สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เดินเกมกลยุทธ์การตลาด 360 องศา เร่งเครื่องกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ชูธุรกิจการแสดงสินค้าไทยเป็นเรือธง ร่วมสนับสนุนงาน VIV Asia 2009 งานแสดงสินค้ายักษ์ใหญ่ระดับโลก อย่างเป็นทางการ ตั้งเป้าผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางของการจัดงานแสดงสินค้า ต่อยอดโครงการ “กรุงเทพฯ…มหานครแห่งการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติของอาเซียน” พร้อมประกาศความมั่นใจนำเงินเข้าประเทศต่อเนื่องทั้งปีไม่ต่ำกว่า 52,000 ล้านบาท
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เปิดเผยว่า “การให้การสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติให้เข้ามาจัดงานในประเทศไทยถือเป็นอีกหนึ่งพันธะกิจที่สำคัญของ สสปน. ในการผลักดันและสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางของการจัดงานแสดงสินค้าของภูมิภาคอาเซียนได้อย่างที่ตั้งใจไว้ โดยในปีที่ผ่านมาเราได้ให้การสนับสนุนงานแสดงสินค้าเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการกว่า 166 งาน ซึ่งไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมและศักยภาพของประเทศแล้ว แต่ยังเป็นการช่วยเพิ่มผลผลิตทางการค้าและการลงทุนและสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมหาศาลอันจสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับมหภาคของประเทศได้อีกทางหนึ่ง”
สำหรับในปีนี้ สสปน. ยังคงให้การสนับสนุนการประมูลสิทธิ์ดึงงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติให้เข้ามาจัดงานในประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง อันเป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการ “กรุงเทพฯ…มหานครแห่งการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติของอาเซียน” ซึ่งที่ผ่านมา สสปน.ได้ให้การสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าไปแล้วมากมายตั้งแต่งานแสดงสินค้าที่เคยจัดงานในประเทศ (Existing Show) งานแสดงสินค้าใหม่ๆ (New Show) และงานแสดงสินค้าที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศต่างๆ(Country Show) ซึ่งหนึ่งในงานแสดงสินค้าไฮไลต์ที่ สสปน.ให้การสนับสนุนในปี 2552 นี้ก็คือ งาน VIV Asia 2009 โดยสสปน.สามารถดึงงานให้เข้ามาจัดในประเทศไทยเป็นผลสำเร็จติดต่อกันถึง 8 ครั้งและในปีนี้เป็นครั้งที่ 9
“การสนับสนุนการจัดงาน VIV Asia 2009 ด้วยเล็งเห็นว่างาน VIV Asia 2009 จะสร้างประโยชน์อย่างมหาศาลต่อภาคอุตสาหกรรมปศุสัตว์และเกษตรกรรมของไทยและในประเทศ Asia ด้วยกัน และเล็งเห็นศักยภาพของอุตสาหกรรมปศุสัตว์ที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดย สสปน.ได้ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณการประชาสัมพันธ์ และการทำการตลาดของงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อโน้มน้าวให้กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมงาน รวมทั้งดึงผู้ซื้อจากประเทศในอาเซียนโดยผ่านแคมเปญ “100 Ahead” เพื่อเข้ามาชมงาน และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจในการเข้าร่วมงาน ทาง สสปน. จึงได้ประสานจัด VIV Fast Track ขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติ ตั้งแต่สนามบิน ไปยังโรงแรมที่พัก และจนเดินทางกลีบไปยังประเทศของตนเอง โดยคาดว่าภายในงานจะมีผู้จัดงานและผู้ชมงานจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 22,000 คน และทำรายได้จากการท่องเที่ยว ที่พักและช้อปปิ้งถึงกว่า 900 – 1000 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมรายได้ของงานจากกระแสเงินไหลเวียนภายในงานกว่า 57,000 ล้านบาท อันจะส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องได้รับผลประโยชน์โดยองค์รวม” นางศุภวรรณ กล่าวเสริม
