“คอนวูด” ยิ้มรับไม้เชิงชายทูอินวัน หน้า 6 นิ้วและ 8 นิ้ว มารวมอยู่ในแผ่นเดียว ยอดขายกระฉูด หลังเริ่มทำตลาดตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ระบุกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างนิยมใช้ ช่วยลดต้นทุนในเรื่องเวลาก่อสร้าง 20%
นายสุทธิพันธ์ วัชโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวูด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุทดแทนไม้ภายใต้ชื่อ “คอนวูด” ในเครือปูนซีเมนต์นครหลวง เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้เริ่มพัฒนานวัตกรรมสินค้าไม้เชิงชายคอนวูด รุ่นทูอินวัน หน้า 6 นิ้วและ 8 นิ้ว มารวมอยู่ในแผ่นเดียวกัน ที่ช่วยลดการใช้ไม้ลงครึ่งหนึ่งและมีน้ำหนักเบา แต่มีความคงทน ช่วยประหยัดเหล็กโครงสร้างหลังคา โดยได้เริ่มทำตลาดมาตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่า ไม้เชิงชายคอนวูด รุ่นทูอินวันได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างบ้าน เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้มองว่า ไม้เชิงชายทูอินวัน สามารถประหยัดต้นทุนในเรื่องของระยะเวลาการก่อสร้างบ้านได้รวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ ความสำเร็จของยอดขายดังกล่าว มาจากการจัดสัมมนาเพื่อนำเสนอจุดเด่นของตัวสินค้าไม้เชิงชายทูอินวัน ให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มสถาปนิก กลุ่มโฮมเดคคอร์ กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างบ้าน กลุ่มตัวแทนจำหน่ายสินค้าในหัวเมืองใหญ่และจังหวัดรองลงไป เพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติของตัวสินค้าใหม่ที่ติดตั้งง่าย นอกจากนี้ คุณสมบัติของไม้เชิงชายทูอินวัน ยังช่วยลดต้นทุนให้กับตัวแทนจำหน่ายในการสต็อกสินค้าและการขนส่งสินค้าได้ถึง 50%
“นวัตกรรมที่นำไม้เชิงชายทูอินวัน หน้า 6 นิ้วและ 8 นิ้ว มารวมอยู่ในแผ่นเดียวกัน ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของคอนวูด ที่จะใช้เป็นสินค้าหัวหอกในการทำตลาด โดยแนวคิดในการพัฒนาสินค้าไม้เชิงชายทูอินวันในครั้งนี้ หวังลดต้นทุนในด้านระยะเวลาการก่อสร้างของผู้ประกอบการให้ได้ 20% ซึ่งความสำเร็จจากยอดขายเพียง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เรามั่นใจว่า ไม้เชิงชายทูอินวัน จะสามารถทำยอดขายรวมคิดเป็นสัดส่วน 10% จากยอดขายรวมในปีนี้” นายสุทธิพันธ์ กล่าว
บริษัท คอนวูด จำกัด เป็นผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้ชั้นนำของประเทศไทย ที่มีความแข็งแรงทนทาน และมีกระบวนการผลิตที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยได้รับประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานสากลการจัดการด้านคุณภาพ ISO 9001:2000 ตั้งแต่ปี 2548 และได้รับประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ISO 14001 ปี 2549 และปี 2550 ได้รับประกาศนียบัตรระบบจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย TIS/OHSAS 18001:1999