ในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า หลายบริษัททั่วโลก ได้ประกาศผลกำไรที่ลดลงตั้งแต่ 28-200% ขณะที่บริษัทที่ประสบปัญหากำลังพิจารณาปรับโครงสร้างใหม่ในเรื่องการลดขนาดขององค์กร หรือการขายสินทรัพย์ ซึ่งอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า บริษัท แซส ผู้นำในตลาดระบบธุรกิจอัจฉริยะ หรือ บีไอ (Business Intelligence: BI) และการวิเคราะห์ กล่าวว่า เทคโนโลยีการวิเคราะห์สามารถช่วยให้องค์กรเติบโตได้แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะการณ์ที่เศรษฐกิจถดถอยด้วยโซลูชั่นของ แซส
โดยในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังมีปัญหาทำให้เกิดความต้องการในด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพองค์กรมากขึ้น โดยการจัดการประสิทธิภาพนั้นจะช่วยเพิ่มข้อได้เปรียบด้านการแข่งขัน ด้วยการระบุถึงสิ่งที่ผลักดันมูลค่า ปรับปรุงให้เกิดความคล่องตัว และปรับใช้ทรัพยากรได้อย่างเหมาะสม การปรับใช้การวิเคราะห์ที่ดี ทำให้องค์กรสามารถใช้ตัวบ่งชี้ทางการเงินและที่ไม่ใช่ทางการเงินได้ ส่งผลให้เกิดการตัดสินใจบนพื้นฐานความเป็นจริงมากขึ้น
จากการศึกษาล่าสุดที่ชื่อว่า The Rise of Analytical Performance Management ของศาสตราจารย์ทอม ดาเวนพอร์ต ประธานแผนกการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศของวิทยาลัยเบ็บสั้น เผยเส้นทางใหม่ที่ผู้นำองค์กรกำลังสร้างขึ้น จากการสัมภาษณ์บริษัทและสำรวจทั่วโลก พบว่ากิจกรรมที่เกี่ยวกับการจัดการประสิทธิภาพด้านการวิเคราะห์ของบริษัท ตั้งแต่ธรรมดา ที่ไม่สามารถสร้างรายงานทางการเงินที่ต้องการได้ ไปจนถึงการวิเคราะห์ที่มีความละเอียดอย่างมาก เกี่ยวข้องกับการจัดการประสิทธิภาพการวิเคราะห์ ที่ช่วยในด้านการตัดสินใจและการปฏิบัติการ
“การลดค่าใช้จ่ายสำหรับผลกระทบระยะสั้นโดยไม่เข้าใจในสิ่งที่ผลักดันมูลค่าหรือผลกำไรอาจคุกคามความสามารถในการแข่งขันระยะยาวได้” นายดาเวนพอร์ต กล่าว พร้อมยกตัวอย่างความสำเร็จของบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีด้านการวิเคราะห์ เช่น โรงแรมฮิลตัน ฮาร์ราห์ เบสท์บาย วิคตอเรียซีเคร็ต เซียร์ส์ และโตรอนโตโดมมิเนียน โดยผู้บริหารในบริษัทดังกล่าว กำลังใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ เพื่อเรียนรู้สิ่งที่เป็นปัจจัยในการผลักดันประสิทธิภาพทางการเงินที่แท้จริงและเพิ่มปัจจัยเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในธุรกิจ”
กว่า 40% ของผู้บริหารทั่วโลกที่ตอบแบบสอบถาม “กำลังมุ่งสู่ทิศทางการวิเคราะห์มากขึ้นอย่างชัดเจน” โดยเฉพาะในด้านการจัดการประสิทธิภาพ โดยอีก 28% ระบุว่าพวกเขาต้องการให้มีการวิเคราะห์มากขึ้น ผลลัพธ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ดี ทำให้เกิดการรับรู้ในข้อได้เปรียบที่เพิ่มขึ้นและสร้างความเข้าใจยิ่งขึ้นในด้านวิธีการและแนวทาง โดยมีองค์กรจำนวนมาก ที่จะนำเทคโนโลยีการวิเคราะห์เชิงประสิทธิภาพไปใช้ในอนาคต
“ปัญหาด้านประสิทธิภาพในการจัดการเรื่องต่างๆ กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแบบคาดไม่ถึง”
นายดาเวนพอร์ต กล่าว และว่า “บริษัทต่างๆ กำลังเพิ่มประสิทธิภาพด้านข้อมูลมากขึ้น โดยที่พวกเขาต้องการสร้างข้อได้เปรียบที่ดีขึ้นจากข้อมูลดังกล่าว การวิเคราะห์สามารถช่วยผู้ตัดสินใจระบุตัวผลักดันหลักของธุรกิจได้ ดังนั้นพวกเขาจะสามารถนำข้อมูลจากการวิเคราะห์ดังกล่าวไปช่วยและบรรเทาภัยคุกคามด้านเศรษฐกิจได้เร็วกว่าคู่แข่ง”
นายขวัญชัย เลิศจุลัศจรรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์)จำกัด กล่าวว่า “จากการนำ SAS for Performance Management ไปใช้ในไซต์งานลูกค้ากว่า 1,500 แห่ง เราพบว่าตำแหน่งเริ่มต้นที่ดี คือการใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์เพื่อช่วยแปลยุทธศาสตร์ไปเป็นวัตถุประสงค์ด้านการดำเนินการ มาตรวัด เป้าหมาย และการเริ่มต้น”
โซลูชั่นที่สมบูรณ์ของบริษัท แซส เช่น โซลูชั่นการจัดการเชิงประสิทธิภาพ หรือ SAS? for Performance Management สามารถสนับสนุนความอัจฉริยะขององค์กร ลูกค้า ทางการเงิน ทางซัพพลายเชน และอื่นๆ เหมาะสำหรับตลาดผู้ให้บริการทางการเงิน การธนาคาร ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต การดูแลสุขภาพ การผลิต และอื่นๆ นอกจากนี้บริษัท แซส ยังมีโซลูชั่นที่สมบูรณ์ต่างๆ อีกมากมาย เช่น โซลูชั่นด้านการจัดการความเสี่ยงองค์กร โซลูชั่นด้านการตลาด เป็นต้น
เกี่ยวกับบริษัท แซส
บริษัท แซส เป็นผู้นำในตลาดซอฟแวร์และบริการด้านการวิเคราะห์ธุรกิจ และเป็นผู้ค้าอิสระรายใหญ่ในตลาดระบบธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence) ด้วยแอพพลิเคชั่นธุรกิจเชิงนวัตกรรมที่สนับสนุนโดยแพลตฟอร์มองค์กรอัจฉริยะ ทำให้บริษัท แซส ช่วยให้ลูกค้า 45,000 ราย สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพและส่งมอบมูลค่าในด้านการตัดสินใจทางธุรกิจที่รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น นับตั้งแต่ปี 2519 บริษัท แซส ได้มอบแนวคิดการสร้างสรรค์อํานาจแห่งการรอบรู้ หรือ The Power to Know? ให้กับลูกค้าทั่วโลก
