ไออีซี เทคโนโลยี จับมือ ซิสโก้ รุกธุรกิจเทคโนโลยีไร้สาย WiMAX พร้อมทดสอบระบบการให้บริการ WiMAX ที่สำนักงานใหญ่ การบินไทย พ.ย. นี้ คาดพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการปี 2552 หวังเจาะตลาดกรุงเทพฯ ปริมณฑล และพื้นที่ตัวเมืองในส่วนภูมิภาค มั่นใจลูกค้าที่ต้องการใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงให้การตอบรับเป็นอย่างดี
บริษัท ไออีซี เทคโนโลยี จำกัด (IEC Technology) ในเครือไออีซีกรุ๊ป พร้อมกับ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ จำกัด (CISCO) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ฮาร์ดแวร์ ด้านระบบเครือข่าย ที่มีความหลากหลาย และครอบคลุมที่สุดจากประเทศสหรัฐอเมริกา เชิญ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) ร่วมทดสอบการใช้งานผลิตภัณฑ์ WiMAX ซึ่งเป็นบรอดแบนด์ไร้สาย ยี่ห้อนาวินี่ (Navini) รุ่น Mobile WiMAX 802.16e-2005 กับ Application จริง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2551 นี้
นายนพปฎล สุขมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไออีซี เทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยถึงแผนการทดสอบระบบการใช้งานบรอดแบนด์ไร้สายว่ามีความแตกต่างจากเดิมมาก เนื่องจากบริษัทไม่ได้ทดสอบเพียงแค่เทคโนโลยีอย่างเดียว แต่เพิ่มการทดสอบกับการใช้งาน Application จริง โดยผลิตภัณฑ์บรอดแบนด์ไร้สาย WiMAX ที่นำมาใช้ในการทดสอบ ในครั้งนี้ คือ นาวินี่ รุ่น Mobile WiMAX 802.16e-2005
“นาวินี่ WiMAX เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากบริษัท Navini Networks, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ จำกัด ที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้นำระดับโลกทางด้านระบบเครือข่ายที่เปลี่ยนแปลงวิธีการเชื่อมต่อ การสื่อสาร และการทำงานร่วมกัน และที่สำคัญ ซิสโก้ยังถือได้ว่าเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์และราคาตลาดแล้ว ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวจึงมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ และที่สำคัญ บริษัท นาวินี่ ยังเป็นผู้บุกเบิกการผนวกรวมเทคโนโลยีการปรับบีมของสัญญาณแบบอัจฉริยะ หรือ “Smart Beamforming” เข้ากับเสาสัญญาณแบบ Multi-Input Multi-Output (MIMO) ซึ่งช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและขยายขอบเขตของบริการ WiMAX ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวมในการติดตั้งและการดำเนินงานสำหรับผู้ให้บริการได้เป็นอย่างดี”
นายนพปฎลกล่าวเพิ่มเติมว่าไออีซี เทคโนโลยีได้รับความไว้วางใจจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้นำระบบดังกล่าวไปทดสอบ ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัทการบินไทย โดยบริษัทได้ดำเนินการติดตั้งสถานีฐานที่ อาคาร 5 ชั้น 30 (วิภาวดีรังสิต) และติดตั้งอุปกรณ์ลูกข่ายที่อาคารไทยซิตี้ (รัชดาภิเษก) เพื่อทดสอบกับระบบงานจริงที่ย่านความถี่ 2.5 GHz โดยแบ่งการทดสอบออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ 1.ทดสอบการใช้งานเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการใช้งานจริง และข้อจำกัดของ WiMAX ในพื้นที่ย่านลาดพร้าว รัชดาภิเษก และนวมินทร์ และ 2.ทดสอบรูปแบบการใช้งาน WiMAX โดยมีทั้งการทดสอบ VoIP แบบ Phone to Phone และ PC to Phone รวมไปถึงการทดสอบทำ File Transfer และการให้บริการแบบ Multimedia
“ในอนาคตรูปแบบการให้บริการ WiMAX จะหลากหลายมากขึ้น เหมาะกับการให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมถึงพื้นที่ตัวเมืองในส่วนภูมิภาค” นายนพปฎล ระบุถึงแผนการขยายตลาด WiMAX สำหรับบริษัท โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ในพื้นที่ที่ยังขาดแคลนโครงข่ายสาย อาทิเช่น บริเวณชานเมืองกรุงเทพฯ ปริมณฑล และในส่วนภูมิภาค
สำหรับศูนย์บริการลูกค้านั้น กรรมการผู้จัดการกล่าวทิ้งท้ายว่าในระยะแรกจะใช้โครงข่ายธุรกิจร้านค้าปลีก ของ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC และพันธมิตรที่มีเครือข่ายการจัดจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ และมีความใกล้ชิดกับลูกค้าในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการดังกล่าวอย่างเป็นทางการได้ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นไป หลังจากได้รับใบอนุญาตในการให้บริการเชิงพาณิชย์แล้ว.