วีไวต์ ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท เปิดศึกครั้งใหญ่ ส่งผลิตภัณฑ์ชุดใหม่ของ วีไวต์ ไวท์เทนนิ่ง สูตรไวท์แอนด์ดราย 4 IN 1 ทั้งในรูปแบบ โรลออน, ดีโอ สเปรย์ และ ผลิตภัณฑ์ใหม่ดีโอ สติ๊ก เข้าร่วมชิงชัยในตลาดระงับกลิ่นกายกลุ่มผู้หญิง ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 2 ของทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ พร้อมดึงดาราสาวเซ็กซี่ที่มีดีกรีความร้อน สุดฮอตแห่งปี ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ร่วมตอกย้ำศักยภาพของแบรนด์วีไวต์ ที่โดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจนในเรื่องของความขาวของผิวใต้วงแขนภายใน 4 สัปดาห์ (Whitening) ด้วยส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ (Natural Extracts) ที่ไม่ระคายเคืองต่อผิวขาวใต้วงแขนให้แข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังได้ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ (Innovative Product) อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านคุณสมบัติของตัวผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความแห้งเร็ว ไม่เป็นคราบ และปกป้องนานตลอด 24 ชม. พร้อมนำเสนอ รูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ และการใช้งาน เพื่อผิวขาวใต้วงแขนครอบคลุมทุกความต้องการของผู้หญิงสมัยใหม่ ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปี วีไวต์จะสามารถเติบโตได้เพิ่มขึ้นอีก 40 % โดยเฉพาะในกลุ่มดีโอ สติ๊ก ขนาด 10 g. ซึ่งนับว่าเป็นกลุ่มที่มีความเคลื่อนไหวทางการตลาดสูงสุดในรอบปีที่ผ่านมาถึง 137 % และวีไวต์ตั้งเป้าส่วนแบ่งทางการตลาดในช่วงแรกของการเปิดตัวไว้ประมาณ 15 %
นางสาวศิริสุภา ยิ่งเจริญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไบโอ คอนซูเมอร์ จำกัด เปิดเผยว่า “ จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมาของการประกาศจุดยืนความเป็นผู้เชี่ยวชาญการดูแลผิวใต้วงแขนสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ด้วยรูปแบบของกิจกรรมการตลาดและสื่อโฆษณาเชิงรุก ทั้ง Above the Line และ Below the Line ครบทุกรูปแบบ(IMC) เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้น และการนำคุณสมบัติที่โดดเด่นของผลิตภัณฑ์วีไวต์ ในเรื่องของ Whitening และ ส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ (Natural Extracts) ที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคือง เพื่อความขาวเรียบเนียนของผิวใต้วงแขน ครอบคลุมทุกความต้องการการดูแลผิวที่แตกต่างกัน ออกสู่ตลาดทั้งในกลุ่ม ดีโอ สเปรย์ และโรลออน รวมถึง Soothing Lotion ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเพื่อลดการระคายเคืองหลังการกำจัดขน ใต้วงแขน เพื่อบำรุง และฟื้นฟูสภาพผิว ให้รูขุมขนกระชับ เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ส่งผลให้แบรนด์ วีไวต์ มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกความต้องการของผิวขาวใต้วงแขน เป็นรายแรก
สำหรับในปีนี้ เพื่อตอบรับกับภาวะเศรษฐกิจ และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มนักศึกษา จนถึงสาวทำงาน หรือที่มีอายุตั้งแต่ 18 – 25 ปีขึ้นไป ที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการให้ความสำคัญต่อศักยภาพของผลิตภัณฑ์ทั้งคุณสมบัติของสินค้า ขนาด และราคาที่เหมาะสมเพิ่มมากขึ้นรวมถึงรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามเหมาะต่อการใช้ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชุดใหม่ ที่พัฒนาส่วนผสมให้มีคุณสมบัติ ที่ทำให้ผู้ใช้แห้งสบาย ไม่เหนอะหนะในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งไม่เป็นคราบ พร้อมกลิ่นหอมสดชื่นติดทนนาน สามารถระงับกลิ่นกายได้นานตลอด 24 ชั่วโมงและขาวขึ้นภายใน 4 สัปดาห์ โดยปราศจากแอลกอฮอล์ ซึ่งได้แก่ วีไวต์ ไวท์เทนนิ่ง สูตร ไวท์แอนด์ดราย 4 IN 1 ทั้งใน
