ออโต้เมคันนิกา ยกย่องให้ สายพานไทม์มิ่งใหม่ คอนติ กรีน รันเนอร์ เป็นยอดผลิตภัณฑ์ที่ดีกับสิ่งแวดล้อม

สายพานไทม์มิ่ง คอนติ กรีน รันเนอร์ ของคอนติเนนทอล ได้รับยกย่องให้เป็น 1 ใน 25 ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม ในงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวกับรถยนต์ ออโต้เมคันนิกา (Automechanika)

สายพานไทม์มิ่ง คอนติ กรีน รันเนอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และได้รับการบรรจุชื่อผลิตภัณฑ์นี้ลงในพจนานุกรมสิ่งแวดล้อม (Green Dictionary) ของ ออโต้เมคันนิกา ซึ่งเป็นคู่มือแนะนำให้ผู้มาร่วมงานแสดงสินค้าสามารถติดต่อกับผู้ผลิตที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้

คอนติ กรีน รันเนอร์ สามารถนำไปใช้แทนสายพานไทม์มิ่งที่เป็นโซ่แบบเดิม สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 3 กรัม ต่อการขับเคลื่อน 1 กิโลเมตร ช่วยให้การทำงานของแกนลูกเบี้ยว และเพลาข้อเหวี่ยง สอดประสานกันเป็นอย่างดี ทำให้ลดแรงเสียดทานได้ถึง 30 % เมื่อเทียบกับการใช้สายพานโซ่แบบเดิม ช่วยลดการเผาไหม้ของน้ำมันถึง 0.2 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งส่งผลให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 3 กรัม ต่อ 1 กิโลเมตร

“เมื่อคำนึงถึงมาตรฐานสูงสุดของอียูซึ่งกำหนดให้ลดลง 120 กรัม นับว่าผลิตภัณฑ์นี้สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ไม่น้อย” มร.เฮอร์มานน์ ชัทเทอร์ หัวหน้างานพัฒนาระบบสายพาน สายงานกลุ่มส่งกำลัง ธุรกิจคอนติเทค กล่าว พร้อมทั้งเสริมว่า “ขณะนี้ตลาดผลิตรถยนต์ยุโรปได้นำพัฒนาการนี้มาใช้ประโยชน์เป็นอย่างมาก เชื่อว่าในยุคหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้ผลิตจะหันมาใช้สายพานไทม์มิ่งแบบใหม่ที่เป็นเข็มขัดแทนที่แบบโซ่มากขึ้น”

ข้อดีอีกข้อของ คอนติ กรีน รันเนอร์ คือ สามารถลดเสียง หรือส่งเสียงที่เบากว่าสายพานแบบโซ่ขณะขับเคลื่อน เนื่องจากส่วนที่สัมผัสกับโลหะจะเป็นยางแทนที่จะเป็นเหล็กเหมือนสายโซ่ ทำให้เสียงเบาลง ประกอบกับวิวัฒนาการของเทคโนโลยีพูเล่ย์รูปวงรี ทำให้สายพานใหม่มีหน้ากว้างลดลงกว่าสายพานแบบทั่วไปถึง 30% และยังทำให้การขับขี่มีความซับซ้อนน้อยลง

คอนติ กรีน รันเนอร์ ได้ผ่านการทดสอบมากกว่า 240, 000 กิโลเมตรในยานยนต์ประเภทต่างๆ และแสดงให้เห็นว่ามีความทนทานตลอดอายุของเครื่องยนต์ “ความได้เปรียบของสายพานแบบโซ่ที่เคยมีนั้นหมดไปแล้ว ตรงกันข้ามสายพานแบบใหม่นี้มีความจูงใจมากกว่า” ชัทเทอร์กล่าว สายพานรุ่นพิเศษที่ทนต่อการชุ่มน้ำมัน สามารถนำมาใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำมันเป็นการทดแทนการขับเคลื่อนด้วยสายโซ่ได้อย่างชาญฉลาด

กลุ่มคอนติเนนทอล คอร์ปอเรชั่น เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งมอบชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำลำดับต้นๆ ของโลก และคาดว่ายอดขายในปี 2551 นี้จะมากกว่า 26.4 พันล้านยูโร หรือประมาณ 1.32 ล้านล้านบาท (1,320 พันล้านบาท) ในฐานะที่กลุ่มคอนติเนนทอล เป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ที่สำคัญ ได้แก่ ระบบเบรก ระบบและชิ้นส่วนสำหรับระบบส่งกำลังและแชสซี หน้าปัดรถยนต์ อุปกรณ์เพิ่มความบันเทิงในรถยนต์ ระบบอิเลคทรอนิกส์ในยานยนต์ ยางรถยนต์และยางสังเคราะห์ เป็นต้น

กลุ่มคอนติเนนทอล มุ่งมั่นพัฒนาระบบและส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่สูงสุด อีกทั้งร่วมกันปกป้องสภาพแวดล้อมของโลกด้วย นอกจากนี้ คอนติเนนทอลยังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่เข้มแข็งในการพัฒนาเครือข่ายการสื่อสารที่ใช้ในยานยนต์ ปัจจุบันกลุ่มคอนติเนนทอล คอร์ปอเรชั่น มีพนักงานกว่า 150,000 คน ในสำนักงานกว่า 200 แห่งใน 36 ประเทศทั่วโลก