ผู้บริหาร บล.ฟิลลิป ประเมินสถานการณ์การเมืองยังไม่จบ เชื่อธุรกิจหลักทรัพย์ปี 2552 ยังเผชิญปัจจัยลบรอบด้าน ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด พร้อมปรับกลยุทธ์รับมือ ชูบริการ “One Stop Service ทันสมัย ครบวงจร เข้าถึงเข้าใจนักลงทุน มั่นใจรักษาส่วนแบ่งการตลาดได้ตามเป้า พร้อมขยับสู่บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินครบวงจร ไม่ใช่แค่บริษัทโบรกเกอร์ รองรับโลกการลงทุนเปลี่ยน
นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการด้านการลงทุนครบวงจร และผู้นำบริการด้านการลงทุนผ่านระบบ อินเทอร์เน็ต เปิดเผยว่า เชื่อว่าภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะยังทรงตัว โดยนักลงทุนส่วนใหญ่จะรอดูสถานการณ์ทั้งเรื่องการเมืองภายในประเทศ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ
ในส่วนของปัจจัยการเมืองในประเทศ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินยุบ 3 พรรคการเมือง และนำไปสู่การยอมยุติการชุมนุมชั่วคราวในทุกพื้นที่ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นั้น คาดว่าจะส่งผลในเชิงบวกต่อการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากสถานการณ์การเมืองถือว่ายังไม่ได้ข้อยุติที่เป็นบทสรุปสุดท้ายจริงๆ เพราะยังมีอีกหลายเงื่อนไขและตัวแปรที่ยังต้องติดตาม
“วิกฤติการเมืองเริ่มผ่อนคลายลง แต่ผมมองว่ายังไม่จบ ในระยะสั้นอาจเป็นบวกที่กลุ่มพันธมิตรฯยุติการชุมนุมและคืนสนามบิน แต่โดยรวมแล้วการเมืองไทยก็ยังมีความเสี่ยง เพราะยังมีเรื่องการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รวมถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ที่ต้องติดตามว่าจะเป็นที่ยอมรับของสังคมหรือไม่ ขณะที่ปัจจัยในต่างประเทศก็ยังละสายตาไม่ได้เช่นกัน” นายสุชายกล่าว
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ในปี 2552 ธุรกิจหลักทรัพย์จะยังต้องเผชิญกับปัจจัยลบรอบด้าน และการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงขึ้น แต่ บล.ฟิลลิป ก็มีความมั่นใจว่าจะสามารถรักษาระดับส่วนแบ่งทางการตลาดให้อยู่ในระดับ 3.2-3.3% เทียบเท่ากับในปัจจุบันได้ จากจุดเด่นในเรื่องของการให้บริการซื้อขายที่ครบวงจร (One Stop Service) ที่ทันสมัยและสะดวกสบายที่สุด โดยนักลงทุนสามารถเปิดบัญชีเดียว (single account) แต่ซื้อขายได้ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ ซึ่งจากการให้บริการในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีลูกค้าเข้ามาเปิดบัญชีใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
“ต้องยอมรับว่า ตลาดการเงินมีสินค้าใหม่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราสามารถทำให้ลูกค้าใช้บริการที่เดียวแต่ได้สิ่งที่ต้องการครบถ้วน เหมือนอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่มีสินค้าให้ลูกค้าเลือกซื้อได้ทุกอย่าง ก็ถือเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ซึ่ง บล.ฟิลลิป สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ด้วยการให้บริการแบบ One Stop Service โดยนักลงทุนเปิดบัญชีเดียวก็สามารถซื้อขายได้ทั้งหุ้น อนุพันธ์ หน่วยลงทุน และลงทุนในต่างประเทศ และสามารถซื้อขายด้วยตัวเองผ่านระบบอินเทอร์เน็ตผ่านเว็บไซต์ www.poems.in.th ที่ทำให้นักลงทุนมีความสะดวก และความมั่นใจในทุกการลงทุน” กรรมการผู้จัดการ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าว
นายสุชายยังได้กล่าวย้ำด้วยว่า การที่บริษัทฯ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการที่ครบวงจรในปัจจุบันถือเป็นการปูทางเพื่อนำไปสู่การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Adviser) ที่ให้บริการอย่างครบวงจรในอนาคต ไม่ได้เป็นเพียงแค่โบรกเกอร์ซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะสอดรับกับสถานการณ์การลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปได้เป็นอย่างดี