กสิกรไทยจัดแคมเปญใหญ่สินเชื่อเอสเอ็มอี ปล่อยกู้ “ฟรีดอก ปลอดต้น” นาน 3 เดือน

กสิกรไทยลั่นกลองรุกสินเชื่อเอสเอ็มอี จัดแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปลายปี ออกแคมเปญฟรีดอกปลอดต้น 3 เดือน ตั้งเป้าปล่อยกู้เพิ่ม 8,700 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปีครองส่วนแบ่งตลาด 27% ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของสินเชื่อเอสเอ็มอี

นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยเตรียมรุกใหญ่สินเชื่อเอสเอ็มอีในช่วงปลายปี ด้วยการจัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อกระตุ้นยอดสินเชื่อ สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อมที่มียอดขายต่อปีไม่เกิน 50 ล้านบาท ที่ขอสินเชื่อตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2551 จะได้รับข้อเสนอพิเศษ ฟรีดอกปลอดต้น 3 เดือน ซึ่งลูกค้าจะปลอดภาระการผ่อนชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 3 เดือนแรก

ทั้งนี้ ลูกค้าที่จะเข้าร่วมแคมเปญฟรีดอกปลอดต้น 3 เดือน ต้องเป็นลูกค้าที่ขอสินเชื่อประเภทเงินกู้แบบมีหลักประกัน โดยที่ลูกค้าสามารถเลือกประเภทของเงินกู้ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้แบบปกติ เงินกู้ของสินเชื่อโครงการพิเศษ ได้แก่ สินเชื่อระยะยาวเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี กสิกรไทย (K-SME EXTEND) สินเชื่อเกินหลักทรัพย์ค้ำประกันกสิกรไทย (K-Max) สินเชื่อค้าคล่องเต็มร้อย กสิกรไทย (K-100% Credit) หรือสินเชื่อระยะยาวเสริมสภาพคล่องกสิกรไทย (K-Flexible Term Loan) ที่ได้รับอนุมัติวงเงินกู้ตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป

นายปกรณ์ กล่าวว่า ข้อเสนอพิเศษของแคมเปญนี้ จะช่วยลดภาระการผ่อนชำระคืนธนาคาร และช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ นอกจากนี้ธนาคารกสิกรไทยมั่นใจว่า ด้วยรูปแบบของสินเชื่อที่มีความหลายหลากตรงความต้องการของลูกค้า การพิจารณาสินเชื่อที่รวดเร็วภายใน 3 วัน หลังจากนั้นรับเงินภายใน 7 วัน มีระยะเวลาการผ่อนชำระที่ยาวนานที่สุดถึง 10 ปี ให้วงเงินสินเชื่อที่สูงสุดถึง 150% ของมูลค่าหลักประกัน รวมทั้งการจัดแคมเปญฟรีดอกปลอดต้น 3 เดือน น่าจะเป็นเงื่อนไขการขอกู้สินเชื่อเอสเอ็มอีที่ดีที่สุดในตลาดขณะนี้ และจะเป็นแรงจูงใจให้ลูกค้าเอสเอ็มอีทั้งที่เป็นลูกค้าเดิมและลูกค้าของธนาคารอื่นเลือกใช้บริการ สินเชื่อของธนาคารกสิกรไทย โดยคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อในแคมเปญนี้ได้ประมาณ 8,700 ล้านบาท

ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อมประมาณ 2.1 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยประมาณ 4 แสนราย ณ สิ้นเดือนสิงหาคมธนาคารมียอดสินเชื่อของผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อมประมาณ 116,000 ล้านบาท โดยคาดว่าปีนี้จะสามารถปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่แล้ว 20% ทำให้มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 27% ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของตลาด และในปีหน้าตั้งเป้าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดขึ้นเป็น 30%