รูปแบบ โรลออน, ดีโอ สเปรย์ และ ดีโอ สติ๊ก ออกวางจำหน่ายในปีนี้ ประกอบด้วย
1. วีไวต์ ไวท์แอนด์ดราย 4 IN 1 ดีโอ สติ๊ก ขนาด 20 กรัม
2. วีไวต์ ไวท์แอนด์ดราย 4 IN 1 มินิ สติ๊ก ขนาด10 กรัม
3. วีไวต์ ไวท์แอนด์ดราย 4 IN 1 โรลออน ในขวดแก้ว ขนาด 25 และ 45 มิลลิลิตร
4. วีไวต์ ไวท์แอนด์ดราย 4 IN 1 ดีโอ สเปรย์ ขนาด 65 มิลลิลิตร
การเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ นอกจากจะส่งผลให้วีไวต์เป็นแบรนด์สินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ครอบคลุมทุกความต้องการของสุขภาพผิวใต้วงแขนที่ดีแล้ว ยังเป็นครั้งแรก ที่วีไวต์ ปรับแพคเกจจิ้งในกลุ่มของโรลออน ออกวางจำหน่ายในรูปของขวดแก้ว และนำ ดีโอ สติ๊ก ในขนาด 10 g. และ 20 g. ออกสู่ตลาด เนื่องจากในปีที่ผ่านมา ดีโอ สติ๊ก ทั้ง 2 ขนาดนี้ นับเป็นสินค้าในกลุ่ม Consumer Product ที่มีการเคลื่อนไหว และยอดการเติบโตสูงสุด ซึ่งสอดรับกับแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของไบโอ คอนซูเมอร์ ที่มีความชำนาญ ในการทำตลาดเฉพาะเจาะกลุ่ม จากที่มีการประมาณการไว้ว่าตลาดระงับกลิ่นกายผู้หญิงโดยรวมจะเติบโตขึ้นอีกประมาณ 11% ซึ่งมาจากการผลักดันตลาดของเซกเม้นต์ ดีโอ สติ๊ก ที่มีการเติบโตสูงถึง 93 % โดยแบ่งเป็นกลุ่ม 10 g.ประมาณ 137 % และกลุ่ม 20 g. อีกประมาณ 72 % ทั้งจากเจ้าตลาดและ วีไวต์ ผู้เล่นใหม่ ที่น่าจะเติบโตร่วมกันได้ และผลักดันให้ตลาดโตยิ่งขึ้นอีกในปีนี้ นั้น นางสาวศิริสุภากล่าวและเพิ่มเติมว่า วีไวต์ จึงยังคงให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ทางการตลาดครบทุกรูปแบบทั้ง Above the line และ Below the line ในลักษณะ Full Marketing Campaign ด้วยงบประมาณการตลาดกว่า 100 ล้านบาท โดยมอบหมายให้บริษัทนู้ด คอมมิวนิเคชั่น จำกัด เป็นผู้ดูแลสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทั้งหมด โดยแบ่งเป็นภาพยนตร์โฆษณา 30 sec. และ 15 sec. และ Spot วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงสื่อโฆษณาที่เจาะเฉพาะกลุ่ม และที่ผ่านระบบเครือข่าย on line ในรูปแบบต่าง ๆ โดยในปีนี้ วีไวต์ยังได้นำดาราสาวที่มีดีกรีร้อนแรงที่สุดแห่งปี ที่กำลังได้รับการกล่าวขวัญอย่างสูงสุดในขณะนี้คือ ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ที่นอกจากจะเป็นดาราสาวที่มีความสวยงามโดยเฉพาะวงแขนที่เรียวกระชับได้สัดส่วน ประกอบกับผิวใต้วงแขนที่ขาวเรียบเนียน ที่เป็นที่สนใจของสาวสมัยใหม่เป็นอย่างมากแล้ว บุคลิกที่มีความมั่นใจในการอวดผิวขาวใต้วงแขนของชมพู่ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ วีไวต์ ไวท์เทนนิ่ง ดีโอ สติ๊ก ยังสะท้อนคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ให้แข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นด้วย เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งขันในตลาด
จากผลการตอบรับตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาหลังจากที่เราทดลองนำสินค้าออกวางจำหน่ายในช่องทางการจัดจำหน่ายต่างๆ ส่งผลให้ทางบริษัทต้องปรับแผนงานและเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีกถึง 50% จึงทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดของกลุ่มใหม่นี้ได้ไม่ต่ำกว่า 15 % จากมูลค่าตลาดประมาณ 441 ล้านบาท โดยมีเรโซน่าครองส่วนแบ่งอยู่ประมาณ 91 % และนีเวีย ประมาณ 7.4 % และมั่นใจว่าการเติบโตของวีไวต์ ในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 40 % ที่มากกว่าตลาดรวมที่มีการเติบโตเพียง 11% และสามารถแชร์ส่วนแบ่งทางการตลาดได้เป็นอันดับที่ 2 ของทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ในปีนี้ “นางสาวศิริสุภา กล่าวสรุป”