ภาพรวมเศรษฐกิจไทยไม่หวือหวา แต่โลจิสติกส์และอุตสาหกรรมยังขยายตัวดี

สยามกลการอุตสาหกรรม ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยูนิแคริเออร์ ฟอร์คลิฟท์ (UniCarriers forklift) อย่างเป็นทางการ ชี้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยไม่หวือหวา แต่โลจิสติกส์และอุตสาหกรรมยังขยายตัวดี รับอานิสงส์รัฐ-เอกชนเดินหน้าลงทุนชูจุดยุทธศาสตร์ดันไทยเป็นฮับ หลังเปิด AEC กางแผนปี 2559 รุกทำตลาดรถฟอร์คลิฟท์ในประเทศ เจาะอุตสาหกรรมและคลังสินค้าเน้นงานบริหารโครงการขนส่งเคลื่อนย้ายในคลังสินค้าแบบครบวงจรสร้างมูลค่าเพิ่มจากงานบริการเพื่อความคุ้มค่าของลูกค้า ตั้งเป้ายอดขายปี ’59 แตะ 900 คัน หนุนรายได้โต 1,500 ล้าน

นายประธานวงศ์ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามกลการอุตสาหกรรม จำกัด หนึ่งในผู้นำธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายรถยก ยูนิแคริเออร์ ฟอร์คลิฟท์ (UniCarriers Forklift) ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก พร้อมบริการงานขนส่งเคลื่อนย้ายภายในคลังสินค้า-โรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศจะไม่ขยายตัวแบบหวือหวามากนัก แต่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ยังทรงตัวอยู่ได้ เนื่องจากยังมีความต้องการในประเทศมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งที่ใช้บริการขนส่งเคลื่อนย้ายภายในประเทศและส่งออกต่างประเทศจึงถือเป็นการผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางระบบโลจิสติกส์การค้าครบวงจรระดับภูมิภาค ทั้งนี้คาดว่าภาพรวมการลงทุน การขยายตัวของธุรกิจโลจิสติกส์ในภาคการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากในปีนี้ภาครัฐจะมีการขับเคลื่อนการลงทุนในเมกะโปรเจกต์ต่างๆจำนวนหลายโครงการ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคเอกชนเกิดการลงทุนใหม่ๆ หรือขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน

ขณะเดียวกันมองว่าการเปิด AEC จะทำให้เกิดความคึกคักด้านการลงทุนจากต่างชาติที่จะเข้ามาในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น แม้ว่าการลงทุนที่เกิดขึ้นนั้นอาจไม่ได้เกิดในประเทศโดยตรง แต่ไทยยังถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการขนส่งและโลจิสติกส์ที่ต้องใช้เป็นเส้นทางผ่าน หรือการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตและกระจายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

“การขยายตัวของธุรกิจโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมดังกล่าว ถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทในการขยายฐานลูกค้าและการให้บริการ โดยบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ด้านการขายและบริการในทุกๆด้านแบบครบวงจร โดยเน้นการให้คำแนะนำหรือร่วมกับลูกค้าสร้างระบบ รูปแบบ การจัดการงานเคลื่อนย้ายสินค้าในคลังสินค้า-โรงงานอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความสูญเสียในพื้นที่การทำงาน ควบคุมการเคลื่อนย้ายอย่างมืออาชีพ ลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น สามารถกำหนดวันและเวลาที่ชัดเจนได้ รวมไปถึงการสร้างบริการหลังการขายที่ดี ทั้งนี้เชื่อว่ารูปแบบที่ขายและบริการแบบครบวงจรจะสามารถลดความเสี่ยงของลูกค้าได้ในระยะยาว”นายประธานวงศ์ กล่าว

อีกทั้งบริษัทเตรียมความพร้อมเปิดศูนย์บริการเพิ่มอีก 2-3 สาขา อาทิ ปราจีนบุรี พระราม 2 เป็นต้น จากเดิมมี 4 สาขา ประกอบด้วย ศรีนครินทร์ (สำนักงานใหญ่) ปทุมธานี(คลองหลวง) ระยอง และนครราชสีมา และศูนย์บริการเคลื่อนที่ (Mobile Service) ประกอบด้วย อุดรธานี นครปฐม และเชียงใหม่ ตัวแทนจำหน่ายปัจจุบัน ประกอบด้วย สงขลา(หาดใหญ่) นครศรีธรรมราช(ทุ่งสง) และสุราษฎร์ธานี ขณะเดียวกันมีแผนทำตลาดบริการใหม่ๆ เช่น การควบคุมเครน ควบคู่ไปกับแผนพัฒนาบุคลากรทั้งช่างบริการและนักขับรถฟอร์คลิฟท์ให้มีความเชี่ยวชาญเพียงพอต่อความต้องการใช้งานของลูกค้าและการเติบโตของตลาดในอนาคตอย่างต่อเนื่อง

นายสยาม ก้องภักดีสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามกลการอุตสาหกรรม จำกัด เปิดเผยว่าปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นตลาดรถฟอร์คลิฟท์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความต้องการในการใช้รถใหม่ไม่ต่ำกว่า 9,000 คันต่อปี รองลงมาคือ อินโดนีเซีย และเวียดนาม เนื่องจากมีนักลงทุนต่างประเทศเข้าไปลงทุนในภาคผลิตต่างๆมากขึ้น ทำให้มีการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ รูปแบบธุรกิจของบริษัทมีทั้งการขายรถโฟล์คลิฟท์ ใหม่-เก่า, บริการให้เช่ารถโฟล์คลิฟท์ ใหม่-เก่า, การเช่ารถโฟล์คลิฟท์พร้อมนักขับ และบริการเคลื่อนย้ายสินค้าภายในคลังสินค้า-โรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจร ซึ่งที่ผ่านมาบริการด้านต่างๆของบริษัทได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ปัจจุบันสัดส่วนพอร์ตรถเช่าอยู่ที่ 70% และรถขาย 30%

“ในปีนี้เราคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ 900 คัน หรือคิดเป็น 1,500 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการใช้รถฟอร์คลิฟท์ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องส่วนปี ‘58 บริษัทฯทำรายได้รวมมากกว่า 1,400 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทจะเดินหน้าสร้างมูลค่าเพิ่มจากงานบริการเป็นหลัก โดยมองว่าเป็นการสร้างความคุ้มค่าให้กับลูกค้า และรักษาระดับการเติบโตของอัตรากำไรของบริษัทได้ดีอย่างต่อเนื่อง” นายสยาม กล่าว