โพลียูริเทน
ดาว โพลียูริเทน เป็นกลุ่มธุรกิจของ ดาว เคมิคอล ซึ่งเป็นผู้ผลิตโพรพิลีนออกไซด์ โพลิอีเทอร์โพลิออล และไอโซไซยาเนทส์ อาทิ MDI และ TDI ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของโพลิอีเทอร์โพลิออล ผลิตภัณฑ์โพลียูริเทนของดาว และโพลิออลผสม (fully formulated polyurethane systems) เป็นส่วนประกอบสำคัญในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่งานก่อสร้าง ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเรือน เครื่องนอน และส้นรองเท้า ไปจนถึงงานตกแต่ง อุปกรณ์กีฬา และอีกมากมาย ธุรกิจนี้ผลิตและทำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์โฟมชนิดแข็ง (rigid) ชนิดกึ่งแข็ง (semi-rigid) และชนิดยืดหยุ่น (flexible) วัสดุประสาน วัสดุอุดรอยรั่ว วัสดุเคลือบผิว ฯลฯ ดาวยังมีเทคโนโลยีล่าสุดในการผลิตโพลิออลด้วย RENUVA? Renewable Resource Technology และโพลิออล VORANOL? VORACTIV?ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทำให้ดาวกำลังดำเนินการไปสู่ความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่ป้อนผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงออกสู่ตลาด

สนใจข้อมูลเพิ่มเติม เชิญหาได้ที่ www.dowpolyurethanes.com www.dowpg.com www.dowpo.com www.pusystems.com www.dowrenuva.com และ www.voractiv.com

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับบริษัท ดาว เคมิคอล
ดาว เคมิคอล เป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย นอกจากนั้นยังใช้ความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อสร้างความก้าวหน้าในส่วนที่มีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ชาติอย่างไม่หยุดยั้ง โดยมียอดจำหน่ายกว่า 54,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี มีพนักงานมากกว่า 46,000 คนทั่วโลก บริษัทฯ เป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และให้บริการในกว่า 160 ประเทศทั่วโลก ด้วยหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน และมีส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้าของเรามีประสิทธิภาพในการผลิตและจัดจำหน่ายสิ่งต่างๆ ตั้งแต่น้ำสะอาด อาหาร และเภสัชภัณฑ์ ไปจนถึงสีทาบ้าน หีบห่อบรรจุภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลสุขอนามัย การอ้างถึง บริษัท ดาว หรือ บริษัทฯ ในที่นี้กล่าวรวมถึง บริษัท ดาว เคมิคอล และ บริษัทในเครือ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บริษัท ดาว เคมิคอล ได้ที่ www.dow.com

เกี่ยวกับ SCG-Dow Group
SCG-Dow Group เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง เครือซิเมนต์ไทย กับบริษัท ดาว เคมิคอล ที่ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2530 กลุ่มบริษัทประกอบด้วยบริษัทร่วมทุนจำนวน 4 บริษัท ซึ่งทำการผลิตและจัดป้อนผลิตภัณฑ์ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้แก่ สไตรีนโมโนเมอร์ สไตรีนบิวเทไดอีน-เลเทกซ์ โพลิเอททีลีน และโพลีสไตรีนและสารประกอบที่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับเครื่อซิเมนต์ไทย (เอสซีจี)
เอสซีจี เป็นกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยซึ่งประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจที่สำคัญ ได้แก่ ธุรกิจเคมีภัณฑ์ ซิเมนต์ กระดาษ ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และจัดจำหน่าย กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ เป็นหนึ่งในผู้นำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และให้บริการสินค้าแก่ลูกค้าทั่วโลก ปัจจุบัน เอสซีจี ได้ขยายธุรกิจเคมีภัณฑ์ ไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นที่การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งด้านสินค้า บริการ กระบวนการทำงาน ตลอดจนรูปแบบธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก
www.scg.co.th