ให้ความรัก ให้การประกันชีวิต ในวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 9

นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ ประธานคณะกรรมการจัดงานวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 9 ขอเชิญชวนประชาชนไปร่วมงานวันประกันชีวิตแห่งชาติ สนุกสนานกับศิลปิน มินิคอนเสิร์ต บี้เดอะสตาร์ โฟร์-มด บีม(ดี 2 บี) และวง K-OTIC พร้อมร่วมกิจกรรมสาธารณกุศล ด้วยการทำบุญเพียง 9 บาท เพื่อรับบริการตรวจสุขภาพ และซื้อยาสามัญประจำบ้านมอบให้กับผู้ประสบภัย ซึ่งจัดขึ้นที่ชั้น G ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ในวันที่ 26-27 กรกฎาคม 2551 และร่วมบริจาคโลหิต ที่สภากาชาดไทย ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2551

นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ คณะกรรมการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทย ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการจัดงานวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 9 เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมตัวแทนประกันชีวิต ได้ร่วมกันกำหนดให้วันที่ 31 กรกฎาคมของทุกปีเป็น วันประกันชีวิตแห่งชาติ และกำหนดคำขวัญวันประกันชีวิตแห่งชาติไว้ว่า “มากคุณค่ากว่าที่คิด ประกันชีวิตเพื่อคนไทย” โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ จะร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการประกันชีวิตให้เป็นที่รู้จักแก่สาธารณชน รณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปตระหนักถึงความสำคัญและสนใจทำประกันชีวิตมากขึ้น รวมทั้งรวมพลังสามัคคีของบุคคลากรในธุรกิจประกันชีวิต

สำหรับการจัดงานวันประกันชีวิตแห่งชาติครั้งที่ 9 (พ.ศ.2551) นี้ อยู่ภายใต้แนวความคิด “ให้ความรัก…ให้การประกันชีวิต” กำหนดจัดขึ้นที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ชั้น G ในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 26-27 กรกฎาคม 2551 โดยเชิญรัฐมนตรีว่าการะทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ภายในงานจะมีการจัดนิทรรศการและออกบูธของบริษัทประกันชีวิตต่างๆ รวมทั้งบูธของ 3 องค์กรที่เป็นผู้จัดงาน มีการแสดงมินิคอนเสิร์ตของบี้ เดอะสตาร์ โฟร์-มด บีม(ดี 2 บี) และวง K-OTIC ฯลฯ และเกมต่างๆ ทั้ง 2 วันประชาชนที่เข้าชมงานจะมีโอกาสรับของที่ระลึกต่างๆมากมาย นอกจากนี้ ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2551 ซึ่งเป็นวันประกันชีวิตแห่งชาติจริง สมาคมจะจัดบุคลากรในธุรกิจประกันชีวิตเข้าร่วมบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทยไม่ต่ำกว่า 700 คน

นอกจากนี้ในงานที่จัดขึ้นที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คนั้น มีการจัดกิจกรรมการกุศลด้วย โดยเน้นในด้านการส่งเสริมสุขภาพของคนไทย ซึ่งจะแบ่งกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนส่งเสริมสุขภาพของผู้มาเยี่ยมชมงาน และส่วนส่งเสริมสุขภาพของผู้อื่นที่ประสบภัยพิบัติ

ในส่วนกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพของผู้มาเยี่ยมชมงาน ผู้มาเยี่ยมชมงานท่านใดบริจาคเงินเพียง 9 บาท จะได้รับการตรวจสุขภาพ อาทิ การวัดความดันโลหิต ดัชนีมวลรวมของร่างกาย ความแข็งแรงของปอด ปริมาณไขมันในร่างกาย น้ำตาลในเลือด ความหนาแน่นของกระดูก ตรวจวัดสายตา และทันตกรรม จากโรงพยาบาลเปาโลและโรงพญาบาลศรีสยามเป็นการตอบแทน ทั้งนี้ สมาคมประกันชีวิตไทยจะบริจาคเงินสมทบอีก 81 บาท รวมเป็น 90 บาท/คน แล้วจะนำเงินที่ได้รับบริจาคจากทั้งสิ้น โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ
มอบให้กับมูลนิธการกุศลต่างๆต่อไป

ในส่วนกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพของผู้อื่น จะแบ่งกิจกรรมเป็น 2 ประเภท คือ

1. การเชิญชวนให้คนไทยร่วมซื้อยาสามัญประจำบ้านขององค์การเภสัชกรรม เพื่อมอบให้แก่ผู้ ประสบภัยต่างๆทั่วประเทศ โดยผู้ที่ร่วมบริจาคจะได้รับสติกเกอร์เพื่อเขียนข้อความให้กำลังใจผู้ประสบภัยและชื่อ-ที่อยู่ของผู้บริจาค ติดไว้ที่หน้ากล่องยา ซึ่งสมาคมประกันชีวิตไทยจะบริจาคเงินสมทบด้วย และจะนำเงินบริจาคโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นรวมทั้งยาสามัญประจำบ้านดังกล่าว มอบให้แก่ผู้ประสบภัยผ่านทางมูลนิธิการกุศลต่างๆ

2. การร่วมบริจาคโลหิตให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย สมาคมจะชักชวนบุคลากรในธุรกิจประกันชีวิตและประชาชนทั่วไป ร่วมบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2551 ซึ่งตรงกับวันประกันชีวิตแห่งชาติ คาดว่าในวันดังกล่าวจะมีผู้ไปบริจาคโลหิตไม่น้อยกว่า 700 คน

นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพิ่อให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าและประโยชน์ของการประกันชีวิตอย่างแพร่หลาย คณะกรรมการจัดงานวันประกันชีวิตแห่งชาติจึงได้รณรงค์ให้ทำกิจกรรมในส่วนภูมิภาคในวันที่ 31 กรกฎาคม 2551 หรือวันใกล้เคียงด้วย โดยในส่วนภูมิภาคจะจัดให้มีนิทรรศการและจัดกิจกรรมสาธารณกุศล รวม 11 จังหวัด คือ เชียงใหม่ พะเยา เลย ขอนแก่น อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรีนครปฐม เพชรบุรี นครศรีธรรมราช และสงขลา ซึ่งการจัดงานประกันชีวิตในปีนี้ ผู้เข้าร่วมงานนอกจากจะได้รับความสนุกและบันเทิงแล้ว จะได้ตระหนักถึงประโยชน์ของการประกันชีวิต และได้ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมและการกุศลด้วย

ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในส่วนภูมิภาคติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ชมรมตัวแทนประกันชีวิตของจังหวัดนั้นๆ ในส่วนกลางขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายตัวแทนสัมพันธ์ สมาคมประกันชีวิตไทยโทรศัพท์ 02 287 4596-8 ต่อ 117 และ123