โตโยต้า ทูโช ผู้นำในตลาดรถยก “โตโยต้า” จัดเคมเปญครบรอบ 50 ปี ซื้อรถยกโตโยต้าชิงรางวัลนับล้านบาท หวังครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในเอเชียภายในปี 2010 พร้อมขยายสาขา รองรับการให้บริการทุกภาคอุตสาหกรรม
มร.มาซาบุมิ คาตายามะ รองผู้จัดการฝ่ายยานยนต์อุตสาหกรรม บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยถึงการดำเนินกิจการในประเทศไทยครบรอบ 50 ปี ของฝ่ายยานยนต์อุตสาหกรรมของโตโยต้า ทูโช ซึ่งทำตลาดรถยก (Forklift) แบรนด์ “โตโยต้า” จึงได้จัดเคมเปญพิเศษครบรอบ 50 ปี เพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้า และสร้างการรับรู้ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของรถยกโตโยต้า โดยลูกค้าที่ซื้อรถยกโตโยต้า ซีรี่ส์ 8 ทุกรุ่น ตั้งแต่วันนี้-30 ธันวาคม 2551 จะได้รับคูปองชิงโชคของรางวัลกว่า 50 รางวัล โดยมีรางวัลที่ 1 เป็นรถยนต์ โตโยต้ายาริส นับว่าเป็นเคมเปญการตลาด รถยกที่ยิ่งใหญ่ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของโตโยต้า ทูโช
ทั้งนี้ รถยกโตโยต้า ซีรี่ส์ 8 ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมทุกประเภท เพราะในรุ่น ซีรี่ส์ 8 ได้มีการพัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง โดยยึดหลักความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการขับขี่เป็นอันดับแรก ด้วยเทคโนโลยีระบบ SAS หรือระบบการควบคุมการทรงตัวอัจฉริยะ ที่จะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ โดยระบบจะทำหน้าที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวของรถยก และล็อคชุดเพลาหลังกันเหวี่ยงเป็นการเพิ่มความสามารถการทรงตัว เช่น ขณะเลี้ยวหรือยกสินค้าที่มีความสูงสุดของระดับเสา ยังมีชุดควบคุมฟังก์ชั่นเสาเพื่อเน้นความปลอดภัยยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีระบบ OPS หรือ ระบบตรวจจับคนขับประจำที่นั่ง และระบบควบคุมการวิ่งและยก ที่จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่และสินค้า โดยมีไฟและสัญญาณดังขึ้นเพื่อช่วยเตือนแกนทิศทางที่ไม่ได้ถูกปรับกลับสู่ตำแหน่งตรงกลาง ขณะเดียวกันหากผู้ขับไม่อยู่ในตำแหน่งทำงานปกติระบบไฟจะถูกรบกวนการยกจะหยุดทันทีเพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวที่ไม่ได้ตั้งใจ
มร.มาซาบุมิ กล่าวว่า โตโยต้า ทูโช คำนึงถึงการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพใน รถยกอย่างต่อเนื่อง โดยมี Toyota Industries Corp. หรือ TICO ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่พัฒนาระบบและผลิตรถยกโตโยต้าเข้ามาทำตลาดในเอเชีย ทั้งนี้ตลาดรวมรถยกมีจำนวนที่ 5,000 – 6,000 คันต่อปี ขณะที่รถยกโตโยต้ามีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งในตลาดเมืองไทยที่ 30% และเป็นลำดับที่สองในระดับเอเชีย โดยมีประเทศมาเลเซียครองอันดับหนึ่ง 45%
“เป้าหมายของเราในปี 2010 มั่นใจว่าต้องเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย เพราะประเทศไทยยังเป็นตลาดใหญ่ แต่เราจะไม่ลงไปแข่งขันในเรื่องราคาเหมือนกับคู่แข่งรายอื่นๆ ที่ใช้กลยุทธ์นี้ในการทำตลาด เราเลือกใช้กลยุทธ์เรื่องคุณภาพ และความปลอดภัยเป็นหลัก เพราะถ้าเรากระโดดมาเล่นเรื่องราคา ผมคิดว่าตลาดรถยกคงกระทบกระเทือนแน่นอน”
“อย่างไรก็ตามลูกค้าส่วนใหญ่อาจให้ความสำคัญทั้งเรื่องคุณภาพ และราคาควบคู่กัน ขณะที่อุตสาหกรรมบางแห่งก็เน้นเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่งมากกว่ามองเรื่องราคา”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้เน้นหนักการทำตลาดเฉพาะจังหวัดในภาคกลางและภาคใต้ โดยปัจจุบันมีสาขารวม 13 แห่ง ในปีนี้จึงมีแผนการขยายฐานธุรกิจเพื่อทำตลาดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น นครราชสีมา ขอนแก่น และอุบลราชธานี ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็น อุตสาหกรรมการเกษตร และภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น
“เราพยายามขยายสาขาให้มากขึ้น ซึ่งการเปิดสาขาแต่ละแห่งต้องมีความพร้อมทั้งเรื่องบุคลากรเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิค ต้องมีการสต๊อกอะไหล่ เพื่อให้บริการลูกค้าได้รวดเร็ว โดยมีการรับประกันรถยกโตโยต้า ที่ 1,200 ชั่วโมง นอกจากนี้เรายังมีการเทรนนิ่งให้ความรู้เรื่องการใช้งานรถยกอย่างถูกวิธีด้วย เพราะลูกค้าบางรายนำรถยกมาใช้ลากหรือดึงสินค้า ซึ่งเป็นการใช้รถยกที่ผิดวิธี”
“ขณะเดียวกันเรายังมีการทำตลาดเช่ารถยกโตโยต้า ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอีกมาก เพราะช่วยประหยัดต้นทุน และตัดปัญหาเรื่องการดูแลรักษาของลูกค้า” มร.มาซาบุมิ กล่าว