จีเอ็ม ประเทศไทย ขานรับนโยบายแผนธุรกิจของจีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น หลังรัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติวงเงินสนับสนุนการดำเนินธุรกิจมูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท เชื่อจะช่วยสร้างความมั่นคง และเสถียรภาพทางการเงินขององค์กร ด้วยแผนดำเนินธุรกิจเพื่อความสำเร็จและการเติบโตในระยะยาว พร้อมยืนยันให้ความเชื่อมั่นต่อลูกค้าเชฟโรเลต ในประเทศไทย ทั้งในปัจจุบัน และในอนาคตต่อไป
จีเอ็ม พร้อมดำเนินการตามแผนปรับโครงสร้างดังกล่าว โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การประสบความสำเร็จในการเติบโตระยะยาว การพัฒนาแบรนด์ให้ได้มาตรฐานสูงสุดเพื่อการแข่งขันระดับโลกและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
มร.สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์ เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่รัฐบาลสหรัฐฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ และอนุมัติเงินสนับสนุนในครั้งนี้ จีเอ็มยังคงยึดมั่นที่จะสร้างสรรค์รถยนต์ รถปิกอัพ และรถครอสโอเวอร์ที่ยอดเยี่ยมต่อไป พร้อมกับการเป็นผู้นำพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภคของเราทุกคน เรายังมั่นใจด้วยว่าจะสามารถดำเนินการตามแผนงานให้สำเร็จลุล่วง และเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในอนาคตของเจนเนอรัล มอเตอร์ส”
“นอกจากทิศทางยุทธศาสตร์อันชัดเจนแล้ว แนวทางความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ของจีเอ็ม ยังมุ่งเน้นที่การพัฒนาและเสริมเสถียรภาพให้ธุรกิจเพื่อกระตุ้นยอดจำหน่าย การปรับปรุงประสิทธิภาพของการผลิต และการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เราจะเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน โดยหมุนเวียนหน้าที่การทำงานและการมอบหมายงาน” มร.สตีฟ คาร์ไลส์ กล่าว
แม้ว่าวิกฤตการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลกในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 แต่จีเอ็มก็ยังสามารถทำยอดขายได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เหนือกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมในภาพรวม ผลพวงหลักมาจากอัตราเติบโตอย่างยอดเยี่ยมในจีน ซึ่งมียอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ยอดขายในอินเดีย ญี่ปุ่น และหลายประเทศในอาเซียน ก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย ส่งผลให้จีเอ็มมีกำไรในเอเชีย แปซิฟิค เพิ่มขึ้นอีกครั้งในปี 2551 ในตลาดภูมิภาคอาเซียน โดยมียอดขายโดยรวมสูงถึง 32,023 คัน เพิ่มขึ้น 9.4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2550 ซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 29,255 คัน
ขณะที่จีเอ็ม ประเทศไทย เมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา มียอดขายยนตรกรรมรวม 23,343 คัน เพิ่มขึ้นถึง 9.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเืทียบกับในปี 2550 ซึ่งมียอดขาย 21,240 คัน
สำหรับแผนยุทธศาสตร์ของจีเอ็ม และ เชฟโรเลต ประเทศไทยในปีนี้ มร.สตีฟ คาร์ไลส์ กล่าวว่า จะมุ่งมั่นดำเนินงานตามแผนการตลาดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ การพัฒนาการบริการหลังการขายให้ดียิ่งขึ้น รวมถึง ยังคงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพสมบูรณ์แบบ เพื่อเพิ่มความพึงพอใจสูงสุดให้แก่เจ้าของรถเชฟโรเลตทุกท่าน
“จีเอ็มและเชฟโรเลต ประเทศไทย ไม่เพียงมีแผนจะดำเนินงานตามปกติเท่านั้น หากเราจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อที่จะก้าวข้ามอุปสรรค ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจในเวลานี้ไปให้ได้ โดยมุ่งเน้นการใช้มาตรการหลากหลายรูปแบบ ทั้ง การควบคุมค่าใช้จ่ายและการลดต้นทุน ซึ่งจีเอ็ม ประเทศไทย ในฐานะที่เป็นบริษัทระดับโลก เราจะยังคงให้ความสำคัญกับ คุณภาพ ความปลอดภัย และต้นทุน ซึ่งถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะสร้างความมั่นคงในอนาคต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าทุกคน โดยในปี 2552 นั้น เชฟโรเลต มีแผนงานพัฒนาในทุกด้าน รวมถึงการเป็นผู้นำด้านพลังงานทางเลือกอีกด้วย” มร.สตีฟ คาร์ไลส์ กล่าวปิดท้าย