สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ สสปน. เร่งแผนฟื้นฟูธุรกิจการแสดงสินค้าไทย นำขบวนพันธมิตร อาทิ สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) และบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จัด “ดินเนอร์ทอล์ค ฟอรัม” ครั้งใหญ่แห่งปี เชิญกูรูเศรษฐศาสตร์มือหนึ่งของโลกชี้ทางฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ ร่วมบรรยายปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “วิกฤติการณ์เศรษฐกิจโลก และการผนึกกำลังทางการตลาด: นำเสนอมุมมองผ่านสายตานักเศรษฐศาสตร์และเรียนรู้บทเรียนจากประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลก” พร้อมเร่งกำหนดนโยบายเชิงรุกหวังกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศ มั่นใจสิ้นปีดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มธุรกิจเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 636,000 คน นำรายได้เข้าประเทศกว่า 52,000 ล้านบาท
นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เปิดเผยว่า “จากสภาวการณ์เศรษฐกิจที่เกิดผลกระทบไปทั่วโลก สสปน.ในฐานะตัวแทนประเทศไทยที่มีพันธกิจหลักในการผลักดันให้เกิดการเพิ่มจำนวนรายได้จากผู้เดินทางกลุ่มธุรกิจ
ในธุรกิจการสัมมนาและแสดงสินค้าอันเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับมหภาคของประเทศ จึงได้จัดงาน “ดินเนอร์ทอล์ค ฟอรัม” ขึ้น เพื่อกระตุ้นและเสริมสร้างความเชื่อมั่นในประเทศไทยต่อภาคธุรกิจ รวมทั้งจะเป็นแนวทางในการเตรียมความพร้อมและรับมือกับวิกฤติโลกและวิกฤติในประเทศไทย อันจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนภายในประเทศให้เพิ่มมากขึ้น”
งาน “ดินเนอร์ทอล์ค ฟอรัม” มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญและศักยภาพของธุรกิจการแสดงสินค้าของประเทศไทย อันมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการส่งออก การกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน และเพื่อนำเสนอองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างนักธุรกิจ นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ที่สนใจภาพรวมเศรษฐกิจและทิศทางการค้าของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองของวิกฤติเศรษฐกิจโลก และการแก้ปัญหาที่จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวและเตรียมพร้อมรับนโยบายทางการค้าเชิงรุกแนวใหม่อันมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมเพื่อเป็นการประกาศและตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนและการตลาดภูมิภาค
“นอกจากนี้การจัดงานในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นเวทีดินเนอร์ทอล์คครั้งยิ่งใหญ่ระดับประเทศและเป็นงานใหญ่ประจำปีที่ สสนป.จัดขึ้นปีละครั้ง ซึ่ง สสปน.ได้รับความร่วมมือในการจัดงานเป็นอย่างดีจากผู้ร่วมจัดงาน ได้แก่ สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) และบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดยได้นำเอาประเด็นปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเป็นที่จับตาในหมู่ประชาคมโลกอยู่ในเวลานี้มาเป็นไฮไลต์สำคัญของงาน โดยเชิญวิทยากรด้านเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในระดับโลกและของประเทศมาร่วมขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์และมุมมองต่อปัญหาดังกล่าว ภายใต้กิจกรรมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “วิกฤติการณ์เศรษฐกิจโลก และการผนึกกำลังทางการตลาด: นำเสนอมุมมองผ่านสายตานักเศรษฐศาสตร์และเรียนรู้บทเรียนจากประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลก” หรือ “Riding out the US Financial Crisis: Implication for Asia and Thailand” นายณัฐวุฒิ กล่าวเสริม
สำหรับเนื้อหาของงานปาฐกถาพิเศษแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก โดยส่วนแรกคือ ดร.อาวินด์ สุบรามาเนียน จะปาฐกถาในหัวข้อ “วิกฤติการณ์เศรษฐกิจโลก และการผนึกกำลังทางการตลาด: นำเสนอมุมมองผ่านสายตานักเศรษฐศาสตร์และเรียนรู้บทเรียนจากประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลก” หรือ “Riding out the US Financial Crisis: Implication for Asia and Thailand” และต่อจากนั้น ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ จะบรรยายถึงการปรับตัวของประเทศไทย การร่วมมือระหว่างประเทศไทยและประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในการแก้วิกฤติและความสำคัญของธุรกิจการแสดงสินค้าในฐานะที่เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้หัวข้อ Thriving in the New Age of Global Capitalism
ทางด้าน ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ หนึ่งในวิทยากรผู้ร่วมปาฐกถา กล่าวถึงความสำคัญของธุรกิจการแสดงสินค้าว่า “ในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจโลก ภาคธุรกิจการสัมมนาและแสดงสินค้าจะเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งในและระหว่างประเทศ ทั้งนี้ภาคธุรกิจดังกล่าวโดยเฉพาะธุรกิจการแสดงสินค้าจะเป็นแพลตฟอร์มที่กระตุ้นให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจโลกเปิดมากขึ้น ซึ่งทั้งสองเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นจากภาวะวิกฤติ นอกจากนี้ธุรกิจการแสดงสินค้าจะก่อให้เกิด Nation Wealth Creation พร้อมกับ Global Trade Creation”
นอกจากนี้ภายในงานยังมีการแสดงนิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องและมีส่วนร่วมในการผลักดันธุรกิจการแสดงสินค้าของไทย อาทิ กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กรมส่งเสริมการส่งออก สภาอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ กรมศุลกากร เป็นต้น มาร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลองค์ความรู้และสร้างเครือข่าย (Networking) ร่วมกันในเชิงบูรณาการอีกด้วย
“จากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ สสปน. ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากภาคธุรกิจ สมาคมการค้า สถานฑูต หอการค้า โรงแรม ธุรกิจจัดงานแสดงสินค้า และหน่วยงานจากภาครัฐ และการจัดงาน “ดินเนอร์ทอล์ค ฟอรัม” จะเป็นก้าวสำคัญที่จะส่งผลให้ทุกธุรกิจเกิดการตื่นตัวในการผนึกกำลังทางการตลาดร่วมกันท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจโลก ตลอดจนแสดงให้เห็นความสำคัญของศักยภาพธุรกิจการแสดงสินค้า
ของประเทศไทย ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้แก่ประเทศชาติได้ปีละกว่า 52,000 ล้านบาท และนำผู้เดินทางกลุ่มธุรกิจเข้าสู่ประเทศชาติไม่ต่ำกว่า 636,000 คน ซึ่ง สสนป.เชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของทุกภาคส่วนจะสามารถผลักดันให้ประเทศไทยยังคงรักษาความเป็นหนึ่งในธุรกิจการแสดงสินค้าของภูมิภาคอาเซียนไว้ได้” นายณัฐวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย