จากภาพ : นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ (ซ้าย) รองผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฝ่ายการตลาดต่างประเทศ มอบรางวัล การประชุมและนิทรรศการดีเด่นประจำปี 2549 – 2550 แก่บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้สนับสนุนด้านสถานที่และการบริการยอดเยี่ยม ในการจัดงาน ไทยเฟค – เวิลด์ ออฟ ฟู้ด เอเชีย 2550 และงานเฮอร์บาไลฟ์ เอเชีย-แปซิฟิก เอ็กตร้าวาแกนซ่า 2549 โดยมี นาย ลอย จูน ฮาว ผู้จัดการทั่วไป ของบริษัทฯ เป็นตัวแทนรับมอบ ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์
อิมแพ็คฯ ปลื้ม 2 รางวัล “การประชุมและนิทรรศการดีเด่นประจำปี 2549 – 2550” รับมอบจากสมาคมส่งเสริมเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ ทิก้า จากการจัดงานไทยเฟค – เวิลด์ ออฟ ฟู้ด เอเชีย 2550 และงานเฮอร์บาไลฟ์ เอเชีย-แปซิฟิก เอ็กตร้าวาแกนซ่า 2549 ตอกย้ำภาพ การเติบโตของอิมแพ็คฯ และสอดรับนโยบายของภาครัฐ
นายลอย จูน ฮาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า “สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ทิก้า) ได้พิจารณาตัดสินรางวัล “การประชุมและนิทรรศการดีเด่นประจำปี 2549 – 2550” ซึ่งมอบให้กับกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรม MICE โดยพิจารณาจากองค์ประกอบจำนวนผู้เข้าร่วมงาน รายได้จากการจัดงาน ความพร้อมของทีมงานและสถานที่ ตลอดจนถึงความโดดเด่น ของรูปแบบการจัดงาน และผลตอบรับจากผู้เข้าร่วมงานนั้นๆ โดยศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ได้รับรางวัล 2 ประเภท ได้แก่ รางวัล Business Trade Exhibition Award จากการจัดงานไทยเฟค – เวิลด์ ออฟ ฟู้ด เอเชีย 2550 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 และรางวัล Incentive Travel Award จากการจัดงาน
เฮอร์บาไลฟ์ เอเชีย-แปซิฟิก เอ็กตร้าวาแกนซ่า 2549 ซึ่งเป็นงานสัมมนาสมาชิกธุรกิจ เฮอร์บาไลฟ์ ภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก เมื่อเดือนมิถุนายน 2549 โดยทั้ง 2 งานจัดที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี”
นายลอย กล่าวว่า “แนวโน้มอุตสาหกรรม MICE มีความก้าวหน้ามากขึ้น จากการที่มีนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เดินทางเข้ามาประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากทุกปี โดยเป็นกลุ่มที่มาจากการจัดประชุม การจัดนิทรรศการ หรือการท่องเที่ยว โดยกิจกรรมเหล่านี้จะทำให้เกิดการลงทุน และมีเม็ดเงินสะพัดเข้าประเทศอย่างมหาศาล เช่นเดียวกับการจัดไทยเฟค – เวิลด์ ออฟ ฟู้ด เอเชีย 2550 ซึ่งจัดขึ้นบนพื้นที่ของอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ 2–3 เมื่อปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง เนื่องจากได้รับความสนใจจากผู้ร่วมออกงาน 929 บริษัท จาก 30 ประเทศทั่วโลก มีบูธแสดงสินค้าและนิทรรศการภายในงานมากถึง 2,070 บูธ และมียอดผู้เยี่ยมชมงาน ถึง 22,011 คน ส่งผลให้มีการติดต่อเจรจาทางธุรกิจ คิดเป็นมูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท รวมถึงงาน เฮอร์บาไลฟ์ เอเชีย-แปซิฟิก เอ็กตร้าวาแกนซ่า 2549 งานที่มีตัวแทนสมาชิกธุรกิจเฮอร์บาไลฟ์จาก 13 ประเทศในภาคพื้น เอเชีย-แปซิฟิก ร่วมงานกว่า 16,000 คน ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยกระเตื้องขึ้นอย่างมาก และจากความพร้อมทั้งด้านสถานที่ ระบบสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และความ เป็นมืออาชีพของทีมงานอิมแพ็คฯ จึงส่งผลทำให้คณะกรรมการจัดงานยังคงเลือกใช้บริการของอิมแพ็คฯ อย่างต่อเนื่อง”
สำหรับการตัดสินรางวัล “การประชุมและนิทรรศการดีเด่นประจำปี 2549 – 2550” เป็นสิ่งสะท้อนให้เห็น ถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในทุกภาคส่วน ทั้งในด้านการท่องเที่ยว และในเชิงธุรกิจ เพื่อก้าวสู่การเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในระดับสากล เป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้า นิทรรศการและการประชุมในภูมิภาค และขานรับนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้ปี 2551 และ 2552 เป็นปีแห่งการลงทุน และปีแห่งการท่องเที่ยว โดยเกิดขึ้นจากความร่วมมือของทั้งภาครัฐ และเอกชน ประกอบด้วยคณะกรรมการจากสมาคมส่งเสริมเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) (ทิก้า) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เป็นผู้พิจารณาตัดสิน โดยคณะกรรมการพิจารณา จากองค์ประกอบต่างๆ ในการจัดงาน อาทิ ขนาดของงาน จำนวนคนที่เข้าร่วมงาน ความสำเร็จ ผลตอบรับ ที่ได้ ความพร้อมของสถานที่ของงาน ลักษณะรูปแบบการจัดงาน เป็นต้น
“ธุรกิจไมซ์ถือเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ โดยทุกฝ่ายคาดว่าในปี 2551 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 947,600 คน สามารถนำรายได้เข้าสู่ประเทศราว 65,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปี 2550 ดังนั้นในส่วนของ อิมแพ็คฯ เราได้เร่งพัฒนาศักยภาพของบุคลากร และความพร้อมด้านบริการต่างๆ ให้พร้อมรับมือ และมั่นใจว่าเราจะสามารถก้าวทันการเติบโตดังกล่าว ซึ่งนอกจากจะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจขององค์กรเองแล้ว ยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับมหภาคของประเทศอีกด้วย” นายลอย กล่าวในตอนท้าย