งาน VIV Asia 2009 เป็นงานแสดงสินค้าและงานสัมมนาด้านปศุสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก โดยเน้นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารส่งออกของไทย อาทิ สุกร วัว สัตว์ปีก สัตว์น้ำ ไข่และนม งานนี้จัดขึ้นโดย บริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ และบริษัท เอ็น.ซี.ซี เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด กรมปศุสัตว์ และอีก 8 สมาคมใหญ่ด้านปศุสัตว์ ทั้งนี้งาน VIV Asia 2009 ยังเป็นงานที่สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เพระให้การสนับสนุนเนื่องจากเป็นงานที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมปศุสัตว์ไทย ทั้งในแง่ของการเพิ่มและพัฒนาคุณภาพในการเลี้ยงและการผลิต ทั้งยังเป็นช่องทางการค้าให้กับผู้ประกอบการในการเปิดตลาดใหม่ๆ สำหรับสินค้าปศุสัตว์ของไทย นอกจากนั้นในปีนี้จะมีการเปิดตัวงานน้องใหม่ภายใต้แบรนด์ VIV นั่นก็คือ Aqua VIV Asia ซึ่งเป็นงานแสดงนวัตกรรมด้านสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดและถือว่าเป็นครั้งแรกของเอเซีย-แปซิฟิค อีกด้วย ทั้งนี้มุ่งเป้าในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมสัตว์น้ำในเอเซีย-แปซิฟิค ดังนั้นทาง สสปน. จึงมองว่าการจัดงาน VIV Asia 2009 จะเป็นงานที่ช่วยกระตุ้นวงการปศุสัตว์ไทย ให้ได้มีโอกาสเข้าสู่ตลาดโลกอย่างแท้จริง เพราะเป็นงานที่รวมผู้ซื้อและผู้ขายในเอเซีย และทั่วโลกมาเจอกัน โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 มีนาคม 2552 นี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา
“การจัดงานในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมปศุสัตว์ของไทยทั้งองค์รวมแล้ว งาน VIV Asia 2009 ยังเป็นอีกหนึ่งงานสำคัญที่พิสูจน์ได้ว่าประเทศไทย ยังคงเป็นสุดยอดเวทีสำหรับงานแสดงสินค้าและงานประชุมนานาชาติของภูมิภาคเอเซียและมีความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ระดับนานาชาติ ซึ่งหากมองจากงานนี้ที่ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพมาโดยตลอด จะเห็นว่ามีจำนวนผู้เข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นทุกปี และปีนี้ยอดผู้เข้าร่วมงานโตขึ้นกว่า 8% โดยมีบริษัทที่เข้าร่วมงานกว่า 550 บริษัท มีจำนวน Pavilion เข้าร่วมกว่า 10 ประเทศ มีผู้เข้าร่วมงานโดยรวมทั้งสิ้นจาก 32 ประเทศ นอกจากนี้มีผู้แสดงงานในส่วน Aqua Pavilion กว่า 30 บริษัททั้งในและต่างประเทศจากทั่วโลก เป็นการยืนยันว่าต่างประเทศยังมีความเชื่อมั่นต่อการค้า การลงทุนและเศรษฐกิจของไทย” นางศุภวรรณ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับในปี 2552 สสปน.ได้เร่งกำหนดแผนกลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศา เพื่อประมูลสิทธิ์ดึงงานระดับนานาชาติให้เข้ามาจัดในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น และจากข้อมูลในช่วง 2 เดือนแรก มีงานธุรกิจการสัมมนาเชิงท่องเที่ยว ธุรกิจการสัมมนานานาชาติ และธุรกิจการแสดงสินค้า ที่ สสปน.ยืนยันให้การสนับสนุนอย่างเป็นทางการเป็นจำนวนถึง 173 งาน จากที่มีการคาดการณ์ไว้ตลอดทั้งปี 500 งาน ซึ่งในปีนี้ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานแสดงสินค้าในระดับภูมิภาคและระดับโลกอีกหลายงาน ได้แก่ INTERMARCH 2009, PROPAK Asia 2009, TIPREX, Melatex 2009 และ World Renewable Energy โดย สสปน.คาดว่าภายในปีนี้จะมีนักเดินทางกลุ่มธุรกิจเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวน 636,000 คน และ สามารถนำเงินเข้าประเทศไทยได้กว่า 52,000 ล้านบาท